"ผักกาดดูดน้ำแดง เหมือนดูดยาฆ่าแมลง ทำให้คนไทยเป็นมะเร็งมากที่สุดในเอเชีย" .. ไม่จริงนะครับ !
ภาพสมัยที่มีการรณรงค์ต่อต้านยาฆ่าหญ้าพาราควอต (แต่เอาเรื่องยาฆ่าแมลงมาอ้าง) ภาพนี้ กลับมาแชร์กันใหม่อีกแล้วครับ โดยบอกว่า "ผักกาดขาวดูดน้ำแดงจนเป็นผักกาดแดง ถ้าดูดยาฆ่าแมลง จะเป็นผักกาดสวยๆ คนไทยชอบกิน จนเป็นมะเร็งกันมากที่สุดในเอเชีย" ... เป็นเช่นนั้นจริงหรือ !?
คำตอบคือ "ไม่จริงนะครับ" ! การทดลองแบบนี้มันทำให้เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช หวาดกลัวจนเกินเหตุ และคนไทยก็ไม่ได้เป็นมะเร็งมากที่สุดในเอเชียด้วย
คืออย่างแรก การทดลองให้ผักกาดดูดน้ำสีเข้าไปนี่ เป็นการทดลองวิทยาศาสตร์ง่ายๆ แบบเด็กประถม ที่โดยธรรมชาติแล้ว พืชผักหลายชนิดสามารถดูดซึมน้ำเข้าไปผ่านระบบท่อลำเลียงน้ำ โดยที่แม้ว่าใบผักที่ถูกตัดออกมาจากต้นแล้ว (อย่างเช่น ผักกาดขาวนี้) ก็สามารถดูดซึมน้ำสีขึ้นไปได้เอง ผ่านแรงดันคาปิลารี (capillary) ที่เกิดขึ้นในท่อลำเลียงน้ำ ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อที่เล็กมาก
แต่การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ตั้งแต่ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า หรือยาฆ่าเชื้อโรคเชื้อราต่างๆ นั้น เราจะตีขลุมว่ามีการดูดซึมเข้าไปโดยตรง เหมือนอย่างการทดลองผักกาดแดงนี้ไม่ได้ เพราะสารแต่ละชนิดก็มีลักษณะการใช้งานที่ต่างกันไป เช่น แม้ว่ายาฆ่าแมลงบางชนิดจะเป็นแบบดูดซึมเข้าไปในต้นจริง แต่ต้องดูดซึมผ่านทางรากเท่านั้น ไม่ใช่จากผิวใบ ... ขณะที่ยาฆ่าแมลงอีกหลายชนิดก็เป็นสารที่เคลือบอยู่บนใบพืชต้นพืช แล้วแมลงต้องมากินถึงจะตาย ไม่ใช่การดูดซึมเข้าไป
หรือ ยาฆ่าหญ้าหลายชนิด เช่น พาราควอต ก็เป็นแบบฉีดพ่นลงไปบนใบของวัชพืชแล้วไหม้ตายไปเลย และนั่นก็คือความจริงที่ว่า เราไม่ควรจะต้องหวาดกลัวว่ายาฆ่าหญ้าพวกนี้จะหลงเหลือตกค้างมาในพืชผักให้เรากินกัน เพราะถ้าฉีดโดนพืชผักนั้น พืชผักจะไหม้ตาย เกษตรกรไม่นิยมใช้ฉีดในระยะที่ผลผลิตออกมาแล้ว แต่จะใช้ยาพวกนี้ในระยะเตรียมการปลูก
ดังนั้น สิ่งที่เกษตรกรไทยควรจะต้องทำ คือทำตามมาตรฐาน "การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices) หรือ GAP" ที่ควรจะต้องเพาะปลูกพืชสวนพืชไร่ โดยปฏิบัติตามวิธีการใช้สารเคมีทางการเกษตรอย่างถูกวิธี เช่น ถ้าเลือกใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชชนิดที่ดูดซึมเข้าสู่ต้น เกษตรกรก็จะต้องฉีดพ่น แล้วทิ้งระยะให้เหมาะสม ก่อนจะเก็บเกี่ยวมาจำหน่าย (เช่น 7 วัน หรือ 14 วัน ก่อนเก็บเกี่ยว) เพื่อให้มีเวลาเพียงพอที่สารเคมีนั้นจะสลายไปตามธรรมชาติ ไม่เหลือตกค้างมาสู่ผู้บริโภค
