กรณีศึกษา เมื่อ JOOX กับ Coke ร่วมมือกันสร้างแคมเปญดนตรี บนโลกดิจิทัล
JOOX X ลงทุนแมน
คงจะปฏิเสธไม่ได้...ว่าภายในเวลา 5 ปีกว่าๆ ที่ JOOX เข้ามาทำธุรกิจเมืองไทย
JOOX ได้กลายมาเป็นผู้นำในวงการ Music Streaming ไทย ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนแมส ทุกระดับ และทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงยังสร้างสีสันมากมายในวงการดนตรีอย่างต่อเนื่อง และยังครองความเป็นอันดับ 1 ในตลาดปัจจุบัน
แล้วอะไรที่ทำให้ JOOX ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ ?
คำตอบก็น่าจะเป็นจุดเด่นที่เราเห็นได้ชัดเจนอย่าง การนำเสนอคอนเทนต์ ที่ตอบโจทย์ความชอบของคนไทยอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น เพลงที่มีให้เลือกฟังหลากหลาย โดยเฉพาะเพลงไทย ที่มีทุกเพลง ทุกแนว รวมถึงเพลงสากล อินดี้ หรือแม้กระทั่ง K-POP รวมถึง Exclusive Content ที่หาฟังได้เฉพาะใน JOOX
นอกจากนี้ หากเปิดเข้าไปดู App ของ JOOX ก็จะเห็นว่า นอกจากจะฟังเพลงได้ ผู้ใช้ JOOX ยังสามารถเข้าไปร้องคาราโอเกะ การ Duet กับศิลปินคนโปรด
การ Live คอนเสิร์ต และการ Interact กับศิลปินหลากหลายค่าย รวมถึงการฟัง Podcast วิทยุออนไลน์ และ JOOX BUZZ การสร้าง VDO สั้นๆ ไว้แชร์ความ
ครีเอทกันได้อีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนที่ชอบดนตรีแบบครบถ้วน ทำให้ปัจจุบัน JOOX เป็น Music Community ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
นอกจากการเป็น Community ที่ตอบโจทย์แล้ว JOOX เองยังโดดเด่นในเรื่องการทำ Marketing Campaign ให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ มากมาย
และในความเคลื่อนไหวล่าสุด คือ JOOX จับมือกับ Coke สร้างประสบการณ์ฟังเพลงเหนือระดับ
กับแคมเปญระดับภูมิภาคที่ใช้ชื่อว่า ‘เปิดจังหวะซ่าในตัวคุณ’ Coca-Cola…Turn Up Your Rhythm
แล้วดีลนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
แฟนคลับของ JOOX และ Coke จะได้ประโยชน์อะไรจากดีลนี้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ว่า JOOX เป็นหนึ่งในธุรกิจของ Tencent บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศจีน และติดท็อป 10 แบรนด์ที่มูลค่าสูงที่สุดของโลก
โดยธุรกิจส่วนใหญ่ของ Tencent คือ เกมและแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์
ไลฟ์สไตล์ในออนไลน์ ที่เปิดบริการในหลายๆ ประเทศทั่วโลก
ก็เลยทำให้ JOOX จากที่เปิดตัวในฮ่องกงในปีพ.ศ. 2557
ก็ขยายธุรกิจไปยังหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น ไทย เมียนมาร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย
ซึ่งในแต่ละพื้นที่ที่ให้บริการก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง
เคล็ดลับความสำเร็จก็คือ หาก JOOX ไปทำธุรกิจในประเทศไหน
ก็จะเน้นให้บริการผลงานเพลงยอดนิยมของประเทศนั้นๆ ตั้งแต่เพลงฮิตในอดีตจนถึงปัจจุบัน
จนถึงร่วมมือกับศิลปินในประเทศนั้นๆ จัดคอนเสิร์ต หรือสร้างผลงานเพลงร่วมกัน หรือที่เรียกกันว่า JOOX Original นั่นเอง
สรุปคือ กลยุทธ์ของ JOOX พยายามกลมกลืนไปกับวัฒนธรรมทางดนตรี
และไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละประเทศนั่นเอง
Coke แบรนด์น้ำอัดลมอันดับหนึ่งในโลก รวมถึงในเมืองไทย
ที่วางตำแหน่งตัวเองเป็นแบรนด์ที่มอบความสดชื่นและความสุขให้แก่ลูกค้าด้วยแคมเปญการตลาดที่หลากหลาย
มาในปีนี้ จากแนวคิดที่ Coke ต้องการเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันผ่านเสียงดนตรี เพราะเชื่อว่าเสียงเพลงและดนตรีมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์ในหมู่เพื่อน ครอบครัว คนรัก จึงออกแคมเปญ ‘Coca-Cola…Turn Up Your Rhythm เปิดจังหวะซ่าในตัวคุณ’ เพื่อปลุกจังหวะ ปลุกความซ่าให้กับทุกคนผ่านประสบการณ์สุดพิเศษด้านดนตรีและเสียงเพลง ที่จะช่วยเพิ่มเติมให้ช่วงเวลาว่างหรือแสนน่าเบื่อของวันได้กลับมามีชีวิตชีวากันอีกครั้ง
แล้ว JOOX กับ Coke จะร่วมมือทำอะไรกัน ?
การร่วมมือในครั้งนี้เป็นแคมเปญชื่อ ‘เปิดจังหวะซ่าในตัวคุณ’ Coca-Cola…Turn Up Your Rhythm
ที่ Coke ร่วมทำแคมเปญกับ JOOX ใน 3 ประเทศคือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
โดยจะขอขยายความแคมเปญที่เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ฟัง รูปแบบแคมเปญนี้ก็คือ
แค่เราดื่ม Coke แล้วสแกน QR Code ที่ติดอยู่ตรงฉลากข้างขวด
จากนั้นก็ลุ้นรับสิทธิ์ฟัง JOOX VIP 7 วัน ที่นอกจากได้คุณภาพเสียงระดับสูงก็จะได้ใช้ครบทุกฟังก์ชัน
โดยจะแจกฟรีถึง 2.8 ล้านโค้ด โดย 1 ไอดี จะได้ 1 สิทธิ์
ที่น่าสนใจคือ แคมเปญนี้มีโชคถึง 2 ชั้น
เพราะคนที่ได้รับ JOOX VIP ไปแล้ว
ก็ยังสามารถมาลุ้นรอบสองด้วยการใส่ QR Code ลุ้นรับของรางวัลทุกสัปดาห์จำนวน 14,000 รางวัล
ไม่ว่าจะเป็น iPhone 12 Pro, Headphone, Marshall Acton 2 Speaker เป็นต้น
โดยแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2564
แน่นอนแคมเปญนี้คนที่ได้ประโยชน์สูงสุด คือ ผู้บริโภคคนไทยทั่วประเทศ
แล้ว JOOX กับ Coke สะท้อนความแข็งแกร่งอะไรให้เห็น ผ่านความร่วมมือในแคมเปญนี้?
