[Admin]
"แบบเบิร์ดเบิร์ดจึงไม่ใช่คอนเสิร์ตที่มีความสำเร็จ
แค่เพียง feedback ของคนดู หากแต่ในมุมมองของผม
แบบเบิร์ดเบิร์ดได้เป็นโรงเรียนที่สอนคนทำงาน
ให้ประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
case study ที่จะกล่าวต่อไปนี้ น่าจะเป็นประโยชน์
ให้หลายๆท่านนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อจะได้ช่วยกันแข่งผลิตงานที่ดีดี
สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนดูและทีมงาน หรือเป็นแนวทางให้น้องๆคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากจะทำงานอะไรสักชิ้นให้สำเร็จ..."
ชวนตามอ่าน case study จากบทเรียนสำคัญบทสุดท้าย
ในโรงเรียนแบบเบิร์ดเบิร์ด จากคุณ Sun Lightsource
บทสรุปสำคัญที่ทำให้การเดินทางของความฝันในครั้งนี้ สำเร็จลงอย่างสวยงาม
คลิกอ่านบทความเต็มๆ ได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ
https://www.facebook.com/sun.lightsource/posts/1891369600916401
#birdthongchai #thongchaimcintyre
#babbbirdbird #BBB11
#babbbirdbirdshow2018
#BabbBirdBirdAcademy
Lesson Learnt#6
Dream Journey
การเดินทางสู่ความฝัน
.............
status สุดท้ายที่ยาวหน่อยและไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอ่าน
..............
ความยากของแบบเบิร์ดเบิร์ดคราวนี้ก็คือ เราจะทำให้ดีกว่าสิบครั้งที่ผ่านมาได้อย่างไร ?
มีคีย์เวิร์ดหลายคำที่ได้ยินเมื่อตอนรับบรีฟเช่น
“...เป็นการเดินทางไปสู่ความฝัน เมื่อเป็นความฝัน ฝันแบบใดก็ได้ ทั้งย้อนอดีตและไปอนาคต ทั้งไปหาคนอื่นและกลับมาหาตัวเอง... ทั้งเป็นฝันของพี่เบิร์ด ฝันของคนดู และฝันของทีมงาน...”
“....เป็นงานที่เกิดจากแรงบันดาลใจ และใจก็บันดาลให้เกิดแรงในการทำงาน...”
“เก่าผสมใหม่ เทคโนโลยีใหม่ผสมกับของเก่าเพื่อให้เกิดสิ่งที่ใหม่กว่า”
สติปัญญาของผมอ่อนด้อยเกินกว่าจะตีความออก...จนเมื่องานเสร็จจึงได้พอเข้าใจ !!!
#ภาพที่เห็น
มุกเวทีเก่าๆ มุกเดิมๆ แต่เมื่อผสมผสานกับเทคโนโลยีใหม่ กราฟฟิคบนจอ การเคลื่อนการหมุนของเวที ลีลาใหม่ของแดนซ์เซอร์ ทำให้เกิดจังหวะการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า scene change จนกลายเป็นความลงตัวใหม่
ทีมงานทำงานกันอย่างมีความสุข ไม่มีใครเครียด หรือหากมี ความเครียดนั้นก็อยู่ไม่นาน ทุกทีมมีเวลาได้กลับบ้านนอนพักผ่อนทุกวัน แม้แต่ทีมแสงซึ่งปกติจะโปรแกรมไฟกันทั้งวันทั้งคืน
นักร้องคือพี่เบิร์ดในวัยหกสิบกลับมีเรี่ยวแรงที่คาดไม่ถึง ขยันซ้อม มีวินัยในการซ้อม ตรงเวลา และเต็มไปด้วย passion ในการร้องเพลงจนสร้าง inspiration ให้ทีมงานชนิดที่ไม่มีใครกล้าถอย
ทีมงานไม่ว่าจะเป็นแขกรับเชิญ แดนเซอร์ ทีมซัพพลายเออร์ต่างๆ ที่มีทั้งหน้าเก่าและใหม่ มีตั้งแต่อายุใกล้จะหกสิบ จนไปถึงรุ่นลูกอายุไม่ถึงยี่สิบ ถูกผสมผสานจับมือร่วมกันทำงานอย่างเป็นเนื้อเดียวโดยไม่มีอีโก้ของใครมาเป็นตัวขวางกั้น
...................
