📌5 คณะอัตราแข่งขันโคตรสูงงงง
รอบ Ad1 ปี 64 ล่าสุด‼
จากมหาลัยดังที่ #dek65 ต้องดู
:
📍สอบเข้ามหาลัย การแข่งขันสูงงงง
เหลือเวลาอีกไม่มาก เริ่มฟิตตอนนี้ยังทัน
🔥กดทดลองเรียนฟรีได้ที่ https://www.opendurian.com/tcasbuffet
同時也有219部Youtube影片,追蹤數超過18萬的網紅lily nawiya,也在其Youtube影片中提到,อาการเสริมที่ลิลลี่กินประจำแล้วดีอยากเอามาบอกต่อจ้า รวบรวมมาเองไม่ทีสปอนน้าคลิปนี้ รายการที่ทานแล้วชอบมีตามนี้เลยย 1.Natrol Biotin Maximum Strength ...
「สอบเข้ามหาลัย」的推薦目錄:
- 關於สอบเข้ามหาลัย 在 OpenDurian TCAS Facebook 的最佳貼文
- 關於สอบเข้ามหาลัย 在 BeamSensei Facebook 的最讚貼文
- 關於สอบเข้ามหาลัย 在 HR - The Next Gen Facebook 的最佳解答
- 關於สอบเข้ามหาลัย 在 lily nawiya Youtube 的最佳解答
- 關於สอบเข้ามหาลัย 在 lily nawiya Youtube 的最讚貼文
- 關於สอบเข้ามหาลัย 在 lily nawiya Youtube 的精選貼文
- 關於สอบเข้ามหาลัย 在 DEK65 ต้องเสียค่าสมัครสอบ TCAS65 เท่าไหร่ กว่าจะได้เรียนมหา'ลัย ... 的評價
สอบเข้ามหาลัย 在 BeamSensei Facebook 的最讚貼文
Beam’s Story เรื่องของบีมและญี่ปุ่น (EP22)🌸⛩
【สอบเข้ามหาลัย เตรียมตัวยังไง เลือกมหาลัยอะไรบ้าง !!!】
ปล.นานแล้วนะ เกิน 10 ปี ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 📚
แต่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับน้องๆและผู้อ่านค่ะ 🏫
บีมเตรียมอ่านหนังสือสอบเข้ามหาลัยตั้งแต่ช่วงปิดเทอมเล็กม.4 แต่ตอนนั้นอ่านแต่ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียวนะ คือมีเวลาว่างก็พยายามอ่านทบทวน ท่องศัพท์ เอาข้อสอบเก่าๆมาทำ ทำทุกปิดเทอมเลย
ก็ยอมรับว่าขยันมากมาย ที่ขยันไปก็ไม่ใช่อะไร
นอกจากภาษาญี่ปุ่นกับคอมพิวเตอร์คือบีมไม่มีอะไรเรียนได้ดีเลยอะ 555
จนประมาณปลายเทอมม.5มั้งถึงเริ่มเรียนพิเศษวิชาที่จำเป็นต้องใช้ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคม
ใจนึงบีมแอบเสียดายนะ กับความรู้(ที่ไม่ค่อยเข้าหัว555)ในสายวิทย์ที่บีมเรียนมา หลายๆคนคิดว่าถ้าบีมเรียนภาษาก็ได้ ไปทางสายวิทย์ก็ได้มันน่าจะต่อยอดออกไปได้หลายอย่าง ได้ทั้งวิชาสายวิทย์ แล้วก็ยังได้ภาษาอีก
ซึ่งบีมก็เคยคิดแบบนั้นแหละ บีมถึงเลือกเรียนสายวิทย์มา แต่พอมาเทียบกับความสุขในอนาคตที่น่าจะไม่มี เพราะทรมานกับการเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบแล้ว
ก็เลยตัดสินใจ "เท" ทุกอย่างไปหมด เป้าหมายอย่างเดียวคือ “ฉันต้องเข้ามหาวิทยาลัยภายได้ภาควิชาเอกภาษาญี่ปุ่นให้ได้”
สมัยรุ่นที่บีมสอบเป็นรุ่นที่เรียกว่า Admission โดยใช้ผลสอบ Anet-Onet +คะแนน Gpax ที่โรงเรียนรวมกัน บอกตรงๆว่าคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องจริงๆ คุยกับใครไม่รู้เรื่องด้วย เพราะรอบตัวเราไม่มีใครเป็นเหมือนเราเลย เพราะเราตัดใจแบบทิ้งทุกสิ่งอย่างแล้วเบนไปสายภาษา 100%
อาจารย์แนะแนวก็ช่วยแนะนำมากไม่ได้ นอกจากบอกว่าให้พยายามเข้านะ เธอน่าจะทำได้แหละ
สุดท้ายก็ช่วยกันดูกับแม่อย่างเดียวว่าเราจะเลือกที่ไหนบ้าง ใช้คะแนนสอบของอะไรบ้าง สรุปก็คือ เอกภาษาญี่ปุ่นที่บีมจะเลือกมี
1.อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
2.ศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์
3.มนุษย์ศาสตร์ เกษตร
4.อักษรศาสตร์ ศิลปากร
สมัยบีมให้เลือกได้ 4 อันดับค่ะ ซึ่งบีมเลือกตามนี้ เรียงลำลับตามนี้เลย วิชาที่ใช้สอบคือ
A-net ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษาญี่ปุ่น
O-net ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคม
บีมถึงได้เทเลขกับวิทย์ได้ด้วยประการฉะนี้ 555
เทนี่คือ เทหมดหน้าตักนะคะ คือไม่แตะ ไม่อ่าน ไม่ทบทวน ไม่อะไรทั้งสิ้น
บีมขอไม่พูดถึงมหาลัยอื่นเพราะบีมจำข้อมูลไม่ได้ 555 จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า บางมหาลัยทุกคนต้องเริ่มเรียนนับ 1 ใหม่หมด บางมหาลัยต้องใช้คะแนนญี่ปุ่นเท่านั้นถึงเข้าได้ สามารถเข้าไปเรียนต่อระดับกลางได้เลย ซึ่งบีมขอยกตัวอย่างธรรมศาสตร์
ธรรมศาสตร์ในตอนนั้นหากจะเข้าเอกญี่ปุ่นรับ 2 แบบ คือ
1. มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ใช้คะแนนญี่ปุ่นยื่น ถ้าติดก็เข้าไปเลย 25 คนของประเทศ
2. ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ใช้คะแนนอื่นที่ไม่ใช่ญี่ปุ่นยื่น ห้ามมีคะแนนญี่ปุ่น เข้าไปเอกรวม ลงเรียนวิชาญี่ปุ่นแล้วไปแข่งกันเข้าเอกทีหลัง
ซึ่งบีมเลือกแบบแรก บีมก็ใช้คะแนนญี่ปุ่นยื่นไปเลย แต่มาคิดย้อนหลังก็ใจกล้ามากนะ ไม่ได้เรียนศิลป์ญี่ปุ่นมาด้วย เรียนพิเศษเป็นงานอดิเรก แต่ประเมินตัวเองจากเพชรยอดมงกุฎที่ผ่านมา ถ้าพยายามมากขึ้นก็น่าจะติดจุฬาได้อยู่
พูดตามตรงว่า คณะที่บีมใฝ่ฝันคืออักษรศาสตร์จุฬา เพราะด้วยความที่เราได้รับอิทธิพลจากสังคมรอบข้าง ใครๆก็พูดว่าจุฬาๆๆๆ บีมต้องเข้าจุฬาให้ได้
แต่บีมไม่ได้คิดว่ามหาลัยอื่นไม่ดีนะ เพียงแต่ไม่มีข้อมูลในหัวเลยตอนนั้น ไม่มีอิมเมจเลยว่ามหาลัยอื่นเป็นยังไง รู้จักแค่อักษรจุฬาจริงๆ บีมอยากจะไปยืนจุดที่บีมคิดว่าบีมน่าจะพอใจถ้าบีมทำได้
จะพูดเรื่องการเตรียมตัวสอบ ทำไมมันยาวขนาดนี้ได้ 555
บีมค่อนข้างเป็นเด็กที่มีระเบียบกับชีวิต นอกจากการเขียนบันทึกแล้วบีมจะตั้งเวลาและตารางไว้เลยว่าวันนี้บีมจะทำอะไรบ้าง ต้องเสร็จกี่โมง และบีมจะภูมิใจมากถ้าวันนั้นการใช้ชีวิตของบีมเป็นไปตามตารางที่บีมตั้งไว้ ซึ่งทุกวันนี้บีมก็ยังมีนิสัยอย่างนั้นอยู่นะ 555 มันถึงทำเพจมาได้นานขนาดนี้อะทุกคนนน
ตั้งแต่เด็กๆพ่อแม่ไม่เคยบังคับให้บีมอ่านหนังสือเลย บีมจะอ่านเอง คือเป็นคนไม่เครียดเรื่องอะไรในชีวิตเลย ยกเว้นอย่างเดียวคือเรื่องเรียน เกรดบีมจะตกกว่า 3.8 ไม่ได้ เคยแค่เทอมเดียว ได้ 3.76 บีมร้องไห้ไม่หยุดเลย 555555 บ้าบออออออออออออออ
คือเราก็มีเป้าหมายของเราอะเนอะ เราเป็นคนที่มีนิสัยตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้สูงมากตั้งแต่ตอนเด็กๆ เป้าหมายสูงๆเพื่อทำให้ตัวเราพยายามก้าวไปให้ถึง แต่พอร่วงนี่เจ็บปวดรวดร้าวมากจ้า
ที่บ้านไม่เคยพูดว่าถ้าแกสอบไม่ได้เกิน 3.8 จะไม่ได้ค่าขนมไรงี้ ไม่มีเลย เป็นคนที่กดดันตัวเองเอง ทำตัวเองล้วนๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ดังนั้นตอนปลายๆม.5 บีมก็เริ่มจริงจังละ บีมตั้งไว้เลยว่าวันนี้บีมจะอ่านทบทวนวิชาอะไร กี่โมงถึงกี่โมง ต้องนอนกี่โมงตื่นกี่โมง
บีมวางหนังสือเรียงไว้เลย ทำตารางไว้เลยของทั้งปี คนส่วนมากทำตารางเป็นวันเป็นสัปดาห์เนอะ ของบีมคือ มีเขียนไว้ตั้งแต่ วัน สัปดาห์ เดือน ปี บ้าไปแล้ว
วางหนังสือเรียงไว้เต็มห้อง
อันนี้สำหรับอ่านวันนี้ อันนี้พรุ่งนี้ แยกชัดเจน แบ่งเวลาชัดเจน เทคนิคของบีมคือ
1. ใช้เวลาครึ่งปีอ่านทบทวนทั้งวิชาที่จะใช้ทั้งหมดก่อน ให้มีข้อมูลวนไปวนมาให้อยู่ในหัว
2. ไปอ่านที่ไหนมาไม่รู้ว่าไม่ควรอ่านหนังสือดึกๆ ควรอ่านเช้าๆเพราะจะจำได้ดี บีมทำขนาดที่ว่าบีมนอนสอง-สามทุ่ม แล้ว ตื่นตี3 ตี4 ทุกวันเพื่ออ่านหนังสือ 555 แล้วพอตี 5 ก็แต่งตัวไปโรงเรียน บังคับให้พ่อซื้อแบรนด์ซื้อวีต้ามากินด้วย ทำแบบนี้อยู่หลายเดือนเลยนะ
จริงๆบีมว่าอาหารเสริมไม่น่าช่วยอะไรหรอกมั้ง แต่ช่วยทางจิตใจได้มากเลย 55555555
3. หลังจากอ่านทบทวนทุกอย่างเสร็จ ก็เริ่มทำข้อสอบเก่าย้อนหลัง 10 ปี ของทุกวิชาที่ต้องใช้
4. การทำข้อสอบของบีมบีมไม่ได้ทำในหนังสือเลย บีมซื้อกระดาษคำตอบมาแบบที่ใช้สอบที่โรงเรียน อิใบเขียวๆอะ 555
แล้วเขียนชื่อวิชา เขียนปีของข้อสอบ แล้วกาในกระดาษคำตอบเลย (บีมยังเก็บซากไว้อยู่นะ)
5. ข้อสอบฉบับเดียวไม่ได้ทำครั้งเดียว เพื่อไม่ให้เบื่อ บีมทำสลับไป สามวิชา อังกฤษไทยสังคม ย้อนหลังประมาณ 10 ปี ข้อไหนผิดเราก็ไปอ่านเฉลยดูว่าผิดได้ยังไง จำที่เราผิดพลาด แล้ววนทำใหม่อีกนะ
สุ่มเอาว่าจะได้ทำฉบับไหน
6. ภาษาญี่ปุ่นก็เช่นกัน บีมท่องศัพท์ในหนังสือได้ทุกคำ เพราะบีมคิดว่าเรียนมาแล้วมันไม่ควรลืม โอ๊ย 555
แล้วบีมเรียนด้วยหนังสือ Minna no Nihongo นะตอนนั้น ซึ่งเด็กที่เรียนศิลป์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่เรียนด้วย Akiko to Tomodachi
ด้วยความที่บีมคิดว่าบีมอาจจะสู้เด็กศิลป์ญี่ปุ่นไม่ได้ เพราะหนังสือแบบเรียนสองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน บีมไปหาซื้อ Akiko to Tomodachi มาหมด 6 เล่มเลย แล้วอ่านตั้งแต่แรกยันจบ ลิสต์คำศัพท์และรูปไวยากรณ์ที่ไม่มีในหนังสืออีกเล่มที่บีมใช้เรียน
7. ในส่วนของข้อสอบชุดนึงบีมทำหลายรอบเหมือนกัน ทำวนไปโดยการสุ่ม จะได้จำไม่ได้ว่าทำไปแล้วหรือยังไม่ได้ทำ พยายามดูว่าเราผิดตรงไหน ต้องหาคำตอบให้ได้ บีมตั้งเป้าไว้ว่าบีมต้องทำคะแนนภาษาญี่ปุ่นให้ได้เกิน 90 เต็ม 100 ทุกฉบับย้อนหลัง (ตอนทำก็ได้บ้างไม่ได้บ้างนะ แต่ไม่เคยได้ 100 เต็ม ฮ่าๆๆ)
8. สามเดือนหลังบีมก็เลิกอ่านหนังสือแล้ว ทำข้อสอบเก่าๆอย่างเดียว อันไหนไม่เข้าใจค่อยไปเปิดอ่านทบทวน ซึ่งชีวิตม.6 บีมก็วนอยู่แค่นี้แหละ จนถึงวันสอบ
------------------------
เป็นไงสาวอึดมั้ย
ยอมรับว่าเป็นคนมีวินัยในตัวเองมากจริงๆ
ใครมาชมก็คือจะไม่ถ่อมตัวเลย เพราะเรารู้ว่าตัวเองมีนิสัยแบบนั้น
ก็ภูมิใจว่าความมีวินัยของเราคือสิ่งที่ทำให้เรามีวันนี้นะ ควรภาคภูมิมากกว่าถ่อมตัว 555555555555555555
อยากรู้แล้วใช่มั้ยวันสอบเป็นยังไง
น้ำตาแตกหลายรอบเลยจ้า
รออ่านตอนต่อไปนะ
*ตอนเก่าๆไถหาเอานะ*
BeamSensei
สอบเข้ามหาลัย 在 HR - The Next Gen Facebook 的最佳解答
วันนี้วันเด็ก รูปเด็กนี่เต็ม feed FB เลย
"เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต" คำขวัญวันเด็กประจำปี 2559 ครับ
ผมนี่อยากจะเปลี่ยนจาก "สู่" เป็น "สู้" อนาคต ซะจริง ๆ เพราะดูแววแล้วอนาคตเด็ก ๆ รุ่นนี้น่าจะต้องสู้ ต้องแข่งกับอะไรต่ออะไรเยอะแยะเลย ทั้งแข่งกับตัวเอง ทั้งสู้กับคู่แข่ง
ไม่เหนือยแทนเด็กนะ เพราะตอนนี้พวกเพ่ก็โคตรเหนือยเลย 555
กว่าจะเรียนจบ ประถม มัธยม เรียนพิเศษ สอบเข้ามหาลัย (สมัยนี้เค้าเรียกอะไรกันละนะ สมัยผมนี่ยังเรียก Entrance แต่เป็นรุ่นที่สอบก่อน รู้คะแนนแล้วค่อยยืนคณะ ดูผลทาง Internet นะ ยังไม่ถึงขั้นรอฟังผลจากลุงวิทวัสทางทีวี)
เรียนจบจบมหาลัย ก็ต้องออกมาหางานทำ ได้งานทำแล้วก็ต้องมาปวดหัวกับงาน ปวดหัวกับระบบบริษัท หัวหน้าห่วย ลูกน้องกวน_ีน ย้ายจากบริษัทนี้ ไปบริษัทนั้น เก็บตังซื้อบ้าน ซื้อรถ เก็บตังไปเที่ยว เก็บตังแต่งงาน เก็บตังไว้ใช้ตอนแก่ .....
โอ้ย เหนื่อย
ในอนาคตความสะดวกสบายก็คงจะมีให้กับเด็ก ๆ มากขึ้นแน่ ๆ ล่ะครับ แต่คงไม่มีใครตอบได้ว่า ไอ้ปัญหาที่เราเจอ ๆ กันอยู่เนี่ย มันจะหายไปมั้ย ลูก ๆ เด็ก ๆ ของเราโตมาละยังจะต้องเจอปัญหาปวดหัวแบบที่เราเจออยู่ทุกวันนี้อยู่รึเปล่า หรือไอ่ปัญหาเหล่านี้มันเป็นเรือง classic ที่มีมาตั้งแต่โลกที่แล้ว
ถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะมาปวดหัวกับเรืองพวกนี้ทำไม (วะ) 555555
งานนี้ผมขอเป็นหมอดูนะ อนาคตเทคโนโลยีเปลี่ยน คนเปลี่ยน สภาพสังคมเปลี่ยน ค่านิยมเปลี่ยน การบริหารงานการบริหารคนก็ต้องเปลี่ยนตามครับ อนาคตอาจจะไม่ต้องเข้าออฟฟิศ work at home เป็นเรืองปกติ อาจจะไม่มีการจ้างงานแบบพนักงานประจำอีกต่อไป ทุกคนเป็น Freelance กันหมด สัปดาห์นึงทำงานแค่ 3 วัน อีก 2 วันพักผ่อน อีก 2 วันออกไปช่วยสังคม .... ดูหล่อมะ 5555
ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าสังคมเราจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน แล้วจะส่งผลไปถึงการทำงานเราในแบบไหนได้บ้าง
วันนี้เด็ก ๆ มีคำขวัญกันแล้ว ผมก็มีคำขวัญมาฝากวัยทำงานกันด้วย
" คิด วิเคราะห์ แยกแยะ" ใช้ให้เป็น ใช้ให้บ่อย ชีวิตดีแน่นอนครับ
#เป็นผู้ใหญ่มันเหนื่อย #ถ้าไม่ติดว่าหน้าแก่ก็อยากจะเนียนไปเที่ยววันเด็กอยู่ #ตั้งใจเรียนกันนะครับเด็กๆ
#HRTheNextGen
สอบเข้ามหาลัย 在 lily nawiya Youtube 的最佳解答
อาการเสริมที่ลิลลี่กินประจำแล้วดีอยากเอามาบอกต่อจ้า รวบรวมมาเองไม่ทีสปอนน้าคลิปนี้
รายการที่ทานแล้วชอบมีตามนี้เลยย
1.Natrol Biotin Maximum Strength
Beauty, 10,000 mcg, Tablets, 100ct
(ผม,ผิว,เล็บ)
2.Amary high fiber
(ดีท็อกซ์)
3.Chame Collagen Tripeptide Plus Berry Lutein10 Sachet
(ตา,ผิว)
4.DDC Activ C
(ผิว,น้ำหนัก,ภูมิแพ้)
5. magenta 26
(สมดุลฮอร์โมน,ภายใน,ผิว,ภูมิแพ้)
6.DHC-Supplement vitamin C
(เสริมวิตามินซีผิว,เลือดออกตามไรฟัน)
FOLLOW ME
INSTAGRAM: https://www.instagram.com/lilynawiya/
BLOG: https://www.lilynawiya.wordpress.com/
