รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด ที่มากถึง 83%
นวัตกรรมดังกล่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft อย่าง “Bill Gates” กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่รวยที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินมากถึง 4.4 ล้านล้านบาท
โดยจุดเริ่มต้นของ Microsoft Windows เกิดจากการที่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลกขณะนั้นอย่าง IBM เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC และกำลังตามหาบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ ซึ่ง IBM ก็ได้เลือกทำสัญญากับบริษัท Microsoft ที่ในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้ 5 ปี
แต่รู้หรือไม่ว่านอกจาก Bill Gates แล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะอีกคน ที่เกือบได้เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้กับ IBM และอาจจะกลายมาเป็นแบบ Bill Gates ในทุกวันนี้
แล้วเขาคนนั้น คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อัจฉริยะที่เกือบได้เป็น Bill Gates คนนั้น มีชื่อว่า “Gary Kildall”
Kildall เกิดในปี 1942 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่เดิม Kildall ตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบมาจะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ แต่ระหว่างเรียนระดับปริญญาตรีเขาเริ่มสนใจเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Kildall จึงเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ในปี 1971 ช่วงที่ Kildall กำลังเรียนปริญญาเอก เขาได้ยินมาว่า Intel จะเปิดตัว ไมโครโพรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ชื่อว่า “Intel 4004”
ไมโครโพรเซสเซอร์ ก็คือชิปขนาดเล็กที่มีแผงวงจรรวมจำนวนมหาศาล
ซึ่งนวัตกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่เดิมมีขนาดใหญ่ นิยมใช้กันแต่ในองค์กร มีขนาดเล็กลง จนเป็นไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในเวลาต่อมา
ด้วยความที่ Kildall สนใจเรื่องราวของไมโครโพรเซสเซอร์เป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานพาร์ตไทม์เป็นที่ปรึกษาให้กับ Intel ซึ่งหลัก ๆ แล้ว Kildall จะพัฒนาและเขียนโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับไมโครโพรเซสเซอร์ของ Intel ได้
จากจุดเริ่มต้นนี้ Kildall ก็ได้ต่อยอดจนสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์
ที่ชื่อว่า “CP/M” ที่นับว่าเป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แรกของโลก
โดยก่อนหน้าที่จะมี CP/M คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องบนโลกจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาของใครของมัน แต่ Kildall ได้พัฒนา CP/M ให้เป็นระบบปฏิบัติการกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
แรงผลักดันในการพัฒนา CP/M และผลงานอื่น ๆ ของ Kildall เกิดขึ้นจากความหลงใหลในคอมพิวเตอร์
เพราะจริง ๆ แล้ว Kildall ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจเลย แต่ภรรยาของเขาก็ได้โน้มน้าวให้จัดตั้งบริษัทเพื่อจดสิทธิบัตรระบบปฏิบัติการและทำธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ทั้งคู่เลยร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Digital Research”
ลูกค้าที่เลือกใช้ CP/M ของ Digital Research ก็เช่น IMSAI 8080 ไมโครคอมพิวเตอร์ชื่อดัง ที่เปิดตัวในปี 1975 ซึ่งทำออกมาแข่งกับไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นตำนานอย่าง Altair 8800 ของบริษัท MITS
โดย Altair 8800 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านั้น 1 ปี ยังใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาใช้เฉพาะรุ่น ชื่อว่า BASIC ซึ่งซอฟต์แวร์นี้เองก็เป็นผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของบริษัทซอฟต์แวร์น้องใหม่ที่ก่อตั้งโดยชายวัย 20 ปี ที่ชื่อว่า “Bill Gates” ซึ่งเขาได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วชวนเพื่อนมาตั้งบริษัท “Microsoft”
มาถึงในปี 1976 บริษัท Apple ก็ได้ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลกที่ชื่อว่า Apple I ก่อนที่ในปีถัดมาจะประสบความสำเร็จจาก Apple II ซึ่งบริษัท Apple เรียกว่าเป็น Home Computer ที่คนทั่วไปใช้งานได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์
นั่นเลยทำให้ Apple II ได้รับความนิยมสูงมากและสามารถลบคำสบประมาทที่คนมักเถียงกันว่าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับคนที่คลั่งไคล้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น คนทั่วไปคงไม่สนใจซื้อมาใช้งาน
ความสำเร็จของ Apple ก็ทำให้บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกในขณะนั้นอย่าง IBM อยากเข้ามาร่วมในตลาดคอมพิวเตอร์สำหรับคนทั่วไปบ้าง
ในปี 1980 IBM จึงได้เริ่มออกแบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเรียกว่า Personal Computer หรือ PC แทน Home Computer แบบ Apple เพราะ IBM ไม่ได้มองว่าคอมพิวเตอร์จะต้องใช้แค่ที่บ้าน แต่จะถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านั้น อย่างเช่นการนำไปใช้งานตามออฟฟิศ
