รู้จัก ฝรั่งเศส ผ่าน 10 บริษัท ที่ใหญ่สุดในประเทศ /โดย ลงทุนแมน
เมื่อเอ่ยถึง ฝรั่งเศส สิ่งแรกที่คนทั่วโลกจะนึกถึงก็คือ “ความหรูหรา”
วงการศิลปะแทบทุกแขนงของยุโรปล้วนมุ่งหน้าสู่ฝรั่งเศส
และผู้คนที่นี่ก็คลั่งไคล้ศิลปะมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม วรรณกรรม เครื่องแต่งกาย หรือแม้แต่อาหารการกิน
ในยุคก่อนที่วัฒนธรรมอเมริกันจะครองโลก ฝรั่งเศสคือผู้ส่งออกวัฒนธรรมที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด
และแน่นอนว่าวัฒนธรรม ก็ยังคงสร้างมูลค่าให้ฝรั่งเศสอย่างมหาศาลในปัจจุบัน..
10 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดของประเทศฝรั่งเศส เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรูถึง 6 บริษัท
ทั้งเครื่องแต่งกาย เครื่องดื่ม เครื่องประดับ และเครื่องสำอาง
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ นอกจากบริษัทแบรนด์หรูทั้งหลายแล้ว
ก็ยังมีบริษัทยา และบริษัทเทคโนโลยีอยู่ใน Top 10 ด้วย
เรื่องราว 10 บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ราชสำนักฝรั่งเศสคือจุดเริ่มต้นของความหรูหรา
ศตวรรษที่ 15 พระนางแคทเธอรีน เดอ เมดิชี เป็นผู้ริเริ่มอุตสาหกรรมน้ำหอมในฝรั่งเศส
ศตวรรษที่ 16 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ผู้ริเริ่มนำวิกมาสวมศีรษะ และใส่รองเท้าส้นสูง
และศตวรรษที่ 19 จักรพรรดินีเออเฌนี เป็นผู้ผลักดันให้เกิดโรงเรียนสอนการออกแบบ และผลักดันให้เกิดแบรนด์แฟชั่นชั้นนำมากมาย
ถึงแม้ราชสำนักฝรั่งเศสจะต้องประสบกับการปฏิวัติหลายต่อหลายครั้ง แต่ความหรูหราที่ได้ทิ้งไว้ก็ยังถูกนำมาสานต่อ และผ่านการพัฒนาอย่างเป็นระบบ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องแต่งกาย ที่มีการจัดตั้งสถาบันสอนออกแบบ ให้กำเนิดการเดินแฟชั่นโชว์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ดึงดูดนักออกแบบเสื้อผ้าจากทั่วฝรั่งเศสและทั่วโลกให้เข้ามาแสดงฝีไม้ลายมือ จนทำให้กรุงปารีสกลายเป็นเมืองศูนย์กลางแฟชั่นระดับโลก
การวางแผนอย่างเป็นระบบระเบียบนี้เอง ส่งผลให้วิถีชีวิตแบบฝรั่งเศสกลายเป็น Story และนำมาสู่การสร้างแบรนด์ที่เป็นตำนานระดับโลก
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หาก 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส จะเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรูถึง 6 บริษัท
ซึ่งหลายบริษัทเกิดจากการควบรวมหลายแบรนด์เข้าไว้ด้วยกัน
หากเรียงตามลำดับอายุที่ก่อตั้ง จะได้เป็น..
