ความรู้สึกหลังใช้งาน Mouse Logitech MX Master 3 (for Mac (ต่างกับปกติคือไม่มี USB Dongle มาในกล่อง และถูกกว่า)) มาเกือบค่อนวัน คือมันลดการขยับนิ้วและข้อมือไปได้เยอะพอสมควรเลยครับ...
หลังจากที่โดนอาจารย์ศุภเดช ป้ายยาไปวันก่อน ผมก็หาวิธีป้องกันไม่ให้ตัวเองโดนป้ายยา ซึ่งเคยใช้กับแล็ปท็อปที่เคยดูแกใช้มาก่อนแล้วก็คือ ซื้อมันซะให้จบ ๆ ไปแล้วก็เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์...
จุดแตกต่างระหว่าง MX Master 3 ธรรมดากับ for Mac คือมันจะตัด Unifying Reciver หรือที่บ้านเราเรียก USB Dongle ออกไปครับ ซึ่งสำหรับเครื่องแมคมันไม่จำเป็นเลยใช้ Bluetooth เชื่อมต่อก็จบ แต่สำหรับ PC ตั้งโต๊ะอาจจะต้องใช้ครับ ซึ่งถ้าราคาเต็มปกติจะต่างกันหลักร้อย ถ้าร้านออนไลน์ต่างกันไม่เท่าไหร่ ดังนั้นถ้ามีตัวรับอยู่แล้ว หรือไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอามาก็ได้ครับ...
ข้อดีหลังจากใช้งานเทียบกับเมาส์ PC ก่อนละกัน เพราะปุ่มมันเยอะพอสูสีกันได้อยู่ ก็คือ มันมีปุ่มที่มากขึ้นอีกหน่อย สำหรับคนที่ชอบใช้ปุ่มข้างนิ้วโป้ง Back - Next ก็ต้องบอกว่ามันวางถูกตำแหน่งมือมากขึ้นครับ จากเดิมที่บางทีเผลอไปกด Backspace บนคีย์บอร์ดบ้างก็ไม่ต้องเลย และตัวปุ่มเองก็มีความแข็งประมาณนึงพอที่จะไม่พลาดไปจับเมาส์แล้วโดนปุ่มลั่น (ใครเคยกรอกแบบฟอร์มอยู่แล้วเผลอลั่นปุ่ม back จะเข้าใจครับ)...
ปุ่มที่เรียกได้ว่าแตกต่างจากเมาส์อื่นที่ใช้มาคือเมาส์ปุ่มกลาง ที่เรียกได้ว่า เฮ้ย!!! แม่นยำในการกลิ้งได้มากขึ้น โดยมันจะมีการล็อคการกลิ้งเมาส์แบบทีละแก๊ก แถมมีแรงต้านนิดหน่อยให้รู้สึกว่าไม่ล้อฟรีเกินไปอีกต่างหาก ทำให้การเลื่อนขึ้นลงตำแหน่ง (ลองในโปรแกรมทำตาราง) พบว่ามันเลื่อนขึ้นลงได้แม่นมาก และถ้าเลื่อนปุ่มกลางแรงหน่อยมันจะปรับเข้าโหมดล้อฟรีอัตโนมัติ และถ้าเอานิ้วไปหยุดมันจะมีแรงต้านเหมือนกำลังเหยียบเบรคนิดหน่อยด้วย...
ส่วนใครที่สายเลื่อนขึ้นลงอิสระ ชอบล้อฟรี ก็แค่คลิกปุ่มใต้เมาส์ลูกกลิ้งก็จะสลับโหมดล้อฟรีได้ เหมาะสำหรับการใช้งานบนบราวเซอร์, อ่าน forum, ใช้งานกับเว็บเป็นหลักได้คล่องแคล่วดี ถ้าจะไปเลื่อนทีละแก๊กเหมือนเดิมก็แค่กดปุ่มใต้ลูกกลิ้งอีกที...
อีกปุ่มที่เรียกว่าเป็นคีย์สำคัญและช่วยประหยัดเวลามากก็คือ ปุ่มไถแนวนอนตรงนิ้วโป้ง ที่ลองดูแล้วกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอแบบดีเลย ปกติเลื่อนแนวนอนบน Magic Mouse แล้วมันก็ยังมีอาการไหลบ้างตอนยกนิ้ว จนต้องไปใช้ Trackpad แต่อันนี้ใช้ลูกกลิ้งแล้วแม่นมากในการเลื่อนไทม์ไลน์ หรือโปรแกรมจัดการตารางแนวนอนก็กลิ้งได้เช่นกันสะดวกเวลาไม่ต้องไปเลื่อน Scroll Bar...
ซึ่งปุ่ม Scroll แนวนอนมันปรับตามแอพได้เช่นสำหรับการแต่งภาพสามารถเลื่อนเพื่อเป็นการซูมเข้าซูมออกในการทำงานให้ประหยัดเวลากดปุ่ม Ctrl+ลูกกลิ้งได้พอสมควร และในแอพ MX Master เองก็มีการปรับให้เข้ากับโปรแกรมต่าง ๆ ได้อัตโนมัติ...
อ้อแล้วปุ่ม Scroll แนวนอนเวลามาใช้กับ Browser มันจะเป็นการเลื่อน Tab สะดวกทำให้ไม่ต้องมาคอยกด Ctrl+T หรือ Ctrl+Shift+T ด้วย อันนี้สะดวกจริงเวลาเปิดหลาย Tab ครับ...