ส่วนผู้บริโภคเอง ก็ควรเลือกซื้อสินค้าทางการเกษตรจากแหล่งผลิตที่ได้รับมาตรฐานการเพาะปลูก GAP โดยถ้ายังกังวลว่าจะมีสารเคมีตกค้างอยู่บนผิวของพืชผัก ก็สามารถลดปริมาณที่ตกค้างลงได้ ด้วยการล้างน้ำสะอาด หรือใช้สารอื่นๆ ช่วยล้าง เช่น เกลือ น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา ด่างทับทิม
รวมไปถึงการซื้อหาพืชผักปลอดสารหรือผักอินทรีย์ ที่ราคาแพงขึ้น ไม่ว่าจะผักปลอดสารหรือผักอินทรีย์ ... "ผักปลอดสาร" นั้นจะเพาะปลูกด้วยสารเคมี เช่น ปุ๋ยเคมีหรือยาปราบศัตรูพืช ได้แต่ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และเว้นช่วงการเก็บเกี่ยวให้ถูกต้อง ... ส่วน "ผักอินทรีย์" จะไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ แต่จะใช้ปุ๋ยคอกหรือสารสกัดสมุนไพรไล่แมลงแทน ซึ่งก็ต้องทำให้ได้มาตรฐานเช่นกัน ไม่ให้มีปัญหาเชื้อจุลินทรีย์หรือสารพิษธรรมชาติตกค้างปนเปื้อน
ส่วนเรื่องที่บอกว่า "คนไทยเป็นมะเร็งอันดับหนึ่งของเอเชีย" นั้น เป็นเรื่องเท็จอย่างชัดเจนครับ !! แล้ว จริงๆ แล้ว อัตราการเป็นมะเร็งของคนไทยนั้น ในเพศชายจะอยู่ประมาณอันดับ 5 ในภูมิภาคอาเซียน (รองจากสิงคโปร์ เวียตนาม ลาว กัมพูชา) ส่วนเพศหญิง จะอยู่ประมาณอันดับที่ 8 ในอาเซียน ขณะที่ประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชียนั้น 5 อันดับแรกที่เป็นมะเร็งกัน ได้แก่ ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น มองโกเลีย จีน ตามลำดับ ไม่มีประเทศไทยครับ (อ้างอิง http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/index.php/2019/12/27/us4115pd7523zb/)
สรุปคือ อย่าตื่นกลัวมากเกินไปกับภาพที่แชร์กันนั้น เพราะมันตั้งใจให้น่ากลัวเกินจริง ! เราไม่จำเป็นถึงขนาดต้องเลือกใช้สารเคมีทางการเกษตร ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้กับศัตรูพืช แต่ควรจะส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะปลูกพืชให้ได้มาตรฐานทางการเกษตร ให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคครับ
ปล. ผมเคยไปให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ ไว้ในรายการ "รู้เท่ารู้ทัน" สถานีโทรทัศน์ ThaiPBS ตอน ผักดูดสารเคมี เมื่อสองปีก่อน (24 ต.ค. 61) ลองเปิดดูได้นะครับ ที่ https://youtu.be/6QCb_PnSwgU?t=77
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過157萬的網紅Carabao Official,也在其Youtube影片中提到,“เอาไงดีครับพี่ตู่” บทเพลงสะท้อนปัญหา อันเกิดมาจากภาครัฐที่ไม่ยอมยกเลิกการใช้สารพิษอันตราย โดย แอ๊ด คาราบาว หรือ ยืนยง โอภากุล ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ตั...
