Wall’s จากร้านขายเนื้อ สู่ไอศกรีมที่ขายดีสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า ของว่างประเภทไหนที่เหมาะกับ เมืองร้อนอย่างประเทศไทยบ้าง
คำตอบของหลายคนต้องมี “ไอศกรีม” รวมอยู่ด้วย
ซึ่งในประเทศไทยก็มีแบรนด์ไอศกรีมชื่อดังต่าง ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ ไอศกรีม Wall’s
รู้ไหมว่า จุดเริ่มต้นของ Wall’s ไม่ได้มาจากการขายไอศกรีมตั้งแต่แรก
ความเป็นมาของไอศกรีม Wall’s ที่หลายคนชื่นชอบ เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของไอศกรีม Wall’s ต้องย้อนกลับไปในปี 1786 เมื่อคุณ Richard Wall ที่ในตอนนั้นเขาได้เปิด ร้านขายเนื้อ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
กิจการร้านขายเนื้อของตระกูล Wall ดำเนินกิจการมาจากรุ่นสู่รุ่น จนมาในปี 1913 หลานชายของคุณ Richard Wall เข้ามาบริหารต่อ และได้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่ว่า ตั้งต้นมาจากปัญหาหนึ่งที่กิจการร้านขายเนื้อของตระกูล Wall เจอมานาน
คือพอถึงช่วงฤดูร้อนของทุกปี ความต้องการไส้กรอก พาย และเนื้อ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของร้านจะลดลง ทำให้เขาต้องลดจำนวนพนักงานในช่วงฤดูร้อนลงแทบทุกปี
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณ Richard Wall II จึงพยายามหาทางช่วยให้พนักงานของเขามีงานทำในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านในช่วงฤดูร้อนไปในเวลาเดียวกัน
เขารู้ว่า ไส้กรอก พาย และเนื้อ ไม่ใช่สินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงเวลาดังกล่าว และสิ่งที่เหมาะที่สุด ที่จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกสดชื่นในช่วงฤดูร้อน จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ไอศกรีม”
แต่ความคิดนี้ต้องถูกพับลงไปก่อน เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่ 1 จนเมื่อสงครามนั้นสิ้นสุดลง เขาจึงได้เริ่มนำไอศกรีมมาไว้ในเมนูของร้านเขา
รวมไปถึงเริ่มการใช้ม้าและเกวียน นำไอศกรีมไปขายตามท้องถนน จากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้รถสามล้อ
ต่อมาในปี 1922 ธุรกิจไอศกรีม Wall’s ของเขา ได้ถูกซื้อกิจการไปโดย 2 บริษัท
คือ Lever Brothers ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจสบู่ในอังกฤษ และ Margarine Unie ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอาหารของเนเธอร์แลนด์
หลังจากนั้น ความนิยมของไอศกรีม Wall’s ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จนต้องเพิ่มจำนวนรถสามล้อเพื่อขายไอศกรีมบนท้องถนนในสหราชอาณาจักร จากช่วงเริ่มต้นในปี 1922 ที่มีประมาณหลัก 10 คัน มาเป็นกว่า 8,500 คันในปี 1939
ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ไอศกรีม Wall’s มีขายในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยในแต่ละประเทศก็จะใช้ชื่อในการทำตลาดที่แตกต่างกัน เช่น
- ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ใช้ชื่อว่า “Good Humor”
- ในเยอรมนี ใช้ชื่อว่า “Langnese”
- ในอังกฤษ ไทย ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เวียดนาม สิงคโปร์ ลาว และอีกหลายประเทศในเอเชีย ใช้ชื่อว่า “Wall’s”
แต่ไม่ว่าจะใช้ชื่ออะไร จุดสังเกตที่เห็นได้ชัดก็คือ จะมีโลโกรูปหัวใจสีแดงในตำนานของ Wall’s อยู่ด้วยเสมอ