IBM ต้องการทำให้ PC เริ่มวางขายได้เร็วที่สุด IBM จึงโฟกัสที่การออกแบบฮาร์ดแวร์โดยใช้ชิปของ Intel ส่วนซอฟต์แวร์อย่างระบบปฏิบัติการ ทางบริษัทจะจ้างบริษัทขนาดเล็กพัฒนาแทน โดยหนึ่งในบริษัทที่ IBM ติดต่อไปก็คือ Microsoft ซึ่งในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 5 ปี
IBM เดินทางไปที่ออฟฟิศของ Microsoft ซึ่งเมื่อไปถึง IBM ได้ให้ Gates เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เพราะ IBM ต้องการเก็บเรื่องที่กำลังพัฒนา PC ไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น IBM ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ Gates ฟัง
แต่โชคร้ายที่ตอนนั้น Microsoft ยังไม่ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
Gates จึงได้แนะนำกับ IBM ว่าให้ไปหา Kildall แห่งบริษัท Digital Research ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว IBM ตัดสินใจเดินทางไปพบ Kildall ที่ซีแอตเทิลทันที
Gates โทรไปบอก Kildall ว่าจะมีคนสำคัญมากไปพบ ให้ปฏิบัติกับพวกเขาดี ๆ
แต่ Gates เล่ารายละเอียดให้ฟังไม่ได้เพราะติดสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลกับ IBM
Kildall ไม่รู้เลยว่ากลุ่มคนที่กำลังมาพบเขา จะมาจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลก
ซึ่งเขากลับคิดว่าคนที่ Gates เล่าถึงจะเป็นเพียงกลุ่มคนที่มาจากบริษัทขนาดเล็ก
เขาจึงไม่ได้สนใจมากนักและเขาก็ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปอีกเมือง ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเขาไปขับเครื่องบินเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือไปติดต่องานทางธุรกิจกันแน่
นั่นจึงทำให้เมื่อ IBM ไปถึงออฟฟิศบริษัท Digital Research ทีมงานจึงได้เจอแต่เพียงภรรยาของ Kildall ซึ่งก่อนที่ทีมงานจาก IBM จะแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการให้ฟัง
ทาง IBM ก็ได้ขอให้ภรรยาของ Kildall เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลก่อนเหมือนกับที่ให้ Gates เซ็น แต่ภรรยาของ Kildall ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา
ซึ่งสาเหตุที่เธอไม่ได้เซ็นก็เพราะว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนบังคับ
รวมถึงเธอก็อยากรอ Kildall กลับมาพูดคุยเองมากกว่า
ส่วนทาง IBM ก็เริ่มหัวเสียที่เธอไม่ยอมเซ็นสัญญา ทีมงานจาก IBM ก็รอต่อไปไม่ไหว
สุดท้ายแล้ว IBM จึงเดินทางกลับไปโดยยังไม่ทันได้เล่ารายละเอียดเรื่องระบบปฏิบัติการให้ฟัง..
หลังจากนั้น IBM เลยติดต่อไปหา Gates อีกครั้ง
Gates เห็นว่าโปรเจกต์ PC ของ IBM กำลังจะเปลี่ยนตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของเราให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
Gates เลยบอก IBM ไปว่า Microsoft สามารถทำระบบปฏิบัติการให้ได้
ทั้งที่ความจริงแล้ว ในตอนนั้น Microsoft ยังไม่มีอะไรเลย
ทางออกเดียวที่ Microsoft จะมีระบบปฏิบัติการไปเสนอให้ IBM ได้ทันเวลาก็คือ การควานหาผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการไว้แล้วและไปซื้อต่อมา
Microsoft ไปเจอว่ามีโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า Tim Paterson ซึ่งทำงานในบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อ Seattle Computer ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Q-DOS
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft จึงเดินทางไปพบ Paterson เพื่อเจรจาขอซื้อ Q-DOS และดึงตัว Paterson มาเพื่อดัดแปลง Q-DOS ให้เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อขายให้ IBM
โดยใช้ชื่อว่า “MS-DOS” โดยที่ Microsoft ไม่รู้ว่า Q-DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ Paterson เลียนแบบและดัดแปลงมาจาก CP/M ของ Kildall
IBM ตกลงซื้อ MS-DOS ของ Microsoft แต่แทนที่ Microsoft จะขายระบบปฏิบัติการแบบครั้งเดียวจบ Gates เสนอกับทาง IBM ว่าให้ Microsoft ได้รับส่วนแบ่งจากทุกเครื่อง PC ที่ทาง IBM ขายได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ Gates เคยใช้มาแล้วตอนเขียนซอฟต์แวร์ให้ไมโครคอมพิวเตอร์ Altair 8800
ความนิยมของ PC จาก IBM ก็เป็นไปตามที่ Gates คาด เพราะหลังจากที่ “IBM PC” เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1981 ผ่านไป 2 ปีแรก IBM PC สามารถขายได้กว่า 2 ล้านเครื่อง เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เกือบ 10 เท่า
และด้วยความที่ IBM PC มีราคา คิดเป็นเพียง 2 ใน 3 ของ Apple จึงทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำไปใช้กันทั่วไปในสำนักงาน จน IBM สามารถเอาชนะ Apple และกลายมาเป็นผู้ผลิต PC ที่ใหญ่สุดในโลกได้
แต่จุดอ่อนของ IBM PC ก็คือตัวเครื่องไม่มีอะไรซับซ้อนและเลียนแบบได้ง่าย
จึงทำให้ในเวลาต่อมา แบรนด์อื่นอย่างเช่น Compaq และ HP ซึ่งก็เป็นผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์เหมือนกันสามารถทำตามได้ ในขณะที่เจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ก็ไม่เคยตกลงว่าจะขายระบบปฏิบัติการให้ IBM เจ้าเดียว..