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น JOOX เป็นบริษัทในเครือของ Tencent
มีความเชี่ยวชาญในการทำ Music Marketing ด้วยการมีสารพัดฟังก์ชันที่นอกจากฟังเพลง ก็ยังมีคาราโอเกะ และสามารถร้องประสานเสียงกับศิลปิน
หรือสร้างคลิปวีดีโอสั้นๆ ฟัง Podcast รับชมคอนเสิร์ต
จนถึงมีกิจกรรมพิเศษกับศิลปินต่างๆ ที่ Exclusive เฉพาะใน JOOX
ที่น่าสนใจ สารพัดฟังก์ชันมากมายเหล่านี้ เป็นอะไรที่ถูกใจคอเพลง คอเอนเตอร์เทนเมนต์ ก็เลยทำให้ JOOX ได้รับความนิยมจากผู้คนในวงกว้างและทุกระดับชั้น
ส่วนอีกข้อคือ JOOX มี 2 สิ่งสำคัญที่อยู่ในมือ นั่นคือ เทคโนโลยี + ข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้จำนวนมาก
โดยสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ มาวิเคราะห์สร้างฟีเจอร์ใหม่ๆ คอนเทนต์ที่โดนใจ
รวมไปถึงการนำข้อมูลเหล่านี้ มาช่วยซัพพอร์ตพาร์ทเนอร์ สร้างสรรค์แคมเปญดีๆ ออกสู่สาธารณะ
ด้านของ Coke เองก็มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ตามความต้องการของผู้บริโภค ไปพร้อมๆ กับเชื่อมโยงความผูกพันของผู้คนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างช่วงเวลาพิเศษ
หัวใจสำคัญของการทำการตลาดของ Coke คือ ‘การทำความเข้าใจกับความต้องการของผู้บริโภค และตอบโจทย์ความต้องการนั้นอย่างลงตัว มีการพัฒนาตลอดเวลาเพื่อปรับตามความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา’ ภายใต้ความเชื่อที่ว่า Coke ต้องไปอยู่ในพื้นที่ที่ผู้บริโภคอยู่ และหาทางสร้างปฏิสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมและเข้าถึงแบรนด์ได้มากที่สุด เพื่อมอบความแปลกใหม่ สร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ และรักษาความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค
ซึ่งในแคมเปญนี้ Coke ก็เชื่อว่า บทเพลง คือ หนึ่งในตัวกลางสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงแบรนด์กับผู้บริโภค รวมถึงเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้บริโภคเข้ากับเพื่อน ครอบครัว คนรัก โดย Coke จะมาเติมเต็มความมีชีวิตชีวาและปลุกความซ่าไปพร้อมๆ กับการพักผ่อนขณะเพลิดเพลินกับเสียงเพลง
แคมเปญนี้จึงยิ่งสะท้อนให้เห็นหัวใจสำคัญทางการตลาดและความเชื่อของ Coke ได้เป็นอย่างดี
การร่วมมือกันของ 2 แบรนด์นี้ จึงนับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเลยทีเดียว
เมื่อ ณ วันนี้หลายคนมักตั้งคำถามว่าดีลความร่วมมือที่ดีทางธุรกิจ จะต้องเป็นแบบไหน ?
คำตอบ คือ ต้องได้ประโยชน์ทั้ง 3 ฝ่าย
นั่นคือทั้ง 2 แบรนด์ที่ร่วมมือกัน และคนสุดท้ายก็คือ ผู้บริโภค
เหมือนอย่าง JOOX กับ Coke นอกจากสร้างแบรนด์ผ่านแคมเปญนี้แล้ว
ก็ยังทำให้ผู้บริโภคคนไทยมีความสุข...กับเสียงเพลง นั่นเอง..
#JOOXTH #JOOXเปิดจังหวะซ่า #เปิดจังหวะซ่า #CokeUplift #CocaColaTH
「iphone marketing campaign」的推薦目錄:
iphone marketing campaign 在 Hapa Eikaiwa Facebook 的最佳貼文
☆ネイティブの生の会話からリアルな英語を学ぶ☆
=================================
1) Gimmick (からくり)
=================================
Gimmickは人の興味を引くための「仕掛け」や「からくり」を意味する単語です。マクドナルドのハッピーセットについてくるおもちゃや、コンビニ700円くじ、商品の広告塔に起用される人気俳優などがその例です。使い方によっては人をだまそうとするネガティブな意味合いもあります。
✔︎Gimmickが名詞、Gimmickyが形容詞です。
<例文>
He tried every gimmick to attract customers but nothing worked.
(彼は客を引きつけるためにあらゆる策を試しましたが、どれもうまくいきませんでした。)
In my opinion, it seems like a cheap marketing gimmick.