FACEBOOK: https://www.facebook.com/dearmymelady/
TWITTER: https://www.twitter.com/lilynawiya/
ติดต่องานได้ที่: [email protected]
สอบเข้ามหาลัย 在 lily nawiya Youtube 的最讚貼文
มาแล้วจ้าลุคลูกคุณหนูหวานๆจากอิตาลีมีใครให้หวานกว่านี้มั้ยค้า ที่สำคัญเครื่องสำอางลุคนี้ราคาไม่แพงอย่างที่คิด หลังจากที่ KIKO Milano เค้าแลนด์ดิ้งเข้าไทยเราก็ไมาต้องพรีออเดอร์ไกลถึงอิตาลี! สามารถตามลิลลี่ไปช้อปกันได้ที่ Lazada เลยจ้า
https://s.lazada.co.th/s.3Td2L
KIKO Milano multi finish eyeshadow palette no 02 tawny twinkle (899.-)
KIKO Milano instamoisture foundation (749.-)
KIKO Milano invisible touch face fixing powder (699.-)
KIKO Milano smart essential face palette (999.-)
KIKO Milano unlimited double touch no 103 natural rose & no 108 Satin Currant Red (449.-)
ตอนนี้โปรโมชั่น KIKO Milano x LAZADA 6.6 Mega Mid Year Sale 6 มิถุนายน 2564 - 8 มิถุนายน 2564 นี้เท่านั้น
-ลดยกช็อป 10% + คูปองส่วนลดสูงสุด 250.-
-200 ออเดอร์แรก รับฟรี Velvet Passion Matte Lipstick 316 มูลค่า 399.-
-ช้อปครบ 1,000.-** รับฟรี Pure Clean Micellar Water Normal to Combination มูลค่า 349.-
- ช้อปครบ 1,500.-** รับฟรี Powder Power Lipstick 012 Fire Brick มูลค่า 399.-
พลาดไม่ได้แล้วไปช้อปกันค่ะทุกคน
#KIKOMilano
#KIKOMilanothailand
#KIKOCitizen
#IntotheNewWorldofItalianBeauty
FOLLOW ME
INSTAGRAM: https://www.instagram.com/lilynawiya/
BLOG: https://www.lilynawiya.wordpress.com/
FACEBOOK: https://www.facebook.com/dearmymelady/
TWITTER: https://www.twitter.com/lilynawiya/
ติดต่องานได้ที่: [email protected]
Sponsored by KIKO Milano
สอบเข้ามหาลัย 在 lily nawiya Youtube 的精選貼文
FOLLOW ME
INSTAGRAM: https://www.instagram.com/lilynawiya/
BLOG: https://www.lilynawiya.wordpress.com/
FACEBOOK: https://www.facebook.com/dearmymelady/
TWITTER: https://www.twitter.com/lilynawiya/
ติดต่องานได้ที่: [email protected]
สอบเข้ามหาลัย 在 DEK65 ต้องเสียค่าสมัครสอบ TCAS65 เท่าไหร่ กว่าจะได้เรียนมหา'ลัย ... 的推薦與評價
- ค่าสมัครเพื่อเลือกอันดับ 150 บาท - อันดับ 1-4 อันดับละ 50 บาท (หากเลือก 4 อันดับ จะอยู่ที่ 300 บาท) - อันดับ 5-10 อันดับละ 100 บาท (เลือก 10 อันดับ จะอยู่ที่ ... ... <看更多>