Microsoft เลยสามารถขาย MS-DOS ให้กับคู่แข่งของ IBM ได้ทั้งหมด
ซึ่ง Microsoft ก็ยังใช้วิธีเดิมคือคิดส่วนแบ่งจาก PC ทุกเครื่องที่ขายได้
แต่สุดท้ายแล้ว ของเลียนแบบก็คือของเลียนแบบ
เพราะในภายหลัง MS-DOS ที่ดัดแปลงมาจาก Q-DOS ถูกพบว่าเป็นของที่เลียนแบบมาจาก CP/M ของ Kildall
พอ Kildall รู้ เลยจะฟ้องร้อง IBM และ Microsoft ว่าลอกเลียนแบบผลงาน
IBM ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เลยยอมวางขายระบบปฏิบัติการทั้ง 2 ยี่ห้อไปพร้อมกัน Kildall ดีใจได้เพียงไม่นาน ก็ต้องพบว่าราคาขาย CP/M ของเขา แพงกว่า MS-DOS ถึง 6 เท่า
ของคล้ายกันที่ใช้ทดแทนกันได้ แต่มีราคาต่างกันถึง 6 เท่า แถมคนส่วนใหญ่ได้รู้จักและลองใช้ MS-DOS มาก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นที่ต้องลองอีกยี่ห้อหนึ่ง สุดท้ายแล้ว CP/M จึงหายไปจากตลาด
Microsoft จึงกลายเป็นผู้ชนะไป ซึ่งในเวลาต่อมา MS-DOS ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “Microsoft Windows” ที่ได้เปิดตัวในปี 1983 ก่อนที่จะเริ่มวางขายจริงในปี 1985
หลังจากพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ Kildall เขาได้หย่ากับภรรยา และใช้ชีวิตอยู่กับความสิ้นหวัง จนท้ายที่สุด เขาก็ได้จบลงที่กลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนบริษัท Digital Research ก็ถูกขายให้กับบริษัท Novell ในปี 1991
จนกระทั่งในปี 1994 Kildall ในวัย 52 ปี ก็เสียชีวิตลง จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในบาร์ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีก่อนที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 95 จะเปิดตัวและดังระเบิดไปทั่วโลก
ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากวันนั้น Kildall ใส่ใจในสิ่งที่ Bill Gates พูดสักนิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ จะมีเส้นทางที่ต่างจากเดิมมากแค่ไหน
Kildall อาจกลายเป็นมหาเศรษฐีคล้าย Bill Gates
Bill Gates อาจจะไม่ได้โปรเจกต์นั้น และ Windows คงไม่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เส้นทางที่เป็นไปแล้วก็คือ ทุกคนรู้จัก Windows และไม่รู้จัก CP/M..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2004-10-24/the-man-who-could-have-been-bill-gates
-https://www.forbes.com/forbes/1997/0707/6001336a.html?sh=65404ead140e
-https://www.theguardian.com/technology/blog/2004/oct/16/themanwhocou
-https://www.embedded.com/was-dos-copied-from-cp-m/
-https://medium.com/@Harasees_Singh/gary-kildall-the-inventor-of-operating-system-ccae7bb50e46
-https://bookjelly.com/the-tragic-story-of-gary-kildall/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gary_Kildall
同時也有166部Youtube影片,追蹤數超過31萬的網紅SteveKunG,也在其Youtube影片中提到,กินกล้องอร่อย ► รายละเอียดเพิ่มเติม : https://minecraft.fandom.com/wiki/Java_Edition_1.17_Pre-release_1 #SteveKunG #CaveAndCliff #Candles ? ถ้าชอบ...
「windows 10 wiki」的推薦目錄:
- 關於windows 10 wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於windows 10 wiki 在 เกมถูกบอกด้วย v.2 Facebook 的最佳貼文
- 關於windows 10 wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於windows 10 wiki 在 SteveKunG Youtube 的最佳解答
- 關於windows 10 wiki 在 SteveKunG Youtube 的最佳解答
- 關於windows 10 wiki 在 SteveKunG Youtube 的精選貼文
- 關於windows 10 wiki 在 GitHub: Where the world builds software · GitHub 的評價
windows 10 wiki 在 เกมถูกบอกด้วย v.2 Facebook 的最佳貼文
[Article] 22 ก.ย. 2021 ครบรอบ 10 ปี Dark Souls เกมโคตรยากผู้บุกเบิกและนิยามเกมแนวใหม่ "Souls-like"
.
วันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายเกมแอ็คชัน RPG เกมหนึ่ง ซึ่งเป็นที่โจษจันในเรื่องความยากและความท้าทาย จนได้รับขนานนามในหมู่ชาวเกมในไทยว่า "เกมปาจอย" ด้วยความยากของมัน แต่แทนที่ผู้เล่นจะหลีกหนีออกจากเกมนี้ มันกลับได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนแนวทางการเล่นของเกมซีรีส์นี้ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจจนถูกส่งต่อให้เหล่านักพัฒนาเกมรุ่นใหม่ ทำเกมในแนวคล้ายกันออกมาเรื่อยๆ ที่เรียกกันติดปากว่า Souls-like หรือ Soulsborne
.
