Weekly Spotlight - กาลาร์ ซานิโกะ กับการเนิร์ฟจุดเจ็บปวด
สวัสดีเพื่อนๆ โปเกมอนเทรนเนอร์ทุกคน ยินดีต้อนรับกลับมาอีกครั้งกับ Weekly Spotlight และวันนี้เราจะมาพูดถึงการเนิร์ฟของเกมโปเกมอน และเจ้ากาลาร์ซานิโกะที่จู่ๆ ก็มีบทบาทน้อยลงในการแข่งขันโปเกมอนอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งเหตุผลที่เขาได้หายไปจะเป็นอะไรนั้น เรามาอ่านกันได้ในเนื้อหาของวันนี้กันเลยครับ
วิธีการเนิร์ฟของเกมทั่วไปที่มักจะเป็นการลดค่าพลังหรือความสามารถของตัวละครนั้นๆ แต่สำหรับเกมโปเกมอน การเนิร์ฟส่วนใหญ่จะไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับค่าพลังหรือความสามารถของโปเกมอนตัวนั้นเท่าไหร่ ยกเว้นมันจะเก่งเกินไปจริงๆ (เช่น ไฟร์แอร์โร เมก้าการูรา หรือ มิมิคคิว)
ในช่วงโปเกมอนภาค Red, Green, Blue และ Yellow (Gen 1) โปเกมอนพลังจิตคือประเภทที่แข็งแกร่งที่สุดในเกม เพราะพลังจิตคือธาตุที่โจมตีได้ทุกธาตุโดยไม่มีธาตุไหนต้านทานได้เลยนอกจากธาตุพลังจิตด้วยกันเอง
นอกจากนี้ในยุคนั้น ธาตุที่สามารถโจมตีธาตุพลังจิตได้แบบ Super Effective มีเพียงธาตุ แมลง และ ผี และท่าโจมตีธาตุแมลงที่แรงที่สุดคือท่า Twin Needle ที่มีพลังเพียง 25 (โจมตี 2-5 ครั้ง)
ท่า Twin Needle ที่มีพลังโจมตี 25 นั้นแรงแค่ไหน?
ลองเทียบกับท่าอย่าง Hyper Beam หรือคลื่นทำลายที่ทุกคนรู้จักกันก็ได้ครับ ท่าไม้ตายนั้นแรง 150 ซึ่งสูงกว่า Twin Needle ถึง 6 เท่า (ว้อทเดอะฟัค ไหนวะความเท่าเทียม)
และโปเกมอนแมลงที่สามารถใช้ท่าไม้ตายนี้ได้มีแค่ สเปียร์ (Beedril) ซึ่งเจ้าสเปียร์นั้นมีค่าพลังที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินซะจนไม่อาจต่อกรกับโปเกมอนพลังจิตได้เลย ซ้ำร้ายเจ้าสเปียร์นี้ยังมีธาตุพิษที่แพ้พลังจิตพ่วงมาด้วย
ทำให้การนำสเปียร์ โปเกมอนตัวเดียวที่มีท่าไม้ตายที่ชนะธาตุพลังจิต ไปต่อสู้กับโปเกมอนพลังจิตนั้นไม่ได้ช่วยให้เราชนะได้ง่ายขึ้นแต่เป็นการฆ่าตัวตายแทน
แล้วธาตุผีล่ะ?