「พาราควอต」的推薦目錄:
- 關於พาราควอต 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
- 關於พาราควอต 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳貼文
- 關於พาราควอต 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
- 關於พาราควอต 在 Carabao Official Youtube 的最佳貼文
- 關於พาราควอต 在 PAKORN BUAYAM Youtube 的精選貼文
- 關於พาราควอต 在 #พาราควอตอันตร... - กลุ่มงานวิจัยการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ... 的評價
พาราควอต 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳貼文
คือเมื่อประกาศแบน "พาราควอต" ไปแล้ว ก็แปลว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากจะห้ามซื้อห้ามขาย ห้ามเก็บห้ามครอบครองพาราควอตแล้ว ในอาหารทั้งหมดไม่ว่าจะในประเทศหรือนำเข้า ก็ต้องไม่มีพาราควอตอยู่เลยแม้แต่น้อย (0%)
ปัญหาคือ สินค้าการเกษตร อย่างถั่วเหลืองและข้าวสาลี ที่จริงๆ แล้วเรานำเข้าจะต่างประเทศมหาศาลในแต่ละปีนั้น ก็มาจากประเทศที่ยังอนุญาตให้ใช้พาราควอตอยู่ อย่างอเมริกา บราซิล ออสเตรเลีย ฯลฯ ก็ต้องห้ามนำเข้าด้วย ตั้งแต่วันนี้เช่นกัน เพราะอาจจะมีพาราควอตปนมา แม้เพียงเศษเสี้ยวมิลลิกรัมก็ตาม
ประเด็นคือ ดันมีการเสนอให้ "ยกเว้นได้" สำหรับสินค้านำเข้า แค่ห้ามเฉพาะที่ปลูกในประเทศเท่านั้น อ้าววว !! แล้วไหนชอบอ้างเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคกันไง ทำไมจะปล่อยให้กินพาราควอตจากอาหารนำเข้าได้ล่ะ
เรื่องนี้ ก็เหมือนกับเรื่อง GMO เลย ห้ามเกษตรกรไทยปลูก แต่นำเข้ามาให้คนไทยกินกันเป็นสิบๆ ปีแล้ว
---------------
(รายงานข่าว) นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “การตรวจสอบปริมาณสารตกค้างในพืชผักของประเทศไทยหลายครั้ง ไม่พบการปนเปื้อนของสารพาราควอตเกินมาตรฐาน ส่วนใหญ่พบสารตกค้างในกลุ่มยาฆ่าแมลง แต่กลับถูกเหมารวมว่าเป็น สารพาราควอต แล้วนำมาเป็นข้ออ้างในการแบน เพราะห่วงสุขภาพ
แต่หลังจากได้มีมติแบนพาราควอต พบว่าสร้างปัญหาให้ผู้นำเข้าวัตถุดิบถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง ข้าวสาลี เช่นเดียวกับสารไกลโฟเซต ที่สั่งให้เลิกแบนมาเป็นจำกัดการใช้ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมวางแผนและอาจมีการปรับค่าสารพิษตกค้างสูงสุด (MRL) เพื่อให้สามารถนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากต่างประเทศที่มีสารพิษตกค้างเกินกำหนดมาตรฐานเดิมมาจำหน่ายให้ผู้บริโภคในประเทศไทยได้ โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคอย่างแท้จริง แต่เอื้อประโยชน์ต่อใคร เป็นการปฎิบัติแบบสองมาตรฐาน ไม่มีความยุติธรรม
เพราะในเมื่อบอกว่าพาราควอตนั้นอันตรายร้ายแรง แต่กลับแก้กฎหมายเพื่อรองรับสิ่งที่ผิดนำเข้าสารพิษตกค้างเพิ่มจากต่างประเทศ และออกกฎหมายทำให้สิ่งที่ถูก อย่างสินค้าเกษตรภายในประเทศ กลายเป็นสิ่งผิดถ้าใช้พาราควอต แบบนี้ถ้าแบนไกลโฟเซตไปด้วย แล้วมาปรับค่าสารพิษตกค้างสูงสุดก็น่าจะทำได้เช่นกัน”
“ที่เราพูดไม่ได้ต้องการประชดใครทั้งนั้น แต่ต้องการให้ทุกหน่วยงานหูตาสว่างกับคำพูดสวยหรูห่วงใยสุขภาพประชาชน เพราะมันไม่จริง และเกษตรกรทั้งประเทศจะรอดูว่า วันนี้ วันที่ 1 มิถุนายน ภาครัฐจะสั่งห้ามนำเข้าวัตถุดิบเหล่านั้นที่มีการใช้สารพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอสมาจากต่างประเทศต้นทางหรือไม่ เพราะถ้าไม่ทำ เท่ากับท่านละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากทั้งสารพาราควอต และคลอร์ไพรีฟอส จะกลายเป็นสิ่งต้องห้ามแล้วหลังวันที่ 1 มิถุนายน 2563