นั่นคือวันวางจำหน่ายของ Dark Souls ภาคแรกที่วางจำหน่ายบน PS3 และ XB360 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2011 ในประเทศญี่ปุ่น
.
Dark Souls เป็นเกมแนวแอ็คชัน RPG ในโลกแฟนตาซี มุมมองบุคคลที่ 3 ที่พัฒนาโดย FromSoftware ซึ่งตัวเกมเน้นหนักด้านการสำรวจ และระบบการต่อสู้ที่ต่อยอดมาจาก Demon's Souls ที่ผู้เล่นไม่สามารถแสปมปุ่มโจมตีย้ำๆ เพื่อฆ่าศัตรูได้ แต่จะต้องสังเกต เรียนรู้ด้วยความใจเย็น และวางแผนตลอดการเล่น เพราะความผิดพลาดเพียงนิดก็ทำให้ซอมบี้กีกี้ไม่กี่ตัว ก็สามารถฆ่าคุณที่มีของครบมือจนตายได้
.
จุดเด่นสำคัญอีกอย่างของ Dark Souls ก็คือแผนที่เปิดกว้างที่เชื่อมต่อถึงกันหมด ที่ให้ผู้เล่นได้ออกสำรวจ ค้นหาความลับ และเปิดทางลัดเชื่อมโยงกันซึ่งออกแบบได้อย่างชาญฉลาด รวมไปถึงเนื้อเรื่องของเกมที่จะไม่เล่าให้ผู้เล่นตรงๆ แต่จะมีตัวละคร NPC ต่างๆ คอยให้ข้อมูลแบบอ้อมๆ หรืออาจจะต้องอ่านจากรายละเอียดของไอเท็ม และโลกในเกมเพื่อปะติดปะต่อเนื้อเรื่องเอาเอง แม้ว่าอาจจะทำให้ผู้เล่นจำนวนมากเข้าไม่ถึงกับเนื้อเรื่องของเกม แต่มันก็เป็นเสน่ห์ของ Dark Souls ที่ทำให้เกิดการพูดคุยกันในชุมชนชาวเกมกันอย่างคึกคัก
.
สิ่งที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดของ Dark Souls อีกอย่างหนึ่งก็คือ "การลงโทษผู้เล่นที่ทำพลาด" โดยในเกมนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่า Souls ที่จะได้จากการกำจัดศัตรูและบอสต่างๆ และใช้เป็นเหมือนค่าเงินในเกม นอกจากใช้ซื้อของแล้ว ยังใช้ในการอัปเลเวลเพิ่มความสามารถในด้านต่างๆ ด้วย ซึ่งเมื่อผู้เล่นตาย Souls นี้ จะตกอยู่ตรงจุดที่ตาย หากผู้เล่นเกิดใหม่แล้วสามารถกลับไปเก็บได้ ก็จะได้ Souls นั้นคืนมา แต่หากผู้เล่นทำพลาดตายอีกครั้ง Souls นั้น ก็จะหายไปตลอดกาล มีกี่แสนก็หายไปตามนั้น ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่นอกจากท้าทายแล้ว ยังวัดใจและสร้างความกดดันให้กับผู้เล่นอย่างมากอีกด้วย
.
นอกจากนี้ระบบ Multiplayer ของ Dark Souls ก็โดดเด่นไม่แพ้ระบบอื่นๆ ที่ผู้เล่นสามารถ "บุก" เข้าไปในเกมการเล่นของผู้อื่นเพื่อ PvP หรือ "อัญเชิญ" ผู้เล่นอื่นๆ เข้ามาช่วยกัน Co-op ปราบบอสในเกมได้ ถึงแม้ว่าระบบนี้อาจจะไม่ได้มีความสำคัญในภาคแรกมากในระดับที่ต้องเล่น ถึงจะสามารถจบเกมได้ แต่มันก็สร้างสีสัน และถูกนำมาต่อยอดให้มีความสำคัญกับซีรีส์ในภาคถัดมาหลังจากนั้น
.
Dark Souls เป็นเกมที่กำกับและสร้างโดยคุณ Hidetaka Miyazaki ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งเกมซีรีส์ Souls ซึ่งคุณ Miyazaki ยอมรับว่า การออกแบบโลกแฟนตาซีของ Dark Souls ได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากผลงานแนวดาร์คแฟนตาซีต่างๆ โดยเฉพาะมังงะเรื่อง Berserk ผลงานของ อ. Kentarou Miura ผู้ล่วงลับ รวมไปถึงการออกแบบแผนที่ ที่ได้แรงบันดาลใจจากสถานที่จริง อาทิ Anor Londo ที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบบันไดวนมาจาก Château de Chambord และ Milan Cathedral ในประเทศอิตาลี และใช้เวลาในการพัฒนาราว 2 ปี
.