- LVMH
ถึงแม้บริษัทนี้จะเกิดจากการควบรวมบริษัทในปี 1987 แต่ประวัติของแต่ละบริษัทที่อยู่ในเครือถูกย้อนไปไกลกว่านั้น
Moët & Chandon เป็นผู้ผลิตแชมเปญ ก่อตั้งในปี 1743
Hennessy ผู้ผลิตบรั่นดีคอนญัก ก่อตั้งในปี 1765
และ Louis Vuitton ผู้ผลิตกระเป๋าเดินทางแบบทรงเหลี่ยม ในปี 1854 เพื่อให้ชนชั้นสูงวางบนรถม้าได้อย่างสะดวกสบาย ก่อนจะกลายเป็นตำนานของกระเป๋าในเวลาต่อมา
ทั้ง 3 บริษัทได้ควบรวมกันในปี 1987 แต่หลังจากนั้น 2 ปีก็เกิดสงครามแย่งกิจการ จนท้ายที่สุดก็ได้ Bernard Arnault บุคคลภายนอก เข้ามามีอำนาจในการบริหาร LVMH นับตั้งแต่นั้นมา
Arnault ได้ขยายอาณาจักร LVMH ด้วยการเข้าครอบครองกิจการแบรนด์หรูชื่อดังอย่างต่อเนื่อง
ทั้งเครื่องแต่งกาย ไวน์ นาฬิกา จน LVMH ครอบครองแบรนด์หรู กว่า 75 แบรนด์
ปัจจุบัน LVMH กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์หรูที่ใหญ่สุดในโลก และถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในฝรั่งเศสและยุโรป ด้วยมูลค่า 13.5 ล้านล้านบาท
- Hermès
กิจการนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1837 โดย Thierry Hermès
แรกเริ่มบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตอานม้าสำหรับชนชั้นสูง ต่อมาลูกชายก็ได้ขยายธุรกิจ และให้กำเนิดกระเป๋าเพื่อแบกสัมภาระไปกับการเดินทางบนหลังม้า จนกลายเป็นกระเป๋าที่มีรูปแบบเอกลักษณ์ และขยายไปสู่เครื่องแต่งกายต่าง ๆ
ปัจจุบัน Hermès เป็นแบรนด์หรูที่ไม่ได้ควบรวมกับแบรนด์อื่น ๆ
ซึ่งถึงแม้จะเป็นแบรนด์เดี่ยว แต่มูลค่าของ Hermès ก็สูงถึง 5.3 ล้านล้านบาท
- EssilorLuxottica
สมาคมช่างทำแว่นตาแห่งปารีส หรือ Société des Lunetiers (SL) หรือ Essel ได้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1849 ให้เป็นศูนย์รวมของช่างฝีมือ เพื่อพัฒนากระบวนการทำแว่นตา ทั้งกรอบแว่นและเลนส์แว่นตา
ต่อมา Essel ได้ควบรวมกับบริษัททำเลนส์ Silor กลายเป็น Essilor
และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายเลนส์สายตา โดยเฉพาะกลุ่มเลนส์ตระกูล Varilux และล่าสุดได้ควบรวมกับบริษัท Luxottica บริษัทผลิตกรอบแว่นตาที่ใหญ่สุดในโลกของอิตาลี
ทำให้บริษัทนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเรื่องแว่นตาของโลก ที่ครอบคลุมตั้งแต่เลนส์ ไปจนถึงแว่นตา
และมีมูลค่าตลาด 2.6 ล้านล้านบาท
- Kering
เช่นเดียวกับ LVMH ถึงแม้ Kering จะก่อตั้งในปี 1963 แต่ประวัติของแต่ละบริษัทที่อยู่ในเครือถูกย้อนไปไกลกว่านั้น
บริษัทที่เก่าแก่ที่สุดในเครือ ก็คือ Boucheron แบรนด์เครื่องประดับสุดหรูของฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1858 และเป็นที่โปรดปรานอย่างมากของชนชั้นสูงในยุคนั้น
Kering ยังเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับชั้นนำอีกมากมาย
ทั้ง Yves Saint Laurent ของฝรั่งเศส และของประเทศอื่น ๆ เช่น Gucci และ Bottega Veneta ของอิตาลี
ด้วยความที่มีแบรนด์หรูระดับโลกมากมาย มูลค่าบริษัทของ Kering จึงสูงถึง 3.7 ล้านล้านบาท
- L'Oréal