โดยปัจจุบัน Wall’s เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของ Unilever บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลก
ซึ่ง Unilever ก็เกิดมาจาก การควบรวมระหว่าง Lever Brothers และ Margarine Unie ที่เป็นสองบริษัทเจ้าของไอศกรีม Wall’s ก่อนหน้านี้ นั่นเอง
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยตลาด Euromonitor ในปี 2020 ระบุว่า ธุรกิจไอศกรีมของ Unilever ครองส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจไอศกรีมเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดยอดขายประมาณ 19%
ในส่วนของประเทศไทยนั้น Wall’s เข้ามาทำตลาดช่วงแรกในปี 1989 หรือปี พ.ศ. 2532 โดยมีการลงทุนสร้างโรงงานผลิตไอศกรีมในไทย
เพราะมองว่า ตลาดไอศกรีมของไทยในตอนนั้นยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เมืองไทยเป็นเมืองที่ค่อนข้างร้อน และอัตราการบริโภคไอศกรีมของคนไทยในตอนนั้น ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหลายประเทศในเอเชีย
Wall’s เริ่มทำการพัฒนาสูตรไอศกรีม ช่องทางการขาย การโฆษณา ให้เหมาะกับพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย
รวมไปถึงการที่ Wall’s พยายามสร้างฐานลูกค้าไอศกรีม ให้หลากหลาย
มีการเจาะกลุ่มลูกค้าวัยเริ่มทำงานหรือกระทั่งกลุ่มผู้ใหญ่มากขึ้น
เช่น มีการสร้างซับแบรนด์อย่าง Magnum ที่เจาะกลุ่มคนชอบไอศกรีมระดับพรีเมียม
โดยข้อมูลจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในปี พ.ศ. 2560 ระบุว่า Wall’s เป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ในตลาดไอศกรีมของประเทศไทยเลยทีเดียว
จากจุดเริ่มต้นของร้านขายเนื้อในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ของคุณ Richard Wall เมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว และความคิดเพียงแค่ต้องการที่จะช่วยเหลือพนักงานในร้านให้มีงานทำในช่วงฤดูร้อน จนนำไปสู่การทำเมนูไอศกรีม จนกลายเป็นแบรนด์ไอศกรีมที่มียอดขายมากที่สุด ในวันนี้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://edition.cnn.com/2020/11/14/business/unilever-ice-cream/index.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Wall%27s_(ice_cream)
-https://finance.yahoo.com/quote/UL/
-https://edition.cnn.com/2020/11/14/business/unilever-ice-cream/index.html
-https://e-journal.dip.go.th/dip/images/ejournal/8d790e74b422cafb81549dced75b6ad1.pdf
同時也有8部Youtube影片,追蹤數超過2萬的網紅KINUKURO,也在其Youtube影片中提到,*推薦加速1.25倍 *有關何謂TRPG、COC,請見說明文最後 *因為有八個小時,過程將大量精簡 TRPG播放清單:https://www.youtube.com/playlist?list=PL8dvi39xPsnndjbjOu-rULn5H5iOCdw28 遊戲 桌上角色扮演遊戲(克蘇魯...
「ice cream wiki」的推薦目錄:
- 關於ice cream wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於ice cream wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ice cream wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ice cream wiki 在 KINUKURO Youtube 的最佳解答
- 關於ice cream wiki 在 KINUKURO Youtube 的最佳貼文
- 關於ice cream wiki 在 糖餃子Sweet Dumpling Youtube 的最讚貼文
- 關於ice cream wiki 在 Julia Fox Biography, Wiki, Age, Boyfriend, Career, Net Worth ... 的評價
ice cream wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
ไอศกรีม Baskin-Robbins มีเจ้าของคือ Dunkin’ /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงร้านขายไอศกรีม คนไทยอาจคุ้นเคยกับ Swensen’s หรือ Dairy Queen
แต่ในตลาดโลก
รู้ไหมว่า “Baskin-Robbins” เป็นแบรนด์ผู้นำที่มีจำนวนสาขามากที่สุด
และปัจจุบันเจ้าของร้าน Baskin-Robbins คือบริษัท Dunkin’ Brands Group
ซึ่งดูจากชื่อทุกคนก็น่าจะคุ้นๆ ว่าเป็นชื่อแบรนด์โดนัท
แต่ที่น่าสนใจคือ จริงๆ แล้ว Baskin-Robbins ถูกซื้อกิจการเข้ามาก่อนธุรกิจหลักอย่างร้านโดนัทเสียอีก
เรื่องราวนี้น่าสนใจอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1945 หรือ 75 ปีที่แล้ว คุณ Irvine Robbins นักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวร้านขายไอศกรีม ได้ออกมาก่อตั้งร้านของตัวเองชื่อว่า Snowbird Ice Cream
คุณ Robbins มักจะชอบคิดค้นรสชาติไอศกรีมใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้ร้านเขาโดดเด่นกว่าคนอื่น ตรงที่มีไอศกรีมให้เลือกทานถึง 21 รสชาติ
อีก 1 ปีถัดมา คุณ Burt Baskin ซึ่งเป็นน้องเขย ได้รับคำแนะนำจาก Robbins ให้ลองทำธุรกิจขายไอศกรีมดูบ้าง เขาจึงเปิดร้านชื่อว่า Burton’s Ice Cream ขึ้นมาเช่นกัน
และแล้วในปี 1948 พวกเขาก็ตัดสินใจควบรวมกิจการ เกิดเป็นร้านไอศกรีมใหม่ “Baskin-Robbins” ที่ตั้งชื่อตามนามสกุลของทั้งคู่นั่นเอง
หลังจากรวมธุรกิจกัน ร้านได้มีไอศกรีมเพิ่มขึ้นเป็น 31 รสชาติ ซึ่ง Baskin-Robbins นำจุดนี้มาประยุกต์ใช้เป็นสโลแกน “31 Flavors” ที่สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์เป็นอย่างมาก โดยสื่อความหมายว่า ลูกค้าจะสามารถทานไอศกรีมได้ทุกวันแบบไม่ซ้ำรสชาติภายใน 1 เดือน
รวมทั้งมีการออกแบบโลโก้ของร้าน ให้มีตัวเลข 31 ซ่อนอยู่ในอักษรย่อ BR อีกด้วย
นอกจากนั้น Baskin-Robbins ยังเป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรม เช่น การให้ลูกค้าทดลองชิมด้วยช้อนเล็กๆ ก่อนสั่งซื้อรสชาติที่ถูกใจ, การคิดค้นเมนูเค้กไอศกรีมเป็นรายแรก และการเป็นกลุ่มบุกเบิกกลยุทธ์ขยายธุรกิจแบบแฟรนไชส์
ถึงแม้เวลาผ่านไป Baskin-Robbins ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่ 31 แต่ได้พัฒนาไอศกรีมสูตรต่างๆ มาเสนอผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง สะสมรวมแล้วกว่า 1,300 รสชาติ
ปัจจุบัน ร้านมีสาขาทั้งหมด 8,160 แห่ง ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา 2,524 สาขา และอยู่ในต่างประเทศอีก 5,636 สาขา
ซึ่ง Baskin-Robbins ถือเป็นแบรนด์ร้านขายไอศกรีมที่มีสาขามากสุดในโลก
และหากนับรวมธุรกิจร้านอาหารทุกประเภท พวกเขาจะมีจำนวนสาขาสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก รองจากร้านดังๆ ได้แก่ Subway, McDonald’s, Starbucks, KFC, Burger King, Pizza Hut, Domino’s, Dunkin’
โดยยอดขายไอศกรีมของ Baskin-Robbins
ปี 2017 อยู่ที่ 61,000 ล้านบาท
ปี 2018 อยู่ที่ 65,000 ล้านบาท
ปี 2019 อยู่ที่ 66,000 ล้านบาท
ส่วนตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย คือ บริษัท โกลเด้น สกู๊ป จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดยบริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ MAI ใช้ชื่อย่อว่า MM
ตอนนี้ร้านมีสาขาในไทย 34 แห่ง และมีผลประกอบการ ดังต่อไปนี้
ปี 2017 รายได้ 111 ล้านบาท ขาดทุน 12 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 112 ล้านบาท ขาดทุน 10 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 103 ล้านบาท ขาดทุน 10 ล้านบาท
แล้ว Dunkin’ กลายมาเป็นเจ้าของ Baskin-Robbins ได้อย่างไร?
ที่ผ่านมา ร้าน Baskin-Robbins ถูกเปลี่ยนมือเจ้าของอยู่หลายครั้ง
ปี 1967 ถูกซื้อกิจการไปโดย United Brands บริษัทสัญชาติอเมริกัน ซึ่งประกอบธุรกิจขายผลไม้
ปี 1973 ถูกซื้อกิจการอีกครั้งโดย Allied-Lyons บริษัทธุรกิจอาหาร จากประเทศอังกฤษ
ปี 1990 บริษัท Allied-Lyons ซื้อกิจการ Dunkin’ Donuts และ Mister Donut แล้วนำเอาไปรวมกับ Baskin-Robbins ให้เป็นหน่วยธุรกิจใหม่ ชื่อว่า “Dunkin’ Brands”
ต่อมาในปี 2006 กองทุนร่วมทุนระหว่างบริษัท Bain Capital, Carlyle Group และ Thomas Lee ได้เจรจาขอซื้อกิจการของ Dunkin’ Brands ไปด้วยมูลค่า 75,000 ล้านบาท
หลังจากนั้นในปี 2011 พวกเขาก็นำบริษัท Dunkin’ Brands Group จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ซึ่งล่าสุดมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 178,000 ล้านบาท
จากเรื่องราวนี้ จะเห็นได้ว่า
ในอุตสาหกรรมไอศกรีมที่มีคู่แข่งเยอะ และสินค้าค่อนข้างใกล้เคียงกัน
การรักษาตำแหน่งผู้นำตลาด เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก
ดังนั้นปัจจัยสำคัญสำหรับธุรกิจนี้ คงหนีไม่พ้น
การนำเสนอความแปลกใหม่ ที่สร้างเอกลักษณ์ให้แตกต่างจากร้านอื่น อยู่ตลอดเวลา
เหมือนดังกรณีของ Baskin-Robbins
แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ
Baskin-Robbins ในประเทศไทยกลับไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไรนัก
ต่างจาก Swensen’s ที่ดังในไทย แต่ก็กลับไม่ได้เป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา..
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Baskin-Robbins
-https://www.mashed.com/177683/the-untold-truth-of-baskin-robbins/
-https://investor.dunkinbrands.com/static-files/7a80a22d-8895-4d5d-b625-603b127cb27f
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_the_largest_fast_food_restaurant_chains
-http://www.mudman.co.th/th/business/baskin-robbins/
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ice cream wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
GUSS DAMN GOOD ไอศกรีมคนไทย ที่มาไกลจากบอสตัน / โดย ลงทุนแมน
ถ้าใครอยากรู้ว่ารสชาติของการไม่ยอมแพ้เป็นอย่างไร
ให้ลองเดินเข้าร้าน Guss Damn Good
แล้วสั่งไอศกรีมรส Don’t Give Up #18 มาชิม
Guss Damn Good เป็นชื่อของร้านไอศกรีมสัญชาติไทย
แต่มีต้นกำเนิดที่มาไกลถึงสหรัฐอเมริกา
╔═══════════╗
แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของ Guss Damn Good มาจากคน 2 คน
คนแรก คุณระริน ธรรมวัฒนะ ซึ่งเรียนจบมาจากสายการเงิน
รับอาสาออกแบบรสชาติไอศกรีมและทำการตลาด
ส่วนคนที่สอง คุณนที จรัสสุริยงค์ เรียนจบด้านวิศวกรรม
รับหน้าที่สร้างโมเดลตั้งต้นเพื่อคำนวณสูตรไอศกรีมบนโปรแกรม Microsoft Excel
เช่น ต้องใช้ไขมันหรือของเหลวเป็นสัดส่วนเท่าไรเพื่อให้ได้เนื้อไอศกรีมที่ต้องการ
ทั้ง 2 คนมาเจอกันตอนไปเรียนต่อปริญญาโทที่ Babson College เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีจุดร่วมที่เหมือนกันก็คือ ความชื่นชอบไอศกรีม
ที่น่าสนใจคือ เมืองบอสตันเป็นเมืองหนาว ช่วงที่ร้อนที่สุดคือเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส ส่วนเดือนที่หนาวสุดคือเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -1.7 องศาเซลเซียส
ทั้งๆ ที่สภาพอากาศเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังมีร้านไอศกรีมเปิดเต็มไปหมด
โดยจุดเด่นของร้านไอศกรีมของเมืองนี้จะเน้นที่รสชาติของไอศกรีมเป็นหลัก ไม่ได้ทานกับทอปปิงเสริม และแม้กระทั่งวันที่หิมะตกหนัก ก็ยังมีคนต่อคิวเพื่อซื้อไอศกรีม
คุณระรินจึงไปถามเพื่อนชาวอเมริกันว่าไม่หนาวเหรอ ซึ่งเธอได้รับคำตอบว่า “ไอศกรีมทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาในฤดูร้อน”
ในบางครั้งการทำสินค้าอาจไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในตอนนั้น แต่ถ้าทำให้คนได้สัมผัส แล้วได้ประสบการณ์ อารมณ์ร่วม มันก็น่าจะตอบโจทย์กับผู้บริโภค
เรื่องนี้ทำให้คุณระรินเริ่มสนใจการทำไอศกรีม เพราะนอกจากความอร่อยแล้ว ไอศกรีมยังสร้างอารมณ์และความรู้สึก สามารถทำให้ผู้ทานย้อนไปถึงเรื่องราวต่างๆ ในความทรงจำได้
และตอนนั้นเธอกำลังมองหาช่องทางทำธุรกิจพอดี จึงชวนคุณนที ที่ชื่นชอบไอศกรีมเหมือนกัน ให้มาร่วมด้วย
ทั้งสองตระเวนชิมไอศกรีมไปทั่วบอสตัน ศึกษาจากตำราบ้าง พูดคุยกับเจ้าของร้านบ้าง
จากนั้นก็ทดลองทำไอศกรีม โดยซื้อเครื่องทำไอศกรีมเล็กๆ มาเริ่มทำกันในอะพาร์ตเมนต์
เมื่อกลับเมืองไทยในปี พ.ศ. 2557 ทั้งสองจึงเริ่มทำเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง
ลงทุนซื้อเครื่องทำไอศกรีม ตู้เย็น รวมถึงตู้แช่
แต่อุปสรรคที่เกิดขึ้นตอนนั้นก็คือ พวกเขาขายไอศกรีมไม่เป็น
คือรู้ว่าทำทานเล่นกันเองอย่างไร แต่ไม่รู้ว่าถ้าจะทำขายจริงๆ ต้องทำอย่างไร
อย่างไรก็ตาม หลังจากทดลองกันอยู่นาน ทั้งสองก็ได้สูตรไอศกรีมแรกที่มีรสชาติลงตัว
ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อรสนี้ว่า Don’t Give up #18
แน่นอนว่าชื่อนี้ต้องมีที่มา..
จริงๆ แล้ว Don’t Give Up #18 เป็นไอศกรีมรสนม ซึ่งเกิดจากความพยายามหาส่วนผสมระหว่างนมและครีมว่ายี่ห้อไหนจะเข้าคู่กันได้ดีที่สุด
โดยเลข 18 มาจากการทดลองครั้งที่ 18 ซึ่งเป็นครั้งที่เริ่มใกล้เคียงกับรสชาติปัจจุบันมากที่สุด
ทั้งสองจึงใช้เลขนี้มาเป็นเครื่องเตือนใจว่าอย่ายอมแพ้
ซึ่งสุดท้ายก็ต้องทดลองกันไปรวมๆ กว่า 30 ครั้ง ถึงจะได้รสชาติที่ต้องการ
หลังจากได้สูตรไอศกรีมแล้ว ทั้งสองก็นำไปออกร้านขายเลยที่ตลาดนัด Flea Market
ผลปรากฏว่า ไม่มีคนซื้อ เพราะลูกค้าไม่รู้จัก จึงไม่มีใครกล้าชิม
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้คุณระริน และคุณนทียอมแพ้
พวกเขาเริ่มเอาไอศกรีมไปฝากขายตามร้านกาแฟ รวมถึงออกบูทตามตลาดนัดสินค้าทำมือ
เนื่องจากทั้งสองมองว่าไอศกรีมของพวกเขา ก็เป็นหนึ่งในงานฝีมือเช่นกัน
เพราะวัตถุดิบทุกชิ้นผ่านการคัดสรรมาอย่างตั้งใจ ไม่ได้เน้นใส่กลิ่นใส่สี
โดยเน้นที่รสชาติของไอศกรีมจริงๆ ไม่ใช่เครื่องทอปปิงที่เสริมเข้ามา
ที่สำคัญคือ ทุกรสชาติต้องมีเรื่องราว ดังนั้นไอศกรีมของ Guss Damn Good จึงไม่มีรสวานิลลา ช็อกโกแลต หรือสตรอว์เบอร์รี
ตัวอย่างรสชาติของ ไอศกรีม Guss Damn Good
Why Can’t Coffee Be White? ซึ่งเกิดจากการผสมไอศกรีมกาแฟ แต่กลับได้เนื้อสีขาวแทนสีน้ำตาล
หรือ BONFIRE ไอศกรีมรสคาราเมลที่นำมาเผาจึงมีรสขม ก็เกิดจากความชอบเล่นสโนว์บอร์ดของคุณนที ซึ่งส่วนใหญ่หลังจากเล่นเสร็จทุนคนก็จะมานั่งล้อมวงแล้วจุดกองไฟปิ้งมาร์ชแมลโลว์ ได้รสชาติที่ออกขมเช่นกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ BONFIRE
อีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจของ Guss Damn Good คือการทำโปรเจกต์ร่วมกับแบรนด์อื่น ผ่านการทำไอศกรีมที่เป็นรสชาติของแบรนด์นั้นๆ เช่น แบรนด์รองเท้า TOMS หรือเครื่องสำอาง Wet n Wild
อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวแบรนด์ Guss Damn Good กลับแทบไม่ได้ใช้งบประมาณการตลาดเลย แต่อาศัยการเล่าเรื่องราวและรสชาติของไอศกรีม ทำให้เกิดการบอกปากต่อปากเป็นหลัก
โดยตอนนี้ Guss Damn Good ได้เปิดร้านสาขาของตัวเอง และขยายจนมีหน้าร้านถึง 6 สาขา
แล้วตอนนี้ผลประกอบการของ Guss Damn Good เป็นอย่างไร?
รายได้ย้อนหลังของ บริษัท กัสส์ แดมน์ กู๊ด จำกัด ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปลายปี 2560
ปี 2560 รายได้ 1,220,807 บาท
ปี 2561 รายได้ 16,145,740 บาท
เรื่องราวของ Guss Damn Good ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
สำหรับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดก็ควรจะเป็นสิ่งที่เรารัก
แต่นอกจากความรักในสิ่งที่ทำแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือความอดทน
เพราะถ้าหากคุณระรินและนทีล้มเลิก ไม่ทำต่อ
วันนี้เราก็คงจะไม่มีโอกาสรู้รสชาติของการไม่ยอมแพ้ จากไอศกรีมรส Don’t Give Up #18 ของพวกเขานั่นเอง..
╔═══════════╗
แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
References
-https://amarinacademy.com/1123/interview-review/guss-damn-good/
-https://adaymagazine.com/shop-24/
-https://www.timeout.com/bangkok/restaurants/guss-damn-good
-https://www.maeban.co.th/features_detail.php?id=480&fbclid=IwAR2XKPygLPRrhb7Wi76qIdtswqY0evnaR1NO_BcPPMEtrzrEsKgcUJVqDeA
-http://bigmoneymag.com/listed-guss-damn-good-crafted-ice-cream/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Boston#Geography
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ice cream wiki 在 KINUKURO Youtube 的最佳解答
*推薦加速1.25倍
*有關何謂TRPG、COC,請見說明文最後
*因為有八個小時,過程將大量精簡
TRPG播放清單:https://www.youtube.com/playlist?list=PL8dvi39xPsnndjbjOu-rULn5H5iOCdw28
遊戲 桌上角色扮演遊戲(克蘇魯的呼喚)
劇本 I want you to kill the ice cream man
原作 Michael C. LaBossiere
假KP=假守密人 鬼怒川
PL=玩家 四個熟人
背景圖 Pexel、Unsplash、Pixabay
背景動態 breezy media
剪輯 鬼怒川
音樂 Audio Library
角色圖 碳粉糰子
「Audionautix」創作的「Pentagram」是根據「Creative Commons Attribution」(https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/) 授權使用
演出者:http://audionautix.com/
––––––––––––––––––––––––––––––
TRPG:
https://zh.wikipedia.org/wiki/%E6%A1%8C%E4%B8%8A%E8%A7%92%E8%89%B2%E6%89%AE%E6%BC%94%E9%81%8A%E6%88%B2
COC:
https://zh.m.wikipedia.org/zh-tw/克蘇魯神話
#克蘇魯神話 #跑團 #TRPG #クトゥルフ
ice cream wiki 在 KINUKURO Youtube 的最佳貼文
*推薦加速1.25倍
*有關何謂TRPG、COC,請見說明文最後
*因為有八個小時,過程將大量精簡
下集:
https://youtu.be/Sjyk_6u4nTA
TRPG播放清單:https://www.youtube.com/playlist?list=PL8dvi39xPsnndjbjOu-rULn5H5iOCdw28
遊戲 桌上角色扮演遊戲(克蘇魯的呼喚)
劇本 I want you to kill the ice cream man
原作 Michael C. LaBossiere
假KP=假守密人 鬼怒川
PL=玩家 四個熟人
背景圖 Pexel、Unsplash、Pixabay
背景動態 breezy media
剪輯 鬼怒川
音樂 Audio Library
角色圖 碳粉糰子
––––––––––––––––––––––––––––––
TRPG:
https://zh.wikipedia.org/wiki/%E6%A1%8C%E4%B8%8A%E8%A7%92%E8%89%B2%E6%89%AE%E6%BC%94%E9%81%8A%E6%88%B2
COC:
https://zh.m.wikipedia.org/zh-tw/克蘇魯神話
#克蘇魯神話 #跑團 #TRPG #クトゥルフ
ice cream wiki 在 糖餃子Sweet Dumpling Youtube 的最讚貼文
Hi, everyone. :) Today we'll show you how to make a fluffy and delicious pancake: Dutch Baby.
Dutch baby pancake has many names, German Pancake, David Eyre Pancake, German Oven Pancake, Bismarck, Dutch Puff. According to Wiki, the idea of a Dutch baby might be derived from the German Pfannkuchen, but the current form originated in the US.
But no matter what it calls, the dutch baby is the easiest pancake breakfast or brunch you can make. Only few ingredients, one bowl, and one cast iron skillet or any oven-safe pan. It’s puff up super high in oven, because of the egg in the pancake while baking. Once out of the oven, the pancake collapses quickly, but the edges is still crispy on the outside, inside is tender like crepes.
This recipe is for a deliciouse small size dutch baby. We use 16cm cast iron skillet, but it can use any oven-safe pan or baking mold, like pie dish. You can serve it with pan or transfer to a platter. And you can enjoy it with jam, fresh fruits, lemon curd, peanut butter, maple syrup or an ice cream as you like. Hope you like this video. Enjoy. :)
This is an #ASMR ver, you can check out the other ver that with BGM and Voices in Chinese if you like:
https://youtu.be/2MaqocL-VhM
------------------------
Dutch Baby Pancake Recipe
☞ baking mold: 16cm cast iron skillet
✎ Ingredients
large egg 1
all-purpose flour 32g
whole milk 45ml
granulated sugar 8g
ground nutmeg a pinch
unsalted butter 8g
vanilla extract 2g (optional)
lemon 1
powdered sugar for garnish
✎ Instructions
1. Place a heavy cast iron or a oven-safe pan in the oven. Preheat the oven to 210°C. Then heat uo the pan in 2 minutes.
2. Add an egg in a large bowl, beat until very frothy.
3. Sift flour and add to egg. Mix together until combine.
4. Add sugar, vanilla extract and milk. Then grate a little bit of nutmeg into the mixture and blend all ingredients until smooth.
5. Remove the cast iron from oven, be careful it's very hot. Place the butter and swirl the pan to melt the butter and coat the bottom and side of the pan.
6. Pour the batter into the pan, return pan to the oven and bake for 15~18 minutes. until the pancake is puffed and golden. Lower oven temperature to 150°C and bake 4 minutes longer.
7. Remove the dutch baby from oven, place the butter, squeeze some lemon juice, and then dust with powdered sugar. Serve immediately. You can serve from the pan or transfer to a serving dish.
----------------------------------------------------------------------
#DutchBabyPancake
#Breakfast
#eastrecipes
ice cream wiki 在 Julia Fox Biography, Wiki, Age, Boyfriend, Career, Net Worth ... 的推薦與評價
She juggled with multiple jobs to survive; Ice Cream Shop, Pastry shop and the shoe store. She schooled at the City-As-School High School. ... <看更多>