หลังจากการวางจำหน่าย Dark Souls ได้รับเสียงตอบรับไปในทางที่ดีมากๆ จากเหล่าสื่อต่างๆ ที่ยกย่องในหลายๆ แง่ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเลเวล ความหลากหลาย ระบบการเล่นออนไลน์ และโดยเฉพาะการทำให้ผู้เล่นล้มเหลวหลายต่อหลายครั้งในการพยายามปราบบอส จนสุดท้ายก็บรรลุผลสำเร็จ มันเป็นความรู้สึกที่คุ้มค่ากับการพยายามจริงๆ ซึ่งตัวเกมก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากชาวเกมด้วยเช่นกัน โดยในปี 2013 ทาง Bandai Namco ผู้จัดจำหน่าย ยืนยันว่า Dark Souls สามารถทำยอดขายได้ถึง 2.37 ล้านชุดทั่วโลก และแน่นอนว่า Dark Souls เป็นเกมที่ได้รับรางวัลเกมแห่งปี หรือ Game of the Year จากสื่อสำนักต่างๆ มากมาย รวมถึงได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ในเกมที่มีอิทธิพลต่อวงการเกมในศตวรรษที่ 21 มากที่สุดเกมหนึ่ง และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับทั้งเกมฟอร์มยักษ์ และเกมอินดี้น้อยใหญ่ต่างๆ นำเอาองค์ประกอบของ Dark Souls ไปพัฒนาต่อยอดในเกมของตัวเองจวบจนทุกวันนี้
.
อย่างไรก็ตาม ตัวเกมก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะเวอร์ชัน PC ที่เป็นการนำ Dark Soul ตัวเกมหลักพร้อม DLC มาวางจำหน่ายในชื่อ Dark Souls: Prepare to Die Edition เมื่อปี 2012 เหตุเพราะ นอกจากการใช้ระบบ Game for Windows Live ที่สร้างความลำบากให้กับชาวเกมบน PC ในยุคนั้นอย่างมากด้วยความยุ่งยากของมันแล้ว การพอร์ตก็ออกมาได้ย่ำแย่มากๆ และแทบไม่มีการแก้ไขใดๆ ให้เลย จนต้องหาม็อด DSFix มาช่วยปรับปรุงแก้ไข และ Dark Souls: Prepare to Die Edition ก็ได้กลายเป็น 1 ในเกมที่พอร์ตมาลง PC ได้ห่วยที่สุดตลอดกาล
.
จนกระทั่งตัวเกมได้รับการรีมาสเตอร์เพื่อลง PS4, XB1, Switch และ PC ในชื่อ Dark Souls Remastered เมื่อปี 2018 ที่เป็นการปรับปรุงกราฟิกและประสิทธิภาพให้ดีขึ้น รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เข้ามา แต่กระนั้นก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้าง ว่าการปรับปรุงที่เพิ่มเข้ามาดูจะไม่คุ้มกับราคาที่ต้องจ่ายเท่าไหร่นัก
.
https://www.cdkeys.com/dark-souls-remastered-pc-steam-cd-key?mw_aref=goodgamecheap
Dark Souls Remastered กำลังลดราคาใน cdkeys เหลือ 671.49 บาท (Steam)
.
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่หน้าร้านค้า
https://www.cdkeys.com/dark-souls-remastered-pc-steam-cd-key?mw_aref=goodgamecheap
.
Source: https://en.wikipedia.org/wiki/Dark_Souls
-------------------------------
GGKeyStore.com ร้านขายเกมและบัตรเติมเกม ราคาถูก รับของทันที เปิด 24 ชั่วโมง เชื่อถือได้ 100% สมาชิกกว่า 50,000 คน ขายไปแล้วกว่า 100,000 คีย์
-------------------------------
Battlefield 5 ลดราคาเหลือ 30 บาท (Origin) ดูที่นี่ - https://bit.ly/3tMpi88
windows 10 wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
นวัตกรรม ของ Samsung กับตำแหน่งผู้นำที่ยาวนานในตลาดสมาร์ตโฟน /โดย ลงทุนแมน
Samsung เป็นหนึ่งในบริษัทแถวหน้า ที่สามารถเข้ามาตีตลาดและแย่งชิงเค้กเจ้าตลาดในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ได้
เริ่มตั้งแต่ทีวี ที่เริ่มเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ปี 1969 ตามหลังผู้นำตลาดอยู่หลายปี จนสามารถขึ้นแท่นผู้นำตลาดทีวีโลกได้สำเร็จมาตั้งแต่ปี 2006 รวมระยะเวลา 14 ปี
ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์ต่อมาก็คือโทรศัพท์มือถือ ที่เริ่มตีตลาดนี้ครั้งแรก เมื่อปี 1991
และเปิดตัวโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Android ขึ้นครั้งแรก ในปี 2009 ด้วยรุ่น Samsung GT-I7500 Galaxy ซึ่งเป็นรุ่นแรกของตระกูล Galaxy
แต่ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมานั้น การแข่งขันในวงการสมาร์ตโฟนก็ดุเดือด มีคู่แข่งหลายเจ้าที่ผลัดกันครอบครองตลาดในช่วงที่ผ่านมา
แล้ว Samsung ก้าวมาเป็นผู้นำได้อย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เรามาดูผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนเมื่อ 10 ปีที่แล้วกัน