ก่อตั้งในปี 1909 โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศส ชื่อ Eugène Schueller ได้คิดค้นน้ำยาย้อมสีผม แล้วได้รับเสียงตอบรับจากช่างทำผมในเมืองปารีสเป็นอย่างมาก
จนทำให้เขาตั้งเป็นบริษัท Société Française de Teintures Inoffensives pour Cheveux ขึ้นมา และต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น L'Oréal
แต่หลังจากที่ Eugène Schueller เสียชีวิต แล้ว François Dalle ได้เข้ามาบริหารงานแทน
Dalle ก็ได้ขยายตลาดด้วยการซื้อบริษัทเครื่องสำอางแบรนด์อื่น โดยมีจุดประสงค์เพื่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ และเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้า
หลังจากนั้น L'Oréal ก็ซื้อบริษัทอื่นเข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง เวชสำอาง เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ
จนในที่สุด L'Oréal ก็กลายเป็นบริษัทเครื่องสำอางที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าบริษัทกว่า 8.4 ล้านล้านบาท
- Dior
ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง Christian Dior ดีไซเนอร์อิสระ ได้รับจ้างออกแบบหมวกให้กับแวดวงไฮโซ ที่ผ่านชีวิตล้มลุกคลุกคลานจนได้เปิดห้องเสื้อของตัวเองในปี 1946
เขาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการแฟชั่นของปารีส ด้วยคอลเลกชันแรก ที่มีชื่อว่า “New Look” เป็นชุดเข้ารูป และกระโปรงสุ่มบาน ก่อนจะขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่น้ำหอม “Miss Dior” อันโด่งดัง
หลังจากนั้นแบรนด์ Dior ก็ผ่านการล้มลุกคลุกคลาน จนท้ายที่สุดก็ได้มาอยู่ภายใต้การบริหารของ Bernard Arnault แห่ง LVMH ในปี 1984
Dior ก็เติบโตจนเป็นอาณาจักรแฟชั่นที่มียอดขายหลักล้านล้านบาท และมีมูลค่าตลาด 4.8 ล้านล้านบาท..
แต่ฝรั่งเศสไม่ได้มีแค่แบรนด์หรูเท่านั้น..
นอกจากทั้ง 6 บริษัทแบรนด์หรูที่กล่าวมาข้างต้น บริษัท Top 10 ของฝรั่งเศสยังประกอบไปด้วย
- อุตสาหกรรมไฟฟ้า 1 บริษัท
- ยารักษาโรค 1 บริษัท
- ก๊าซ 1 บริษัท
- และพลังงาน 1 บริษัท
และเช่นเดียวกับแบรนด์หรู หากเรียงลำดับอายุของการก่อตั้ง จะเริ่มต้นจาก..
- Schneider Electric
ในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ถึงแม้อุตสาหกรรมในฝรั่งเศสจะไม่ได้โดดเด่นเท่าอังกฤษหรือเยอรมนีในยุคเดียวกัน แต่องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ของฝรั่งเศสก็ไม่น้อยหน้าใคร
นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Pierre-Émile Martin เป็นผู้พัฒนาเตากระทะ หรือ Open Hearth Furnace เพื่อใช้สำหรับหลอมเหล็กกล้าซึ่งต้องใช้อุณหภูมิสูงมาก
2 พี่น้องครอบครัว Schneider เดินทางจากเมืองบ้านเกิดที่อยู่ไม่ไกลจากชายแดนเยอรมนี มาลงทุนสร้างเตาหลอมเหล็กในเมือง Le Creusot ในปี 1836 จนกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและเครื่องจักร
ไม่นานก็ได้ขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมก่อสร้างและไฟฟ้า
ปัจจุบัน Schneider Electric คือผู้นำในอุตสาหกรรมไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ การควบคุมอาคาร และการบริหารจัดการพลังงานระดับโลก มีมูลค่าบริษัท 3.3 ล้านล้านบาท