ท่าไม้ตายธาตุผีที่แรงที่สุดคือท่า Lick ที่มีความแรง 30 และ Night Shade ที่โจมตีแรงตาม LV ของผู้ใช้
โปเกมอนผีที่สามารถโจมตีและได้รับโบนัสพลังจากท่า Lick คือ เก็งการ์ (ุผี/พิษ) และเป็นอีกครั้งที่โปเกมอนที่ "ดูเหมือน" จะต่อกรกับธาตุพลังจิตได้ ดันมีธาตุพิษพ่วงมาด้วย ทำให้แม้จะรับมือได้สูสีแต่ถ้าเก็งการ์โดนท่าไม้ตายธาตุพลังจิตก็ทีเดียวร่วงไม่ยากอยู่ดี
โปเกมอน META ของ GEN 1 ที่เป็นธาตุพลังจิตคือ
มิวทู/ มิว/ ฟูดิน/ นัชชี่/ สตาร์มี่ รวมแล้ว 5 ตัวจากทั้งหมด 14 ตัว
ซึ่งหากตัดสายวิวัฒนาการร่าง 1 หรือ 2 ที่ใช้งานไม่ได้แล้วก็คือ เป็นเมต้าไปแล้ว 5 ตัวจาก 9 ตัว เกินครึ่งซะอีก
ด้วยความเก่งกาจรอบด้านขนาดนี้ใน GEN2 ภาค Gold และ Silver จึงมีการเพิ่มประเภทของโปเกมอนขึ้นมาอีก 2 ประเภทคือ ความมืด และ เหล็ก
ซึ่งการมาถึงของทั้ง 2 ธาตุนี้คือความต้องการเนิร์ฟธาตุพลังจิตลงอย่างชัดเจนเพราะ ธาตุพลังจิตจะตีธาตุความมืด "ไม่ได้เลย" และโจมตีธาตุเหล็กเข้าแค่ 50%
ในยุคนั้นถึงแม้โปเกมอนพลังจิตทั้งหลายจะยังเก่งอยู่แต่โปเกมอนพลังจิตที่เคยเป็นหนึ่งรอบด้านจึงถูดลดบทบาทลงอย่างเห็นได้ชัด และนี่ก็คือแนวทางที่ถูกใช้มาโดยตลอดสำหรับเกมโปเกมอน (ในช่วง Gen 2-5 ธาตุเหล็กเคยป้องกันธาตุความมืดด้วย ทำให้ช่วง Gen 3-5 เมตากรอสโหดเกินเบอร์ไปจนต้องถูกเนิร์ฟให้เหล็กไม่ต้านทานธาตุความมืดตั้งแต่ Gen 6 เป็นต้นมา)
----------------------
เอาล่ะตอนนี้เพื่อนๆ ก็พอจะเห็นภาพของการเนิร์ฟในการโปเกมอนกันแล้ว ทีนี้มาพูดถึงเจ้า กาลาร์ซานิโกะ กันดีกว่า
กาลาร์ซานิโกะ คือโปเกมอนสายพันธุ์ย่อยที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Gen 8
ค่าพลังของกาลาร์ซานิโกะคือ
HP 60 / ATK 55 / Def 100 / Sp.Atk 65 / Sp.Def 100 / Speed 30
และการมาถึงของสายพันธุ์ย่อยนี้ยังมาพร้อมกับร่างวิวัฒนาการอย่าง ซานิกอน (Cursola) ด้วย
การมีร่างวิวัฒนาการทำให้ กาลาร์ซานิโกะ สามารถติดไอเทม Eviolite ได้ ซึ่งไอเทมนี้ทำให้โปเกมอนที่ถืออยู่ได้รับ Def/Sp.Def อีก 50%
คำนวณแบบหยาบๆก็คือ กาลาร์ซานิโก จะมีค่าพลัง Def และ Sp.def ที่ 150
กาลาร์ซานิโกะนั้นเป็นโปเกมอนประเภทผีล้วน ทำให้เขาไม่โดนโจมตีแบบคูณ 4 โอละพ่อถึกขนาดนี้แต่ไม่โดนโจมตีแบบ x4 การจะ 1 Hit KO กาลาร์ซานิโกะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากมาก
นอกจากนี้น้องยังมีท่าไม้ตาย Strength Sap ท่าไม้ตายใหม่ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาใน Gen 7 ท่าไม้ตายนี้จะลด Atk ของเป้าหมาย 1 ระดับ และเพิ่ม HP ตัวเองตาม Atk ของศัตรู หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการดูดพลังโจมตีของศัตรูมาเพิ่มเลือดตัวเอง
หากโปเกมอนกายภาพ 1 Hit KO กาลาร์ซานิโกะไม่ได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ
1. โดนดูดพลังโจมตีไป
2. กาลาร์ซานิโกะ เลือดเต็มอีกครั้ง
3. การโจมตีครั้งต่อไปจะเบาลง
โดยปกติ Strength Sap น้อยลงในการใช้งานครั้งต่อๆ ไป เพราะท่านี้จะดูดเลือดมาตามสัดส่วน ATK ของศัตรู แต่ถึงจะดูดเลือดน้อยลงก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะยังไงศัตรูก็โดนลด ATK ไปแล้วนี่ ดูดเลอืดได้น้อยลงแต่เขาก็ตีเบาลงด้วย แทบไม่มีอะไรเสียหายเลย
นอก Strength Sap แล้ว กาลาร์ซานิโกะยังมีท่าไม้ตาย Will-O-Wisp ท่าไม้ตายที่จะจุดไฟใส่คู่ต่อสู้ให้เกิดสถานะเผาไหม้
สถานะนี้จะทำให้ดาเมจจากการโจมตีกายภาพหายไป 50% โปเกมอนกายภาพที่โดนจุดไฟนั้นแทบจะเรียกได้ว่าหมดประสิทธิภาพในการโจมตีไปในทันที
พอศัตรู KO กาลาร์ซานิโกะไม่ได้ สิ่งที่จะตามมาคืออะไร?