ปี 2009 มีผู้ครองตลาดคือ Nokia, Blackberry และ Apple
ปี 2020 มีผู้ครองตลาดคือ Samsung, Huawei และ Apple
โดย Samsung นั้น สามารถเอาชนะ Nokia ได้ครั้งแรกเมื่อปี 2012 และขึ้นแท่น Top 3 มาตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา
โดยจุดเปลี่ยนสำคัญของ โทรศัพท์ยี่ห้อ Samsung ก็คือการเปิดตัว สมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy S เมื่อปี 2010 และตามมาด้วย Galaxy Note ในปี 2011 ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างมากภายในระยะเวลา 2 ปี
จากสัดส่วนตลาด 19% ในปี 2011 เพิ่มมาเป็น 30% ในปี 2012 อ้างอิงจากเว็บไซต์ IDC
ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 นั้น ตลาดสมาร์ตโฟนกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด
แต่ละแบรนด์ต่างเน้นการพัฒนาสมาร์ตโฟน ที่มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก และแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งพาปากกาอีกต่อไป
เมื่อ Samsung เปิดตัว Galaxy Note จึงทำให้เป็นเรื่องที่แปลกใหม่และค่อนข้างสวนกระแสกับตลาดสมาร์ตโฟนในเวลานั้นเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนมองว่ามันเป็นสมาร์ตโฟนที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ
แต่รู้หรือไม่ว่า หลังจากที่เปิดตัวไป 10 เดือน
Samsung Galaxy Note สามารถจำหน่ายไปได้ทั้งหมด 10 ล้านเครื่องทั่วโลก
เป็นการตอกย้ำความสำเร็จของสมาร์ตโฟนพรีเมียม ที่มีปากกาในเวลานั้น
ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของ Samsung ในปัจจุบันที่พบว่ากว่า 80% ของผู้ซื้อตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ตโฟนรุ่นนี้เพราะต้องการปากกา
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ Samsung เองก็ยังคงถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนทุกระดับ ตั้งแต่ระดับราคาถูก ไปจนถึงระดับพรีเมียม
ถึงแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้จะมีคู่แข่งใหม่ๆ เข้ามามาก แต่ Samsung ก็ยังสามารถปรับตัว ยืนหยัดในตำแหน่งผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนได้อยู่
แล้ว Samsung ทำได้อย่างไร?
จุดเด่นของสมาร์ตโฟน Samsung อย่างแรกเลยคือเรื่องของนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมาตามความต้องการของผู้บริโภค จากการเรียนรู้ว่าผู้ใช้ต้องการอะไร อะไรคือ Pain-point และออกแบบสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีมาเกี่ยวข้อง ให้ผู้บริโภครู้ว่า Samsung สามารถแก้ปัญหาให้ได้
อย่างต่อมา ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของแบรนด์ Samsung ก็คือ คุณภาพหน้าจอ
โดย Samsung ยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ของจอแบบ AMOLED ในสมาร์ตโฟน อย่างเช่นหน้าจอแบบ SUPER AMOLED ที่มีการฝังฟังก์ชันการสัมผัสเข้าไปที่ตัวหน้าจอเลย โดยไม่ต้องแยกชั้นเหมือนแต่ก่อน ซึ่งมีการใช้ครั้งแรกในรุ่น Galaxy S ll และหลังจากนั้น Samsung ยังทยอยพัฒนาหน้าจอออกมาเรื่อยๆ ซึ่งเรียกได้ว่าหลายคนชอบมือถือแบรนด์นี้เพราะหน้าจอสวยกว่าแบรนด์อื่น
และอย่างสุดท้ายก็คือ Samsung เป็นแบรนด์ที่ออกผลิตภัณฑ์มาหลากหลายรุ่น ให้ลูกค้ามีตัวเลือกตามความสนใจ ส่งผลให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลายกลุ่ม
ไล่ตั้งแต่ รุ่นราคาถูกอย่างตระกูล Galaxy A Series 10 ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุน้อย มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้สมาร์ตโฟนที่มีฟังก์ชันสมาร์ตโฟนเบื้องต้นครบ
หรือตระกูลพรีเมียมแบบ Galaxy S ที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพ ทันสมัย และดีไซน์ที่สวยงาม
หรือตระกูลพับได้อย่าง Galaxy Fold และ Galaxy Z Flip ที่ตอบโจทย์คนกลุ่ม Early Adopters ที่ชื่นชอบนวัตกรรมและแฟชั่น
หรืออยากได้สมาร์ตโฟนที่เหมาะกับการทำงาน อย่าง Galaxy Note ที่สามารถทำให้การทำงาน หรือการจดบันทึก วาดเขียนต่างๆ นั้นง่ายขึ้น
แล้วปัจจุบัน Samsung มีอะไรที่แตกต่างจากคู่แข่งบ้าง?