แบบเบิร์ดเบิร์ดจึงไม่ใช่คอนเสิร์ตที่มีความสำเร็จแค่เพียง feedback ของคนดู หากแต่ในมุมมองของผม แบบเบิร์ดเบิร์ดได้เป็นโรงเรียนที่สอนคนทำงานให้ประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
case study ที่จะกล่าวต่อไปนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ ให้หลายๆท่านนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อจะได้ช่วยกันแข่งผลิตงานที่ดีดี สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนดูและทีมงาน หรือเป็นแนวทางให้น้องๆคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากจะทำงานอะไรสักชิ้นให้สำเร็จ
...............
#ครีเอทีฟมีความชัดเจน
พี่เล็ก (บุษบา ดาวเรือง) ครูใหญ่ของโรงเรียนแบบเบิร์ดเบิร์ด มีภาพและเรื่องราวในหัวชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ ภาพนั้นมีความแข็งแรงขนาดที่ทีมงานและตัวผมแชร์ความคิดเห็นเรื่องย้ายเพลงปรับเปลี่ยนสคริปต์ ก็ได้รับคำอธิบายกลับมาว่าภาพที่พวกเราเห็นนั้นยังไม่ใช่ และเมื่อโชว์ลงตัวนั่นเองเราจึงได้เข้าใจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
แน่นอนว่า มีปัญหาในการเล่าเรื่องภาพที่พี่เล็กมองเห็นให้ทีมงานฟังนั้นไม่ได้กระจ่างเห็นภาพชัดไปเสียทุกวรรคตอน (ซึ่งเป็นปัญหาของการบรีฟงานทุกงาน)
ทีมงานจึงต้องมีการส่งการบ้านให้ครูตรวจว่ามากันถูกทางแล้วหรือยัง
โรงเรียนแบบเบิร์ดเบิร์ดสอนว่า จะทำงานให้ได้ดี โจทย์ต้องชัดเจนแข็งแรง มีเวลามากพอให้นักเรียนไปคิดทำการบ้าน และนักเรียนทุกคนต้องทำการบ้านส่งครู และเมื่อนักเรียนเข้าใจโจทย์ที่ครูให้ นักเรียนก็ทำการบ้านอย่างมีความสุขสนุกสนาน!!!
#สร้างคอนเสิร์ตให้มีเรื่องราวและการตีความ
เรามักพบการพูดเรื่องการตีความก็เฉพาะในงานละครเวทีเท่านั้น แล้วผมก็พบว่าหากงานคอนเสิร์ตมีการผูกเรื่องราวให้เป็นแก่นแกนโดยมีศิลปินนักร้องเป็น story teller งานก็จะน่าสนใจและชวนติดตามมากขึ้น
มากพอจนทำให้ทีมซัพพลายเออร์ไม่ว่าจะเป็นแดนเซอร์ เสื้อผ้า แสง ภาพ ฯลฯ จับทางถูกและไม่หลงทาง
แต่แน่นอนว่าเมื่อทำไปเรื่อยๆ อาจจะเริ่มพร่าเลือนไปตามประสบการณ์ของแต่ละคน จึงต้องมีคนมาช่วยขัดเกลาให้เข้าที่เข้าทาง
งานนี้ได้พี่หนูเล็ก (บุรณี รัชไชยบุญ) ครูอีกท่านหนึ่งที่เป็นเหมือนโค้ช มาช่วยให้คำแนะนำ
โรงเรียนแบบเบิร์ดเบิร์ดสอนว่าหากทีมงานไม่ยึดมั่นในอัตตาของตน ไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว เชื่อในคำแนะนำของครูและโค้ชจนทุกคนที่ตีความมองเห็นภาพฝันเดียวกันงานที่ได้ก็จะทรงพลัง และเกิดแรงบันดาลใจที่พร้อมจะขัดเกลางานอย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย และมีความสุขที่ได้เห็นงานผสมผสานกันอย่างลงตัว
#เคารพและไม่ล้ำเส้นการทำงานกัน
ในโรงเรียนแบบเบิร์ดเบิร์ด ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตน คุณครูมีหน้าที่ตรวจการบ้านท่านก็ตรวจของท่านและให้คำแนะนำเมื่อทำการบ้านผิดด้วยความเมตตา ไม่เคยหัวฟัดหัวเหวี่ยง
พี่เบิร์ดก็ทำหน้าที่ร้องและแสดงตามที่ผู้กำกับบอกโดยไม่เคยมาบอกว่าเอาแสงแบบโน้นเอาแสงแบบนี้ ในทางตรงกันข้ามทุกบล็อกกิ้งที่พี่เบิร์ดจะยืนหรือเดิน ผู้กำกับจะเช็คกับฝ่ายแสงหรือทีมงานที่เกี่ยวข้องเสมอว่าได้มั้ย จะติดปัญหาอะไรมั้ย เช็คทุกทีมทุกหน่วยงานเพื่อให้ได้องค์ประกอบที่ดีที่สุด
ในส่วนของทีมงานด้วยกันเองไม่ว่าแสง, CG , แดนเซอร์ , ทีมเสตจ ไม่มีใครใช้อำนาจสั่งใคร แต่ทุกวันจะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดมุมมองและหารือกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย จากนั้นแต่ละฝ่ายก็แยกย้ายกันไปแก้ตามที่ได้ข้อสรุป
โรงเรียนแบบเบิร์ดเบิร์ดสอนว่า การจับมือร่วมกันทำงานเป็นทีมคือทำอย่างไร
#ทบทวนตัวเองทุกวัน
มีคอมเม้นท์มาเป็นหน้ากระดาษหลังจบการซ้อมหรือจบโชว์ทุกวัน แล้วแต่ละฝ่ายก็แยกย้ายกันไปทบทวนตัวเองและหาทางปรับปรุงตามที่ได้รับคอมเม้นท์มา
ไม่มีการคอมเม้นท์ระหว่างโชว์!!!