กาลาร์ซานิโกะ ยังมีท่าไม้ตาย Night Shade(การโจมตีธาตุผี) ที่คำนวณดาเมจจาก LV. ของตัวเอง ในการแข่งขันโปเกมอนทุกตัวจะมี LV.50 ดังนั้นกาลาร์ซานิโกะจะทำดาเมจได้ 50 หน่วยเสมอ (แต่โจมตีโปเกมอนประเภทนอมอลไม่ได้นะ)
ด้วยท่าไม้ตายและความสามารถต่างๆ เหล่านี้ของ กาลาร์ซานิโกะ ทำให้เขาเป็นฝันร้ายของโปเกมอนกายภาพ หากคุณเล่นทีมโปเกมอยสายกายภาพแล้วไม่มีตัวต่อกรกับกาลาร์ซานิโกะดีๆ ละก็ คุณสามารถโดนน้องยืนรับเท้าและค่อยๆ นวดจนเหี่ยวหมดทีมได้เลย
แต่จู่ๆ กาลาร์ซานิโกะก็หายไปจากการแข่งขันและการลงแรงค์ตั้งแต่การมาถึงของ DLC: Isle of Armor
การมาถึงของ DLC นี้อาจจะไม่ได้จงใจเนิร์ฟกาลาร์ซานิโกะโดยตรง
แต่ก็ส่งผลมากจนกาลาร์ซานิโกะไม่ค่อยน่าหยิบมาใช้เหมือนเมื่อก่อน
เพราะสุดยอดโปเกมอน META ของ DLC นี้คือโปเกมอนในตำนาน อุเลาส์ (Urshifu - สายโจมตีจุดตาย)
อุเลาส์ สายโจมตีจุดตาย คือโปเกมอนประเภท ต่อสู้/ความมืด
ธาตุความมืดนั้นโจมตีธาตุผีแบบคูณ 2 อยู่แล้วและอุเลาส์ยังมีพลังโจมตีสูงถึง 130
เอ๊ะ...อุเลาส์เป็นโปเกมอนสายกายภาพ กาลาร์ซานิโกะไม่เคยกลัวโปเกมอนกายภาพเลยนี่นา ถ้าอุเลาส์โดน Strength Sap ไปจะเหลืออะไรล่ะ?
แน่นอนว่า Strength Sap ยังคงเป็น Hard Counter ของโปเกมอนกายภาพ แต่อุเลาส์นั้นมีสิ่งที่พิเศษกว่านั้น และมันพิเศษจนบางคนเรียกเขาว่า หมีเ-ี้ย
อุเลาส์มีท่าไม้ตายเฉพาะตัวคือ Wicked Blow ( การโจมตีธาตุความมืดแบบกายภาพ Power 80)
ท่าไม้ตายนี้จะโจมตีแบบติด คริตอคอล 100%
การโจมตีติดคริติคอลจะทำให้ดาเมจแรงขึ้น 50% และไม่สนค่าพลังที่เปลี่ยนแปลงไปของทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายโจมตีจะไม่สนแค่ค่าพลังที่ถูกลบ
นั่นคือต่อให้ กาลาร์ซานิโกะ เพิ่ม def มา 6 ระดับ หรือ อุเลาส์โดนลด atk 6 ระดับ
"ดาเมจที่อุเลาส์ทำได้จากท่านี้จะไม่ลดลงเลย"
การต่อกรที่ดีที่สุดที่กาลาร์ซานิโกะทำได้ต่ออุเลาส์คือใช้ Will-O-Wisp
ให้โดน แต่หากอุเลาส์ใส่ไอเทม Choice Band กาลาร์ซานิโกะจะโดนโจมตีแบบ 1 HIT KO แน่นอน (คำนวณจากกาลาร์ซานิโกะที่ฝึก DEF/HP มาเต็มMAX แล้ว)
ถ้างั้นกาลาร์ซานิโกะจะกด Protect ป้องกันตัวเองแล้วให้เพื่อนช่วยงัดกับพี่หมีก่อนได้ไหม?