ในตอนนี้อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของ Samsung ก็คือ การทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ระดับโลก เช่น Google, Spotify และ Microsoft
ยกตัวอย่าง ความสามารถในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ ทำให้เราสามารถควบคุมการทำงานในสมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy S และ Galaxy Note ผ่านคอมพิวเตอร์ได้ทันที โดยใช้แอปพลิเคชั่น
หรืออย่างล่าสุดในรุ่น Galaxy Note 20 ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็มีการพัฒนาตัวปากกา ให้มีความรู้สึกเหมือนจดด้วยปากกาจริงมากขึ้น ที่หากเปรียบเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อน ก็ดูเหมือนว่า Samsung จะพัฒนาไปมาก เช่น ฟังก์ชันเปลี่ยนลายมือเป็นตัวอักษร จัดลายมือที่เอียงให้ตรง ใช้ควบคุมพรีเซ้นต์ กล้อง ไปจนถึงอัดเสียงไปพร้อมกับการจดบันทึก
ทำให้ Samsung ถือเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำสมาร์ตโฟนประเภทมีปากกาอีกด้วย
แล้ว Samsung ทำรายได้จาก สมาร์ตโฟนมากแค่ไหน?
ในปี 2019 ทำรายได้ไปทั้งหมด 2.8 ล้านล้านบาท
ซึ่งถือเป็นหมวดสินค้าที่ทำรายได้ให้กับ Samsung Electronics มากที่สุด หรือคิดเป็น 41.6% ของรายได้ทั้งหมด
จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ Samsung จะไม่ได้เข้ามาในตลาดเป็นคนแรก
แต่ก็ค่อยๆ พัฒนาตนเอง จนสามารถทำให้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนโลกได้
ซึ่งก็น่าติดตามต่อไปว่า Samsung จะนำเอากลยุทธ์อะไรออกมาเพื่อรักษาความเป็นผู้นำที่มีมายาวนานนี้ไว้
แต่ที่ผ่านมาก็เรียกได้ว่ากรณีศึกษาของ Samsung น่าสนใจ
เพราะ Samsung สามารถแข่งกับตัวเองให้พัฒนาขึ้นอยู่เสมอ จนรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดได้จนถึงปัจจุบัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/AMOLED
-https://www.samsung.com/global/galaxy/what-is/super-amoled/
-https://images.samsung.com/is/content/samsung/p5/global/ir/docs/2019_Business_Report.pdf
-https://www.statista.com/statistics/271496/global-market-share-held-by-smartphone-vendors-since-4th-quarter-2009/
-https://www.industryweek.com/technology-and-iiot/article/21957331/samsung-overtakes-nokia-to-become-the-worlds-biggest-mobile-seller#:~:text=Technology%20and%20IIoT-,Samsung%20Overtakes%20Nokia%20to%20Become%20the%20World's%20Biggest%20Mobile%20Seller,to%20the%20rising%20smartphone%20giant.&text=After%2014%20years%20at%20the,world%20leader%20in%20mobile%20sales.
-https://mobiforge.com/news-comment/why-samsung-number-one-handsetsmartphone-vendor-why-your-mobile-strategy-should-emulate-samsung
windows 10 wiki 在 SteveKunG Youtube 的最佳解答
กินกล้องอร่อย
► รายละเอียดเพิ่มเติม :
https://minecraft.fandom.com/wiki/Java_Edition_1.17_Pre-release_1
#SteveKunG #CaveAndCliff #Candles
? ถ้าชอบก็อย่าลืมกดซับและกดกระดิ่งด้วยนาจา ?
------------------------------------------------
สวัสดีครับผม ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง SteveKunG
ชื่อเล่นผมเบสท์ หรือ ที่เรียก ๆ กันลุงเบสนะครับ
ขอให้สนุกกับการรับชมนะคร๊าบบ xD
ที่สำคัญคอมเมนต์แล้วอย่าลืมให้เกียรติกับผู้อ่านด้วยนะครับ
------------------------------------------------
0:00 Intro
0:15 เทียนกลับมาแล้ว!
0:30 เทียนสีสดใสขึ้น (จุดไฟแล้ว)
1:42 ป้ายเรืองแสงตัวหนังสือชัดขึ้น
2:05 ต้น Azalea ใส่ในกระถางได้
2:16 7 Advancements ใหม่
3:35 กด Spacebar เพื่อเลื่อน Credit แบบเร็ว
3:41 แก้บั๊ก Lag ตอนโหลด Skin
4:07 คำสั่งเช็ค Server - /perf
4:25 Outro
------------------------------------------------
► ข้อมูลการติดต่อ :
Facebook (Fan Page) : https://www.facebook.com/SteveKunGz/
Facebook (Personal) : https://www.facebook.com/wasinthorn.suksri/
Discord : https://discord.gg/54VqgZb
Twitter : https://twitter.com/RealSteveKunG
Instagram : bestkung2542
------------------------------------------------
► แนลสำรอง :
https://www.youtube.com/channel/UCJsXcLV7YqjTHUBFfMNu65w
------------------------------------------------
► Computer Spec and Gaming Gear :
CPU : AMD Ryzen 5 2600 Six-Core 3.40 GHz
RAM : 32 GB
GPU : Palit GTX 1050Ti
OS : Windows 10
Mouse : Razer Deathadder Elite
Keyboard : Razer BlackWidow Chroma V2
Headset : Razer Hammerhead Pro V2
Microphone : Samson Go Mic
Webcam : Logitech C922 Pro HD
------------------------------------------------
Music from https://www.epidemicsound.com/
License: CC BY (http://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)

windows 10 wiki 在 SteveKunG Youtube 的最佳解答
เราก็มีนะ เงินทิพย์...