พาราควอต 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
(รายงานข่าว) เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป สารเคมี “พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส” ประกาศเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 จะทำให้ใบทะเบียน ใบอนุญาตผลิต และใบอนุญาตครอบครอง ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จะสิ้นสุด
ในส่วนของเกษตรกรจะต้องส่งคืนร้านค้าภายใน 90 วัน ขณะที่ร้านค้า จะต้องส่งคืนผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าและและแจ้งปริมาณเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภายใน 120 วัน และผู้ผลิตและผู้นำเข้า แจ้งปริมาณต่อพนักงานเจ้าเหน้าที่สำนักควบคุมพืชและวัสดุการ เกษตร ภายใน 270 วัน
หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (กราฟิกประกอบ) นำมาซึ่งผลกระทบภาคส่วนที่มีส่วนได้-เสีย
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบจากการแบนดังกล่าว ทั้งนี้ทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.). ได้มีการประชุมร่วมกับรัฐบาล รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทุกวัน ว่าจะหาทางออกกันอย่างไรเพื่อลดผลกระทบทั้งเกษตรกร ผู้นำเข้าวัตถุดิบทางการเกษตร คาดสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป
ขณะที่นางสาวเพชรรัตน์ เอกแสงกุล ประธานกิตติมศักดิ์/กรรมการคณะกรรมการกลุ่มอุตสาหกรรมเคมี กล่าวว่า สาเหตุที่อยากให้ขยายเวลาออกไปเนื่องจากมาตรการต่างๆ ยังไม่พร้อมตั้งแต่ขยายระยะเวลาการแบนครั้งแรกเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว และไม่มีความคืบหน้าว่าจะมีการเตรียมการอย่างไรหลังจากแบนแล้ว และมาตรการที่จะต้องปฏิบัติก็ล้วนแล้วแต่เป็นภาระของเอกชนและเกษตรกร เช่น ให้เกษตรกรนำสารเคมีที่เหลือไปคืนร้านค้า ถึงคืนไปร้านค้ารับสินค้า แต่ไม่จ่ายเงินให้เกษตรกร และธรรมชาติหากเกษตรกรมีสารเคมีเหลือก็คงไม่คืนร้านค้า
ดังนั้นเวลาออกมาตรการอะไรควรนึกถึงข้อเท็จจริง นอกจากนี้จะให้เอกชนทำลายสารภายในเวลาที่กำหนดซึ่งทั้งประเทศมีที่กำจัดสารแค่แห่งเดียวมีกำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปี แต่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 1 ล้านลิตร “การออกมาตรการไม่ได้ดูข้อเท็จจริงเลย จะทำให้กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ และจะทำให้มีการลักลอบใช้สารเคมีกันต่อ เพราะสารทดแทนยังไม่มี” ในขณะที่อ้างว่ามีสารที่ใช้ทดแทนก็ไม่มีการพิสูจน์ว่าใช้ได้อย่างไร ที่เป็นห่วงกังวลมากที่สุดในขณะนี้คือเกษตรกร ที่ยังไม่มีทางออกว่าจะใช้สารอะไรทดแทนได้ในต้นทุนที่ไม่สูงไปจากเดิม
ขณะที่มีหลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องจะได้รับผลกระทบไม่ว่าอาหาร บะหมี่ ถั่วเหลือง อาหารสัตว์ ล่าสุดรวมถึงหัตถกรรมด้วย เพราะการนำเข้าวัตถุดิบ เช่น กากถั่วเหลือง แป้งสาลี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สารตกค้างต้องเป็นศูนย์ซึ่งแค่สารตกค้าง 0.001 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม(PPM) ก็ลำบากแล้ว
“ประเมินหากไม่มีผลกระทบตรงนี้ หลังโควิด-19 คลี่คลายไทยจะกลับมาผงาดได้ใน 1 ปีครึ่ง แต่พอมีปัญหาตรงนี้ บอกเลยว่ายากมากที่จะกลับมาได้เร็วกว่านี้ เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะมีทางออกอย่างไรก่อนกฎหมายบังคับใช้ ที่สำคัญจะไปเจรจากับประเทศคู่ค้าอย่างไรใน WTO ในเมื่อสารที่เราแบนทั่วโลกเขายังใช้กัน”