- Sanofi
ปี 2020 ฝรั่งเศสส่งออกยารักษาโรค มากเป็นอันดับ 4 ของโลก คิดเป็นมูลค่ากว่า 9.3 แสนล้านบาท
หนึ่งในจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมยาในฝรั่งเศส มาจากห้องทดลองของนักวิทยาศาสตร์ ที่คนทั้งโลกจะต้องคุ้นเคยกับชื่อของเขา คือ Louis Pasteur ผู้ให้กำเนิดกระบวนการพาสเจอไรซ์ หรือการใช้ความร้อนฆ่าเชื้อโรค
Louis Pasteur เป็นผู้วิจัยและพัฒนาวัคซีนพิษสุนัขบ้า และผู้ก่อตั้ง Pasteur Institute สถาบันวิจัยด้านวัคซีนในปี 1887
จนในปี 1974 Pastuer Production ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นโรงงานผลิตวัคซีน และได้ถูกควบรวมเข้ากับบริษัทยาอีกหลายแห่ง จนท้ายที่สุดก็อยู่ภายใต้บริษัทยา Aventis
ต่อมาในปี 2004 Aventis ก็ได้ควบรวมกับบริษัท Sanofi และทำให้ Sanofi กลายเป็นบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งยารักษาโรคเรื้อรัง ยารักษาโรคมะเร็ง วัคซีน
รวมถึงวัคซีนโควิด 19 ที่กำลังทำการวิจัยอยู่ในระยะที่ 3 ด้วย
ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย Sanofi จึงมีมูลค่าตลาดมากถึง 4.3 ล้านล้านบาท
- Air Liquide
Georges Claude วิศวกรชาวฝรั่งเศส ได้พัฒนากระบวนการทำให้อากาศกลายเป็นของเหลว เพื่อแยกส่วนประกอบสำคัญในอากาศ คือก๊าซไนโตรเจน และก๊าซออกซิเจนออกจากกัน
กระบวนการนี้ทำให้ได้ก๊าซบริสุทธิ์ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ก๊าซไนโตรเจน ใช้สำหรับการถนอมอาหาร อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี
ในขณะที่ก๊าซออกซิเจน นอกจากจะใช้ทางการแพทย์แล้ว ยังสำคัญในอุตสาหกรรมเหล็กและกระจกอีกด้วย
ความสำเร็จนี้ทำให้ Georges Claude ได้ก่อตั้งบริษัท Air Liquide ในปี 1902
ปัจจุบัน Air Liquide ให้บริการแก๊สสำหรับอุตสาหกรรมและทางการแพทย์ เคมี และอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และมีมูลค่าบริษัทกว่า 2.8 ล้านล้านบาท
- TotalEnergies
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กองทัพฝรั่งเศสประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก จนต้องขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งในเวลานั้น อุตสาหกรรมน้ำมันในสหรัฐอเมริกาครองสัดส่วนกว่า 70% ของโลก
เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้มอบหมายให้ Ernest Mercier จัดตั้งบริษัทปิโตรเลียมแห่งฝรั่งเศส (CFP) ในปี 1924 เพื่อความมั่นคงทางพลังงานของฝรั่งเศสเอง
ในปัจจุบัน CFP ได้เปลี่ยนชื่อเป็น TotalEnergies เป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส
เป็นผู้ผลิตน้ำมันเครื่อง และผลิตภัณฑ์หล่อลื่นทั้งกับยานยนต์และอุตสาหกรรม
มีมูลค่าบริษัทกว่า 3.9 ล้านล้านบาท
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศส
ทุกบริษัทล้วนมีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1.1 ล้านล้านบาท
ซึ่งเป็นมูลค่าที่ใหญ่กว่าบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศไทย อย่างบริษัท ปตท.