► รายละเอียดเพิ่มเติม :
https://minecraft.fandom.com/wiki/Java_Edition_21w20a
#SteveKunG #CaveAndCliff #Axolotl
? ถ้าชอบก็อย่าลืมกดซับและกดกระดิ่งด้วยนาจา ?
------------------------------------------------
สวัสดีครับผม ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง SteveKunG
ชื่อเล่นผมเบสท์ หรือ ที่เรียก ๆ กันลุงเบสนะครับ
ขอให้สนุกกับการรับชมนะคร๊าบบ xD
ที่สำคัญคอมเมนต์แล้วอย่าลืมให้เกียรติกับผู้อ่านด้วยนะครับ
------------------------------------------------
0:00 Intro
0:13 Axolotl ไม่แกล้งตายบนบก
0:37 Axolotl กินเฉพาะปลาสด
1:19 Amethyst Geode หายากกว่าเดิม
1:30 แก้บั๊กหญ้าลอย (Bug 9 ปี!)
2:04 เอารากออกจาก Rooted Dirt
2:19 Texture ไอเท็มบล็อกแสงเปลี่ยน
2:27 NBT Tag ไฟปลอม (HasVisualFire)
2:46 Structure Block ปรับให้เห็นบล็อกล่องหนเพิ่ม
3:11 Outro
------------------------------------------------
► ข้อมูลการติดต่อ :
Facebook (Fan Page) : https://www.facebook.com/SteveKunGz/
Facebook (Personal) : https://www.facebook.com/wasinthorn.suksri/
Discord : https://discord.gg/54VqgZb
Twitter : https://twitter.com/RealSteveKunG
Instagram : bestkung2542
------------------------------------------------
► แนลสำรอง :
https://www.youtube.com/channel/UCJsXcLV7YqjTHUBFfMNu65w
------------------------------------------------
► Computer Spec and Gaming Gear :
CPU : AMD Ryzen 5 2600 Six-Core 3.40 GHz
RAM : 32 GB
GPU : Palit GTX 1050Ti
OS : Windows 10
Mouse : Razer Deathadder Elite
Keyboard : Razer BlackWidow Chroma V2
Headset : Razer Hammerhead Pro V2
Microphone : Samson Go Mic
Webcam : Logitech C922 Pro HD
------------------------------------------------
Music from https://www.epidemicsound.com/
License: CC BY (http://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)

windows 10 wiki 在 SteveKunG Youtube 的精選貼文
ไม่นะ เราได้กินขวาน
► รายละเอียดเพิ่มเติม :
https://minecraft.fandom.com/wiki/Java_Edition_21w19a
► Java 8 กับ Java 16 :
https://advancedweb.hu/a-categorized-list-of-all-java-and-jvm-features-since-jdk-8-to-16/
#SteveKunG #Bundle #SculkSensor
? ถ้าชอบก็อย่าลืมกดซับและกดกระดิ่งด้วยนาจา ?
------------------------------------------------
สวัสดีครับผม ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง SteveKunG
ชื่อเล่นผมเบสท์ หรือ ที่เรียก ๆ กันลุงเบสนะครับ
ขอให้สนุกกับการรับชมนะคร๊าบบ xD
ที่สำคัญคอมเมนต์แล้วอย่าลืมให้เกียรติกับผู้อ่านด้วยนะครับ
------------------------------------------------
0:00 Intro
0:13 Bundle/Sculk Sensor/Candle ถูกซ่อน
1:09 Anvil ตั้งชื่อได้สูงสุด 50 ตัวอักษร
1:21 ใช้เชือกลากหมึกได้แล้ว
1:39 Command - /item เปลี่ยน Syntax ใหม่
1:53 Technical - อัปเกรดจาก Java 8 เป็น Java 16
2:23 Datapack - Tag ของบล็อกที่ขุดได้ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ
3:33 Datapack - Tag ของบล็อกที่ต้องใช้เครื่องมือ Tier นั้น ๆ ขุด
4:25 Outro
------------------------------------------------
► ข้อมูลการติดต่อ :
Facebook (Fan Page) : https://www.facebook.com/SteveKunGz/
Facebook (Personal) : https://www.facebook.com/wasinthorn.suksri/
Discord : https://discord.gg/54VqgZb
Twitter : https://twitter.com/RealSteveKunG
Instagram : bestkung2542
------------------------------------------------
► แนลสำรอง :
https://www.youtube.com/channel/UCJsXcLV7YqjTHUBFfMNu65w
------------------------------------------------
► Computer Spec and Gaming Gear :
CPU : AMD Ryzen 5 2600 Six-Core 3.40 GHz
RAM : 32 GB
GPU : Palit GTX 1050Ti
OS : Windows 10
Mouse : Razer Deathadder Elite
Keyboard : Razer BlackWidow Chroma V2
Headset : Razer Hammerhead Pro V2
Microphone : Samson Go Mic
Webcam : Logitech C922 Pro HD
------------------------------------------------
Music from https://www.epidemicsound.com/
License: CC BY (http://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)

windows 10 wiki 在 GitHub: Where the world builds software · GitHub 的推薦與評價
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 ... GitHub CLI is available on macOS, Windows, and Linux ... <看更多>