ความเอียงของเมาส์ช่วยให้ไม่เมื่อยมือได้มากควร คือมันจะเอียงในตำแหน่งที่ไม่ต้องบิดข้อมือเพื่อมาแบนราบไปกับเมาส์ ทำให้ใช้งานนาน ๆ ไม่เมื่อย (ผมใช้สลับกันหลายอันเคยชินเลยไม่ค่อยมีปัญหาแบบนี้)...
แต่แน่ ๆ คือมันจับสะดวกมากพอดีมือด้วยขนาดของตัวมันเอง เต็มมือกว่า Magic Mouse อย่างชัดเจนมาก ๆ ...
ปุ่ม Gesture เหมือนเป็นปีกซ้ายรองนิ้วโป้ง ก็ยังมีฟีเจอร์กดแล้วเลื่อนเมาส์ในทิศทางต่าง ๆ เพื่อเข้าโหมดต่าง ๆ เช่นสลับ Desktop กรณีใช้สองเครื่องสลับกัน เลือกหน้าแอพรวม (ซึ่งผมไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ แต่ลองดูแล้วก็ทำได้ดี)...
ปุ่มคลิกซ้ายขวาของเมาส์มันมีเสียงนะครับ แถมเสียงคลิกซ้ายขวาต่างกันชัดเจนดี คนชอบคลิกเมาส์มีเสียงน่าจะชอบ แต่ก็ไม่ได้ดังมากเท่าเมาส์เกมมิ่ง ที่บางรุ่นคลิกมัน ๆ นี่มีปุ่มเด้ง (ยกแผ่นคลิกสูงจากปุ่มทำให้มันเด้งสะท้อนเวลาคลิก) สำหรับคนใช้ Silent Mouse ประจำอาจจะรู้สึกขัดใจไปบ้าง
ที่กล่องเห็นเขียนว่าสามารถใช้งานกับ iPad ได้ ซึ่งหลัก ๆ ตอนนี้ iPad เองก็เหมือนเป็นคอมพิวเตอร์ย่อม ๆ แล้ว ดังนั้นการเอาไปใช้งานข้างนอกก็น่าจะสะดวกขึ้นกับการควบคุมต่าง ๆ นอกจากการทัชหน้าจอพอสมควรครับ (อันนี้ยังไม่ได้ใช้)...
ในกล่องรุ่น For Mac จะมีแค่ ตัวเมาส์, คู่มือ, และสาย USB C สำหรับชาร์จครับ ระบุว่าชาร์จเต็มใช้ได้ 4 เดือน ชาร์จเร็วนาทีเดียวใช้ได้วันนึง...
จุดสังเกตอย่างนึงที่ดูน่าจะไม่เหมาะกับการพกพาเท่าไหร่ก็คือตัวเมาส์มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้เวลาพกพาอาจจะต้องหาเคสใส่อีกที หรือเกิดอาการตุงกระเป๋ากรณีใช้กระเป๋าแลปท็อปแบบบาง ซึ่งผมเองไม่ได้คิดจะย้ายไปไหนบ่อย ๆ (แต่ว่าเดี๋ยวคงซื้อเคสใส่มาเผื่อเดินทางเหมือนกัน) แต่ถ้าในแง่พกพาไปข้างนอกไม่เกะกะเปิดใช้งานง่าย อันนี้ก็ต้องยอมให้กับ Magic Mouse จริง ๆ แหละครับ ทำงานเบา ๆ มันพกง่ายและสะดวกใช้งานคล่องตัวกว่า...
อีกข้อนึงที่ทำให้คิดอยู่ประมาณ 2 นาทีก่อนซื้อก็คือ ราคาครับ เนื่องด้วยมันมีราคาที่ค่อนข้างสูง คือสามพันกว่าค่อนไปทางสี่พัน ถ้าซื้อออนไลน์ก็เหลือสามพันต้น ๆ แต่ก็เยอะอยู่ดีถ้าเทียบกับเมาส์ปกติที่พอจะใช้งานได้ดี ๆ หน่อย (เทียบกับ Fantech Pro WGC-1 Venom Wireless ที่ผมใช้งานประจำมาปีนึงก็ได้) ผมว่าราคามันสูงจริง ๆ ที่จะซื้อ...
แต่ถ้าเทียบกับราคา Magic Mouse หรือ MS Arc Touch ที่ผมใช้อยู่จนยางเหนียวเสื่อม ก็ต้องบอกว่า ราคาสูงกว่านิดหน่อยครับ ถ้ากะฟาดเมาส์ดี ๆ ซักตัวเพื่อใช้งานยาว ๆ ก็คิดว่าโอเคอยู่ (แต่ก็ห่วงเหมือนกันเพราะผิว MX Master 3 เหมือนจะเป็นยางที่อาจจะเสื่อมตามกาลเวลาได้)...
แน่นอนว่าหลังจากใช้งานแล้ว ผมไม่ต้องกลัวใครจะมาป้ายยาเมาส์ตัวนี้กับผมอีกต่อไป!!! 555!!! กิเลสระงับได้ด้วยการซื้อ...
ความเห็นหลังจากใช้ที่รู้สึกพีคมาก : ปุ่มกลางล้อฟรี สลับกับล้อคลิกคือดีจนรู้สึก Scroll แล้วโคตรสนุกจังเว้ยยยยยย!!!
ใครจะไปตำจากร้านที่ผมซื้อ รุ่นปกติแถม Dongle สำหรับ USB ด้วยก็ราคาเดียวกันครับ ข้อดีคือสั่งแล้วรอวันเดียวพัสดุถึงบ้านเลยไวดีแถมน่าจะถูกสุดและร้านน่าเชื่อถือได้ครับ https://bit.ly/2MiLiG3
*Disclosure: เนื้อหานี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใด ๆ ...