หลายคนอาจคิดว่า แบรนด์ฝรั่งเศส สร้างเพียงแค่ Story ก็เพียงพอแล้วที่จะสามารถส่งออกไปขายได้ทั่วโลก
แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ วิจัยและพัฒนาต่อยอดอย่างเป็นระบบ
และผ่านการบริหารกิจการ โดยเฉพาะการควบรวมแบรนด์ ที่ทำให้การบริหารมีประสิทธิภาพ และเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าได้มากขึ้น
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ประเทศฝรั่งเศสไม่ได้เชี่ยวชาญแต่แวดวงศิลปะเท่านั้น
เพราะการพัฒนาศิลปะจะเติบโตได้ ส่วนหนึ่งจะต้องเกิดจากการพัฒนาองค์ความรู้ในด้านอื่น ๆ ควบคู่กันไป โดยเฉพาะองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จากการสังเกตบริษัทชั้นนำ 10 บริษัทของแต่ละประเทศ เราก็สามารถบอกได้คร่าว ๆ ว่าประเทศเหล่านั้นมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้านไหน และให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอะไรในอนาคต
สำหรับฝรั่งเศส คงบอกได้ว่า
ประเทศนี้สามารถนำโลกแห่งศิลปะ กับวิทยาศาสตร์ ซึ่งดูเหมือนอยู่คนละขั้วกัน
มาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://companiesmarketcap.com/france/largest-companies-in-france-by-market-cap/
-https://www.essilor.co.th/about-essilor
-https://www.vogue.co.uk/article/christian-dior
-https://www.airliquide.com/shareholders/stock-share/focus-on/air-liquide-118-years-history-individual-shareholders
-https://www.se.com/th/en/about-us/company-profile/history/schneider-electric-history.jsp
-https://www.worldstopexports.com/drugs-medicine-exports-country/
-https://www.sanofi.com/en/about-us/through-time
-https://totalenergies.com/group/identity/history
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過147萬的網紅Kento Bento,也在其Youtube影片中提到,Our Merch: https://standard.tv/kentobento Our Patreon: https://patreon.com/kentobento Nebula: https://watchnebula.com/kentobento Twitter: https://tw...
us stock market open time 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
Nikola รถบรรทุกไฟฟ้า ล้านล้าน ลวงโลก /โดย ลงทุนแมน
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราอาจจะได้เห็นข่าวว่ามีหลายบริษัทที่ถูกจับทุจริต
ทั้งการโกงบัญชีของ Luckin Coffee ธุรกิจร้านกาแฟที่โตระเบิดจนมีสาขามากกว่า Starbucks
...Continue ReadingNikola, a trillionaire electric truck / by investment man.
In the past few months, we may have seen the news that many companies have been caught corrupt.
Luckin Coffee's accounting cheating, a grown-up coffee shop business explodes more branches than Starbucks.
To Kingold, a Chinese gold trading company in US stock market caught using fake gold for loan.
And recently, another company that was accused of corruption and deceiving the whole world.
That's a Nikola company that claims to produce electric and hydrogen vehicles that many people see have a chance to grow into Tesla's most important competitor, the world's most valuable car company.
Suspicious occurs because the founder of Trevor Milton has announced his sudden resignation after being accused of corruption for only 10 days.
This whole thing is pressure on Nikola company's shares falling from the highest point in June this year. Over 79 %
So what did Nikola do to be suspicious of corruption?
Investment man will tell you about it.
╔═══════════╗
Blockdit is a platform of source of thinkers
Helping to update the situation in video article formats
Including the podcast to listen to on the go.
Try it out at Blockdit.com/download
╚═══════════╝
First let's get to know the other important character of this story. That's Hindenburg Research.
This company does a corrupt business. It's going to make huge profit from Short Sell or borrowing shares of companies that are likely to be pre-sell.
Back to the beginning of this year, Muddy Waters Research was one of the corrupted companies who took huge profit from Short Sell after they caught Luckin Coffee cheating on their record of over-sales.
Hindenburg Research has Short Sell, Nikola Stocks, and has published a 76 page long report to show proof that Nikola is running a world-wide business.
Nikola was founded in 2014 with a mission to build automotive, polluting with electric battery technology with hydrogen from the company's research and development.
With clean energy the world's investment theme, including seniors like Tesla, can achieve huge success to the value of increasingly becoming the world's most valuable car company.
Nikola is easy to earn credibility and magnetism. Investors are attracted to fundraising quickly. Fast to the Stock Exchange. After only 6 years of business.
So how much does Nikola earn now?
If we come to see the results of Nikola company.
First 6 months, year 2019 Income 4 million baht. Lost 1,477 million baht.
First 6 months, year 2020 Income 3 million baht. Lost 4,198 million baht.
Interesting is Nikola's income we see coming from another business.
Because the company actually has income from selling automotive is 0 baht..