(私の意見としては、それでは安っぽいマーケティング戦略のように感じます。)
It might just be me but the campaign seems too gimmicky.
(私だけかもしれませんが、そのキャンペーンはあまりにも策略的に見えます。)
=================================
2) Let’s face it (現実を見よう)
=================================
Faceが「直面する」ことを意味することから、let’s face itは「現実を見よう」「現実を認めよう」「率直に言おう」という意味の表現となります。Let’s be honestのより口語的な表現です。
<例文>
Let’s face it. We can’t afford to take a trip right now.
(現実を見ようよ。私たちに今旅行へ行く余裕はないよ。)
Let’s face it. Things aren’t going well right now. We have to do something about it.
(現実を認めよう。今うまくいってないよ。何かしないとダメだ。)
Let’s face it. I screwed up and I have to take responsibility for it.
(率直に言うと私は取り返しのつかないことをした。その責任を取らなくてはいけない。)
=================================
3) I'll give you that(それは認めよう)
=================================
I’ll give you that は「それはその通りだ」や「それは認めるよ」という意味の表現で、相手の考えや発言が正しいことを認める時に使われます。しかしこの表現のポイントは、相手の発言を全面的にではなく「一部は認める」場合に使われます。そのため、I’ll give you that but ____(確かにその通りだが〜)の形を取るのが一般的です。
<例文>
Yeah, he’s a hard worker. I’ll give you that. But he’s not efficient.
(ああ、彼は頑張ってるよ。それは認めるけど、彼は効率が悪いんだよね。)
It looks nice. I’ll give you that. But the quality is really poor.
(見た目はいい。それは認めるよ。でも質が本当にひどい。)
The food at that restaurant was good. I’ll give you that. But it’s way overpriced.
(あのレストランの料理はおいしかった。それは認めるけど値段が高すぎる。)
=================================
4) Buy into(〜を信じる)
=================================
この表現は、何かしらの考え方やアイデアに対して賛成すること、認めること、信じることを意味する表現で、believeよりも口語的な響きがあります。「I don’t buy into that.(私は信じません)」のような否定文、もしくは「Do you buy into that?(それを信じてるの?)」のような疑問文で使われるのが一般的です。
<例文>
Do you buy into that? It sounds too good to be true.
(あれを信じてるの?話がうますぎる気がするんだけど。)
I never bought into the idea that you’re too old to start something.
(何かを始めるのに遅すぎるという考え方を私は1度も信じたことがありませんでした。)
I don’t buy into all the stuff they show on TV.
(テレビで流れている情報は信じていません。)
=================================
5) Gloss over(隠す)
=================================
Gloss overは都合の悪いことを隠したりごまかしたりすることを意味する口語表現です。間違いや失敗を取り繕ったり、不都合なことに触れるのを避けたりする状況で使われます。
✔︎「間違いをごまかす」はgloss over one’s mistake、「問題を軽く扱う」はgloss over the problemのように使われます。
<例文>
Did you notice that she was trying to gloss over her mistake?
(彼女が間違いをごまかそうとしていたことに気づきましたか。)
He barely mentioned about the problem at the meeting today. He just glossed over it.
(彼は今日のミーティングでその問題にほとんど言及しませんでした。その問題に触れるのを避けましたね。)
He glossed over the fact that he got fired.
(彼は首にされた事実を隠した。)
〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜
本日ご紹介したフレーズは、iTunes Japanの「Best of 2017/2018/2019」に3年連続選出されたHapa英会話の人気コンテンツPodcast第281回「iPhoneとAndroid」の内容の一部です。Podcastの全内容をご覧になりたい方は、Hapa英会話のブログをチェック!会話の全文、会話の要約、ピックアップしたフレーズ、ポッドキャストでは説明できなかった表現や言い回しが掲載されています。
https://hapaeikaiwa.com/podcast281
〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜〜