“ซอสศรีราชา” ซอสพริกที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ที่สำคัญคนอเมริกันก็รู้จักกันเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน แต่! รู้หรือไม่? ที่คนไทยรู้จักกับคนอเมริกันรู้จักนั้น คนละศรีราชา เพราะซอสพริกที่ดังในสหรัฐอเมริกานั้น มีต้นกำเนิดมาจากคนเวียดนาม ไม่ใช่คนไทยทำแม้จะมีชื่อมาจากไทยก็ตาม
.
โดยคนที่เป็นผู้ผลิตและพาชื่อ “ซอสพริกศรีราชา” ของไทยไปโด่งดังและเป็นซอสพริกสุดฮิตที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลากว่า 40 ปี มีชื่อว่า “David Tran” ชายเวียดนามเชื้อสายจีน ที่อพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลก ก่อนจะก่อตั้งบริษัท Huy Fong Foods และในปี 1980 ได้เริ่มทำซอสพริกรสชาติสไตล์เอเชียขายในระแวกบ้านด้วยรถตู้คันเล็ก ข้างรถติดรูปวาดไก่ ซึ่งกลายเป็นตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ในปัจจุบัน เดือนแรกเขาสามารถทำยอดขายซอสได้ถึง 2,300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 69,000 บาท
.
แต่ปัจจุบันซอสพริกศรีราชาตราไก่ของเขาได้รับความนิยมจากชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก จนสามารถถือครองสัดส่วนของตลาดซอสพริกในสหรัฐฯ ได้ถึง 9.9% เป็นมูลค่ากว่า 1,550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 46,000 ล้านบาท
.
โดยแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาเริ่มต้นผลิตซอสพริกแบรนด์นี้ เนื่องจากเขาชื่นชอบซอสต้นตำรับของไทย (ปัจจุบันคือแบรนด์ “ซอสศรีราชาพานิช” แบรนด์ซอสพริกชื่อดังในไทยที่อยู่มานานกว่า 70 ปี) ซึ่งคาดว่าทหารเวียดนามที่มารบในสงครามนำสูตรไปเผยแพร่ต่อในเวียดนาม เพราะทานคู่กับเฝอแล้วอร่อย แต่เมื่อเขาย้ายมาอยู่ที่สหรัฐฯ เขาไม่สามารถหาซื้อซอสนี้ได้ จึงเริ่มผลิตขึ้นมาเอง เพียงแต่แตกต่างตรงที่เขาต้องการผลิตซอสที่มีรสชาติเผ็ดร้อนกว่าเดิมเพื่อให้ชาวเวียดนามที่อยู่ในสหรัฐฯ ได้ทานกัน
.
แม้จะเป็นซอสพริกที่มีชื่อว่าศรีราชาเหมือนกัน แต่ต้องบอกว่า ซอสทั้งสองแบรนด์นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะต้นตำรับของไทยจะมีรสชาติที่ “เผ็ดหวาน” กว่า ใช้วัตถุดิบหลักเป็น พริกชี้ฟ้า กระเทียมไทย น้ำตาลทรายขาว น้ำส้มสายชู และเกลือทะเล
แต่สำหรับซอสตราไก่ของ David จะมีรสชาติออก “เปรี้ยวเผ็ด” และมีความเผ็ดร้อนกว่า ใช้วัตถุดิบหลักเป็นพริกจาลาปิโน่ กระเทียม น้ำตาล และวัตถุดิบอื่น ๆ ที่สามารถหาได้ในสหรัฐฯ
.
นอกจากนี้ แม้ซอสต้นตำรับจะมาก่อน และถูกปากคนไทยมากกว่า แต่หากพูดถึงซอสศรีราชาในระดับโลก ส่วนมากจะรู้จักในชื่อของ “ซอสศรีราชาตราไก่” ของ David เนื่องจากความเผ็ดร้อนแบบเอเชียถูกปากคนต่างชาติมากกว่า
.
ประกอบกับ Kylie Jenner เคยโพสต์รูปใน Instagram ของเธอว่า ซอสพริกศรีราชามีสีเดียวกับเธอ ซึ่งขณะนั้นเธอมีผมสีเขียวและใส่ชุดสีแดง เหมือนกับขวดซอสที่มีสีแดงและมีฝาสีเขียว จนเกิดปรากฏการณ์ศรีราชาฟีเวอร์เพียงชั่วข้ามคืน อีกทั้งด้วยความอร่อยของซอสพริกเผ็ดร้อนสไตล์เอเชียทำให้เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปากไปเรื่อย ๆ ส่งผลให้มีผู้คนจำนวนมาก สนใจและหาซื้อซอสศรีราชาตราไก่เพิ่มขึ้น จนในปี 2009 นิตยสาร Bon Appetite มอบให้ซอสศรีราชาตราไก่ เป็น “ซอสยอดเยี่ยมแห่งปี”
.
อย่างไรก็ตาม การพาซอสศรีราชาไปโด่งดังไกลถึงสหรัฐอเมริกาของ David Tran นั้น แม้จะมีหลายคนมองว่า เป็นการก๊อปและขโมยจากต้นตำรับของไทยไป แต่สำหรับในมุมมองของการทำธุรกิจแล้ว ไม่สามารถเรียกว่าเป็นการก๊อปได้ เนื่องจากทั้งสองแบรนด์ไม่มีความเหมือนกันซะทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ สูตร วัตถุดิบ หรือแพ็กเกจจิง แต่มันคือการที่เขามองเห็นโอกาสและลู่ทางในการต่อยอดทำธุรกิจใหม่ๆ คิดค้นซอสศรีราชาสูตรเฉพาะ โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ตามแหล่งที่อยู่ และนำมาพัฒนารสชาติให้เหมาะกับคนเอเชีย ทั้งยังถูกปากคนต่างชาติที่ปกตินิยมทานแต่ซอสมายองเนส หรือมะเขือเทศ ให้เปิดใจทานซอสพริกที่มีรสชาติเผ็ดมากขึ้น เปลี่ยนจากการไม่เป็นที่รู้จัก ให้กลายเป็นสินค้ายอดนิยม
.
เรียกได้ว่า เขาคือหนึ่งในนักธุรกิจต่างชาติที่พาสินค้าชื่อไทยไปได้ไกลระดับโลกเลยทีเดียว ดังนั้น สำหรับแบรนด์ไทยไม่ว่าจะเป็น ซอสพริกหรือแม้แต่สินค้าอื่นๆ หากต้องการโด่งดังมีชื่อเสียงระดับโลกเช่นเดียวกับซอสพริกศรีราชาตราไก่นั้น ก็ต้องไม่หยุดพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า พยายามมองหาลู่ทางใหม่ๆ ในการต่อยอดธุรกิจ แล้ววันหนึ่งแบรนด์ของคนไทยอาจกลายเป็นสินค้าอันดับต้น ๆ ในใจของผู้บริโภคต่างชาติ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจที่ว่า แบรนด์ไทยสามารถโกอินเตอร์ระดับโลกด้วยฝีมือของคนไทยอย่างแท้จริง
.
ที่มา : https://becommon.co/world/thetasteof-sriracha-battle/
https://en.wikipedia.org/wiki/Sriracha_sauce_(Huy_Fong_Foods)
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#ซอสศรีราชา #ซอสพริกศรีราชาตราไก่ #tuongotsriracha
#DavidTran #Vietnam #SrirachaHotChiliSauce
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...