เสียใจด้วยครับ... อุเลาส์มีความสามารถ Unseen Fist ทำให้เขาสามารถ "โจมตีทะลุการป้องกัน" ตอ่ให้ Protect ก็โดนดาเมจเต็มๆ อยู่ดี
นี่คือความสามารถสุดโกงที่ทำให้กาลาร์ซานิโกะหนียังไงก็ไม่รอด
อุเลาส์สายโจมตีจุดตายจึงเป็น Hard Counter ที่กาลาร์ซานิโกะไม่อยากเจอที่สุด และต่อให้กาลาร์ซานิโกะจะพอทนรับอุเลาส์ได้อยู่บ้างแต่จากโปเกมอนที่ทนเท้าได้เป็นสิบเทิร์นกลับต้องมาโดน 2 Hit KO ง่ายๆ ทำให้กาลาร์ซานิโกะนั้นอยู่ยากขึ้นเยอะในยุคของพี่หมี เพราะทีมระดับสูงเองก็ใช้อุเลาส์สายนี้เยอะมาก และเป็นการนำมาใช้โดยไม่ได้นึกถึงกาลาร์ซานิโกะด้วย ส่วนใหญ่จะเอามางัดกับเครเซเลียซะมากกว่า น่าเศร้าไหมล่ะ...พี่หมีแกไม่ได้ถูกปั้นมาเพื่องัดกับน้องหรอก แค่น้องแพ้พี่หมีแบบสุดๆ เท่านั้นเอง
ก็ต้องถือว่าเป็นคราวซวยของน้องกาลาร์ซานิโกะจริงๆ ที่มียุคทองของตัวเองอยู่ไม่นานเพราะดันมี Hard Counter เป็นโปเกมอนชูโรงของ DLC แรกของเกมซะได้
แต่ถึงอย่างไรกาลาร์ซานิโกะก็ยังเป็นโปเกมอนที่รับมือได้ยากและยังน่าเล่นอยู่หากไม่เจอกับอุเลาส์
เมต้าในเกมโปเกมอนนั้นปกติก็จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยตามลิสต์โปเกมอนในแต่ละยุค และนั่นก็คือหนึ่งในความสนุกของโปเกมอนแบตเทิล ถึงแม้จะมีโปเกมอนบางตัวที่เนิร์ฟยังไงก็ไม่กากสักที หรือบัพยังไงก็ไม่เกิดสักรอบแต่อย่างน้อยผู้พัฒนาเองก็เห็นและพยายามจะสร้างความหลากหลายในเกมอยู่เรื่อยๆ และนอกจากการมาถึงของอะไรใหม่ๆ เราก็สามารถหาวิธีใหม่ๆ ในแบบของเราในการรับมือกับโปเกมอนเมต้าได้อยู่เสมอ
วันนี้ผมก็หวังว่าเพื่อนๆ จะได้สนุกกับเนื้อหาของเจ้ากาลาร์ซานิโกะและยุคทองอันแสนสั้นของน้องกันนะครับ แล้วกลับมาเจอกันใหม่ในคราวหน้า
ถ้าหากชอบก็อย่าลืมกดไลก์กดแชร์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะ!
ปล.ตอนนี้ผมจะพยายามเขียนสัปดาห์ละตัวละครับ มีอะไรก็เเนะนำได้ที่คอมเม้นเลยครับ
เขียนและเรียบเรียง: กวิ้น 25.11.2020
#PokemonSpotlight
#WeeklySpotlight