นี่เป็นธรรมเนียมในการทำงานของอาชีพนี้
การคอมเม้นท์ระหว่างโชว์ถือเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและสร้างความสับสนเสียสมาธิให้กับทีมงาน เพราะนอกจากจะแก้ไขเหตุการณ์อะไรไม่ได้แล้วยังอาจทำให้คิวต่อไปพลาดเสียหายไปอีกด้วย...
และเป็นการฟ้องว่า ไม่ได้มีการเตรียมการมาให้ดีก่อนจะทำการโชว์
โรงเรียนแบบเบิร์ดเบิร์ดไม่มีใครทำแบบนั้น บรรยากาศที่คอนโทรลจึงเป็นบรรยากาศแห่งสมาธิและสุขสงบ และทำให้ทีมซัพพลายเออร์ใช้ศักยภาพของเขาอย่างเต็มที่
...............
งานแบบเบิร์ดเบิร์ดย่อมไม่ใช่งานที่ดีสมบูรณ์ที่สุด ไม่เคยมีงานไหนสมบูรณ์ที่สุดในการทำ Live show นั่นก็เพราะ หากมีอีก...ทีมงานก็จะทำให้ดีกว่าเดิมได้อีก ไปเรื่อยๆ
แต่เป็นงานที่สร้างบทเรียนและข้อคิดให้ทีมงาน และให้โอกาสทั้งคนรุ่นเก่าและน้องๆที่มาใหม่ได้แสดงศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ ภายใต้วินัยที่มีเงื่อนไขของกรอบเวลาเป็นตัวตั้ง
ทีมงานซัพพลายเออร์ที่ทำอยู่ เป็นทีมงานเดียวกับที่เคยทำคอนเสิร์ตอื่นๆอีกหลายๆงาน
ความสำเร็จของงานที่ดีจึงไม่ใช่เพราะเลือกใช้ซัพพลายเออร์ หากแต่อยู่ที่เหตุปัจจัยอื่นๆอีกมาก กล่าวโดยรวมก็คือกระบวนวิธีทำงานนั่นแหละเป็นปัจจัยสำคัญ
เมืองไทยมีคนจัดงานที่บินไปดูงานเมืองนอกมากมาย และเอาผลลัพท์ของการแสดงมาคุยกัน โดยไม่พูดถึงวิธีทำงานของเขา ...นับเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า เพราะการดูโชว์สามชั่วโมงไม่ได้ควานรู้มากเท่ากับการทัวร์แบ็คสเตจครึ่งชั่วโมง
กล่าวอย่างไม่ได้ชื่นชมงานแบบเบิร์ดเบิร์ดในแง่เสียงตอบรับของคนดู หากแต่ชื่นชมและนิยมชมชอบในวิธีทำงานของทีมงานทุกคนที่ล้วนแต่ ...จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน ภายใต้การนำของกัปปิตันวัยหกสิบ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์
ปิดท้ายด้วยคลิปวิดีโอของนักศึกษาฝึกงาน Namoh Kongdhana ที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาร่วมฝึกงานในคอนเสิร์ตครั้งนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางสู่ฝัน dream journey อย่างมีความสุข
babbbirdbird 在 Nicha Nunta (babbbirdbird) - Profile - Pinterest 的推薦與評價
See what Nicha Nunta (babbbirdbird) has discovered on Pinterest, the world's biggest collection of ideas. ... <看更多>