And this is because Nikola hasn't sold a car yet because the company can't produce a really viable car. Only the prototype is still under the testing. Expected to start manufacturing by 2021
Although Nikola hasn't sold any cars yet, you know that Nikola has reached 1.1 trillion baht more than Ford, the company that sold 5.5 million cars in the past year.
Such value is the expectation of investors who believe in electric and hydrogen battery technology that can make Nikola a blast. No different than Tesla can do.
But it seems like none of these things are true..
One of the key points Hindenburg Research accuses Nikola is that this company doesn't have its own technology, but only hires other manufacturers to produce.
By some reports, Nikola has gone to order inverter, an electric truck component from Cascadia.
But after Nikola took the car out, the company claimed that the inverter was a technology manufactured by the black tape to close the Cascadia brand..
And the latest case Nikola just announced to redeem 11 % of his own company's shares in exchange for hiring GM to produce a car.
There are many investors starting to see that Nikola's technology used to produce is almost from all GM.
Apart from technology that the company is accused of
Over the time, Trevor Milton, the founder of the company, has been suspicious. Changing the launch of the model car to be manufactured into a show of just a running model car. Plus, open for the reservation to pull money into the company.
And recently after Nikola was attacked by Hindenburg Research company.
Instead, the founder of a company like Trevor Milton brought evidence to confirm transparency and confidence that the company was in the right direction, but he announced his resignation almost immediately..
The story of Trevor Milton has been linked to Elizabeth Holmes, the former owner of a single drop of blood startup, changed the world Theranos who haunted the world a few years ago.
Nikola used to have a company worth of 1.1 trillion baht after entering the stock market successfully within a month.
But today, the company's value has fallen to 2.3 billion Baht. It's a 79 % fall.
Which if Hindenburg Research reports are true.
Worth 2.3 hundred thousand baht. It should be too much.
Because the true value of this company may just be emptiness..
╔═══════════╗
Blockdit is a platform of source of thinkers
Helping to update the situation in video article formats
Including the podcast to listen to on the go.
Try it out at Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Follow the investment man at
Website - longtunman.com
Blockdit-blockdit.com/longtunman
Facebook-@[113397052526245:274: lngthun mæn]
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram-instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.cnbc.com/2020/09/14/nikola-details-false-and-misleading-information-of-short-sellers-fraud-claims.html
-https://www.cnbc.com/2020/09/08/general-motors-takes-11percent-stake-and-2-billion-in-equity-in-electric-truck-maker-nikola-.html
-https://hindenburgresearch.com/nikola/
-https://swarajyamag.com/news-brief/touted-as-next-tesla-electric-vehicle-startup-nikola-is-now-drawing-comparison-with-theranos-for-fraudulent-misrepresentation
-https://electrek.co/2020/09/14/nikola-nkla-admits-faking-video-driving-prototype-weak-response/Translated
us stock market open time 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
เงินมีก้อนเดียว แต่ถูกทุบให้กระจาย /โดย ลงทุนแมน
เมื่อวันก่อนได้คุยกับผู้บริหารของบริษัทใหญ่ที่เป็นเจ้าของช่องทีวีช่องหนึ่ง ทำให้คิดได้ว่า ตอนนี้ เม็ดเงินโฆษณา กำลังเปลี่ยนไปจากที่คนในวงการคุ้นเคยไป "แบบถาวร"
สำหรับเจ้าของช่องทีวี ที่นึกถึงอดีตอันหอมหวาน แล้วนั่งภาวนารอ สปอนเซอร์แย่งกันเข้ามาต่อคิวโฆษณาระหว่างละคร ระหว่างรายการข่าว แบบเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คงจะเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นแล้ว
...Continue ReadingThere is only one bar of money, but it is smashed to distribute / investman.
The other day, talking to the executives of big corporations who own a TV channel. Realize that advertising money is now changing from those in the industry. ′′ permanently ′′
For the owner of the TV channel who thinks of the sweet past and sits in prayer and waits for the sponsor to get in the queue for the commercials during the 10 years of the last news show, it's probably not happening.
Which means that there are ten other missionaries, it doesn't bring more people back to turn on the TV.