ดร.จรรยา มณีโชติ นายกสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย เผยว่า มีบริษัทเดียวในประเทศไทยที่สามารถทำลาย 2 สารได้ ซึ่งกรมวิชาการเกษตร ได้เคยว่าจ้างในปี 2561 ให้ บมจ.อัคคีปราการเผาทำลายวัตถุอันตรายที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ในราคา 1 แสนบาทต่อตัน ซึ่งการทำลายวัตถุอันตรายจะต้องทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ มีความปลอดภัยต่อมนุษย์ สัตว์ และไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม
หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3579 วันที่ 31 พฤษภาคม - 3 มิถุนายน 2563
พาราควอต 在 Carabao Official Youtube 的最佳貼文
“เอาไงดีครับพี่ตู่” บทเพลงสะท้อนปัญหา อันเกิดมาจากภาครัฐที่ไม่ยอมยกเลิกการใช้สารพิษอันตราย โดย แอ๊ด คาราบาว หรือ ยืนยง โอภากุล ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ตั้งคำถามตรงๆ ต่อผู้นำประเทศที่เปรียบเสมือนพี่ชายของตนให้หันมาแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพื่อยุติการเทสารพิษลงบนผืนแผ่นดินไทย หยุดอันตรายจากการปนเปื้อนสารพิษในอาหารที่คนไทยรับประทาน และหันมาเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาพให้กับครอบครัวคนไทยของพวกเราร่วมกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
Producer: แอ๊ด คาราบาว
Lead Vocal & Harmonica: แอ๊ด คาราบาว
Chorus: ภูวกฤต นนท์ธนธาดา
Composer Programmer: ภูวกฤต นนท์ธนธาดา
Acoustic Guitar: แอ๊ด คาราบาว
Drobo Guitar: ขจรศักดิ์ หุตะวัฒนะ
Mixed: ภูวกฤต นนท์ธนธาดา
Mastered: Woody Pornpitaksuk @Westside Mastering
【 เนื้อเพลง 】
* คนไทยกำลังตายผ่อนส่ง
เพราะภาครัฐยังปักธงให้ใช้สารพิษอันตราย
พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเซต
ต่างประเทศเขาเลิกใช้
แต่เมืองไทยกลับยิ่งใช้
เพิ่งจะรู้ว่ากินผักผลไม้ ยิ่งกินก็ยิ่งตาย
เอาไงดีครับ พี่ตู่
ตอนที่ฉันยังเด็ก เคยซุกซนไปช้อนปลากัดในท้องนา
แต่ตอนนี้ไม่มีปลา กบเขียดตายสิ้นแผ่นดินทอง
มองแล้วใจมันเศร้า ทั้งๆ ที่เรารับรู้ปัญหา
เพราะยาฆ่าแมลงฆ่าหญ้า คือราคาที่คนไทยต้องจ่ายแพง
จ่ายมันด้วยชีวิตตาดำๆ
(ซ้ำ * )
รัฐบาลประชาชน ต้องทำเพื่อคนที่เลือกท่านเข้ามา
ปกป้องสองสิ่งอันมีค่า คือศรัทธาและชีวิตของคนไทย
สารพิษคือตัวปัญหา ก็แค่มาร้องขอความปลอดภัย
เพราะชอบกินผักผลไม้ แต่ไม่อยากตายก่อนวัยเท่านั้นเอง
ไม่อยากตายเพราะโรคร้าย โรคมะเร็ง
(ซ้ำ * / * )
เอาไงดีครับพี่ตู่
เอาไงดีละพี่ตู่
【 ขอขอบคุณภาพจาก 】
Thairath Online
สํานักข่าวไทย TNAMCOT
matichon tv
PPTV HD 36
TNN ช่อง16
Thai PBS News
#เอาไงดีครับพี่ตู่ #แอ๊ด #คาราบาว #Carabao
【 ช่องทางติดตามข่าวสาร วงคาราบาว 】
#Line ► @CarabaoOfficial หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40carabaoofficial
#Facebook ► http://www.facebook.com/carabaoofficial/
Apple Music & iTunes :
Carabao Essentials Playlist ► https://music.apple.com/th/playlist/carabao-essentials/pl.f9b46f601f53442385224df14d9ca9ef
Carabao Artist Profile ► https://music.apple.com/th/artist/carabao/250982691
พาราควอต 在 #พาราควอตอันตร... - กลุ่มงานวิจัยการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ... 的推薦與評價
พาราควอต อันตรายจริงหรือ❓❓❓ #หรือเป็นแค่แพะของสารเคมีทางการเกษตร❓❓❓ จากเมื่อวานที่มีคนแชร์เรื่องผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยสารพาราควอตนะครับ... ... <看更多>