The last event that the most people turned on TV, The Mask Singer and Baptist Noodles 3-4 years ago.
No one would have ever thought that was the peak of the TV already.
And it reflects that BEC stock price fell from 20 baht to 4 baht and Workpoint fell from 100 baht to 10 baht now..
Why is the story happening?
Invest man will tell you about it.
╔═══════════╗
Blockdit is a platform of source of thinkers
At the moment, update the situation in the video article form.
Including podcasts to listen on the go.
Try it out at Blockdit.com/download
╚═══════════╝
This story has many factors involved.
Both behaviors, people who are used to watching smartphones all the time.
The whole container is brought backwards. Let's see it by the need of less live watching.
Which all of this means our eyes are being taken by a smartphone from a TV screen.
In fact, a smartphone doesn't snatch from a TV. It snatches us from everything that is idle time or our free time in every moment.
We waiting for the elevator to pick up the mobile phone.
We wait for the electric car to pick up the mobile phone.
We are waiting for the red light to pick up the mobile phone.
And a lot of people think about it. It's a boyfriend's fight. Less than the previous boyfriend's appointment. Because now my boyfriend is late. We pick up the phone and watch it so that he can't be indifferent. When the other
Which too, TV is one idle time that the new generation thinks we can pick up the mobile phone instead.
So that makes some people say, ′′ Can't remember when was the last time the TV turned on?"
This story also resulted in many things like decorating condominium or house. Having TV in each room is very important.
But now becoming many people say that there is no need to spare a place for TV..
I have to admit that there are still a group of people who are familiar with turning on TV, most of them are 40 or older.
But if we think 40 or older people don't look at smartphone, we might have to rethink it.
Because smartphone is now accessible to all people of all ages.
Just this group of people are relieved of turning on TV while watching smartphone..
The next point that is the heart of the story is.
Advertisement money is only available and it flows to those who spend their time on it.
And of course from the same. TV's the number one choice and the most budget.
Now it's gonna be an important transaction where TV won't get the most money anymore..
Where the money will spread. No need to tell. We can guess..
Apart from the less TV-giving advertising budget, TV advertising has changed.
We will start to see
Interviews on TV. There are no commercials during the program. But more products in Tie In on the list.
House invasion program, interviewed stars, no advertisement during the program, but suddenly Darra comes to introduce inactive looking products.
Why is it?
The first thing is now, even if people watch TV, but people don't tolerate advertising during advertisements. When they are in commercials, people will come to watch their own smartphone, plow, Facebook, Facebook, Line.
The next thing is TV shows these days will bring contents to look backwards. Advertising in the list will be more beneficial than advertising during the program. In reality, there are no live-watching people..
When things are like this, the result is coming out at the advertisement. No one comes to sponsor because people put money in once and they are afraid of it. No one cares to open it backwards.
So we can see ads in between, only TV ads. Follow this list. There are plenty of ads after cutting into the commercials that are sponsored.
The next interesting question is.
And who are the people who benefit from online channels?
If we think there will be a big one, like Channel 3, Channel 7, can control all online marketplace and as big as before, I have to say that it's probably a dream that is impossible.
Because the principle of online media is that anyone can produce contents at a much lower cost than before. This is based on the unique characteristics of the owner of the channel or page.
What will happen is Personalized or so that the audience will spread to the channel or page they like on the Fragmented Market without anyone controlling the market.
To compare, it's like a dental shop distributed to each community. Noted that it's up to a good dentist in the community. No one can be a major country.
And of course, investment in production, drama, giant game show, magnificent. It may be less and less.
Because today people making containers are focused on ′′ speed ′′ rather than ′′ quality
It's probably a disadvantage that we may not see the intended containers planned for years like the old days anymore.
What we might see next is Consolidate or a group of more big partnering channels or pages. They can sell more ads across each other and set higher advertising prices.
And maybe we'll probably see a consolidate company of a channel or an online page big enough to be listed on future stock market..
Now we are in a head-to-head.
Which even everyone in the industry doesn't know how it ends.
But now I have to admit it's not the same anymore.
Because one sum of money is smashed to spread already.
And the interesting thing is that while everyone in Thailand can make contents.
But the one who has benefited from everyone is a foreign platform that hardly pays taxes to Thailand..
╔═══════════╗
Blockdit is a platform of source of thinkers
At the moment, update the situation in the video article form.
Including podcasts to listen on the go.
Try it out at Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Follow the investment man at
Website - longtunman.com
Blockdit-blockdit.com/longtunman
Facebook - Invest Man
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram-instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunmanTranslated
us stock market open time 在 Kento Bento Youtube 的最佳解答
Our Merch: https://standard.tv/kentobento
Our Patreon: https://patreon.com/kentobento
Nebula: https://watchnebula.com/kentobento
Twitter: https://twitter.com/kentobento2015
Business Inquiries: kentobento@standard.tv
Get Skillshare for free for 2 months: https://skl.sh/kentobento3
Over 30,000 classes on just about anything.
Other videos you may like:
Has McDonald's Conquered Asia?: https://youtu.be/pgHiRsk2UjY
The Incredible Japanese Prison Break: https://youtu.be/oI8trlbCbU8
The Mysterious Chinese Art Heists Across Europe: https://youtu.be/9LDVQYfeseo
This Is The Greatest Bank Heist in Chinese History: https://youtu.be/qW0uzPJEO10
The $1,000,000,000 North Korean Bank Heist: https://youtu.be/Usu9z0feHug
How Macau Became North Korea's Base of Operations: https://youtu.be/BQ5x8riJ6SA
The Bizarre South Korean Bank Heist: https://youtu.be/8JclG3gZLQI
Stock Media Footage:
Videoblocks: https://www.videoblocks.com
Music:
Epidemic Sound: http://epidemicsound.com
Ross Bugden: https://youtube.com/channel/UCQKGLOK2FqmVgVwYferltKQ
Brandon Maahs: http://brandonmaahs.com
Channel Description:
Animated documentary-style videos on extraordinary Asian events.
Credits:
Kento Bento — Researcher, writer, narrator, audio editor, video editor, motion graphics & art director
Ed Jiménez — Illustrator
Nina Bento — Cheerleader
Video Title: Has KFC Conquered Asia?
"We’ve already covered McDonald’s on this channel, and, well, now it’s time for some KFC. Kentucky Fried Chicken is the world’s second largest restaurant chain after McDonald’s, with over 23000 outlets in more than 140 countries and territories around the world. Now recently, the number of KFC outlets has been declining in the US, but the company has actually continued to grow over in Asia. In fact, KFC’s largest market lies on this continent (we’ll get to that soon). KFC was founded on March 20th, 1930 in Kentucky, with its very first franchise opening in Utah in 1952. Just a year later it made its way to Canada; and in 1965 the first overseas franchise outside of North America opened in the UK. Now it’s from this point where KFC enters the Asian market (well before McDonald’s); and, in this video I’ll be taking you through the next 54 years of KFC's Asian ascension. So, which Asian country was the first to open a KFC? What did KFC have to sacrifice in order to compete with local markets? And how much of Asia is there still left to conquer, as of today? Indeed we’ll get to all of that, so grab a Zinger burger, maybe some drumsticks, and we’ll explore every Asian country to have ever had a KFC!...
us stock market open time 在 Stock Market Trading Hours: What Time Is the ... - Kiplinger 的相關結果
Regular trading hours for the U.S. stock market, including the New York Stock Exchange (NYSE) and the Nasdaq Stock Market (Nasdaq), are 9:30 a.m. to 4 p.m. ... ... <看更多>
us stock market open time 在 Stock Market Opening Times Around the World - Investopedia 的相關結果
Trading Hours in the United States and North America ; New York, United States · $27.69 · 1 · EDT · 9:30 a.m. to 4:00 p.m.. ... <看更多>
us stock market open time 在 Holidays and Trading Hours - NYSE 的相關結果
Core Trading Session: 9:30 a.m. to 4:00 p.m. ET · 9:30 a.m. ET - Core Open Auction · 3:50 p.m. to 4:00 p.m. ET - Closing Auction Imbalance Freeze Period · 4:00 ... ... <看更多>