疑難雜症萬事通
在網路上遇到任何問題都可以在這邊找找看唷

Search

cold wave的相關標籤

相關貼文 相關照片 相關影片
การเดินทางของ100kของแม่ จุดเริ่มต้นจริงๆอยู่ที่เขาประทับช้างเทรลcamp เดือนพค ปี 2016 ที่หมอเมย์ครูเปิ้ลไปเป็นครูแคมป์ ในช่วงของวันจะมีคลาสของครูต่างๆ ในส่วนการบรรยายของครูพี่ป๊อกนั้นนนนนน ชวนคนไปวิ่งโดยการสร้าง inspired power ตอนนั้นแม่ไปในนามประหยัดเป็นครูพี่เลี้ยง หมอชวนแม่ลงวิ่งแค่10โล บรรยากาศคลาสช่างเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และแม่ของเราก็เป็นแนวนักรบขุนพลอยู่แล้ว..สู้ยิบตาไม่ตายไม่เลิกทำนองนั้น "ใครจะไประยะมาราธอนยกมือขึ้นนนนน" ในใจคิด..พี่ป๊อกเริ่มแล้ว 🙄🙄 พรึ่บบบบบ!! คนราวๆ 20กว่าคนยกมือ (แคมป์นี้ระยะมากสุดคือ32) ในนั้นมีแม่ด้วย...แม่จ๋าาาาาา ยังไม่จบ....-.-" "ใครจะไป100โลยืนบนเก้าอี้เลยครับ" ใจเริ่มหายวาบบบบบ... หันไป.... แม่!!!!! อยู่บนเก้าอี้แล้ว เค้าก็อยู่บนเก้าอี้ด้วย ก้าวตามแม่ 555 12ชีวิตบนเก้าอี้นั้น ครึ่งนึงในนั้นจะจบ100โล พี่ป๊อกกล่าว แม่บอก"ชั้นอยากรู้ว่า100โลเป็นยังไง" ทั้งที่ยังไม่เคยไปมาราธอนเลย ### หลังจบมาราธอนแรกที่จอมบึง60 (มค)แม่ทวงคำ มั่นสัญญาที่เคยบอกกันไว้ว่าแม่อยากวิ่ง100k เราต่อรองกันว่าอย่าเลยเพราะเกรงว่าร่างกายในวัย70 จะทนไม่ไหวจะบาดเจ็บจากการซ้อม อันตรายถึงกล้ามเนื้อหัวใจ พร้อมๆกับทีมงานบางแสน100กำลังเริ่มเตรียมรับสมัคร พี่นิคม ลุงแก่แล้วที่ลากใครก็ใส้แตกทุกที ที่ดูแลตารางซ้อมให้แม่ตอนจอมบึงมาราธอนแรก จากพี่ๆแคมป์เมจิบ้านประหยัดรันเนอร์ รับคำปรึกษาจากแม่ว่าแม่อยากไป100จริงๆ จากคำมั่นในวาจาความมานะของผู้หญิงสูงวัย สู่ความจริงของ100กม BS100 สวนลุม-บางแสน ไม่ง่ายเลย.. แม่เป็นคนแกร่ง มุ่งมั่น การกระทำของแม่ดังกว่าคำพูดของแม่เสมอ ระยะเวลาจากการเพิ่มระยะ 42 ถึง 100 มันสั้นไปนะแม่ บอกแม่มากกว่า 3 ครั้ง ว่ารออีกนิด ค่อยๆไปดีไหม (หมอเมย์คิดว่าการเพิ่มระยะไปอัลตร้าต้องผ่านระยะมาราธอนมาสักพักอย่างน้อย 1-2ปี) แม่บอกแม่70แล้ว..มีเวลาบนโลกนี้อีกกี่วันกัน ให้แม่ทำเถอะ แม่อยากทำจริงๆ ในเวลานั้นมีแต่ความเงียบครอบงำในใจ ไม่มีคำพูดใดระหว่างเราสองคนอีก ในใจขอรอดูว่าแม่จะซ้อมได้อย่างไร ถ้าดูแล้วไปตามตารางได้ ก็อาจจะให้ไป.. นึกย้อนวันที่เราอยากทำแม่สนับสนุนทุกสิ่ง เพื่อเรา..แล้ววันที่แม่ต้องการทำไมจะมีคำว่าไม่ได้ล่ะ แม่ซ้อมโดยมีพี่นิคมช่วยดูแลตาราง หมอเมย์ดูแลเรื่องกล้ามเนื้อทุกด้าน ต้องยอมรับว่า กายแม่ดี แต่ใจแม่ยิ่งใหญ่กว่า.. แผนออกตัวเที่ยง..เราก็ซ้อมกันเที่ยง ซ้อม 9-12บ้าง ซ้อม11-14บ้าง ซ้อมวิ่ง ซ้อมกิน ซ้อมนอน 10 ชม อัลตร้า ก็วิ่งกัน 53กม..ผลน่าพอใจ และไม่บาดเจ็บ ปวดเมื่อยปกติ แม่ซ้อม 4-5 วันต่อสัปดาห์ วิ่งสั้นๆ (10-15k) 3 วัน วิ่งยาว 1-2 (20-35k) วัน ปล.กิจวัตรแม่คือเดินไปมาระหว่าง 2 ร้าน บางครั้งก็ใช้ cityrunไปทำงาน เวลาที่เวลาซ้อมไม่พอ มีเวลาแม่จะออกไปซ้อม ความเร็วไม่มากประมาณ 5-6 กม/ชม ไมมีลงคอร์ท ไม่มีเทมโป้ เพราะเสี่ยงการบาดเจ็บเกินไป ทุกครั้งคือระยะถึงไม่ว่าจะซ้อม25 กม ในเวลาเกือบ5ชม รักษากล้ามเนื้อด้วยการนวดคลาย roller กายภาพบำบัด shockwave ประคบร้อนเย็น สร้างความแข็งแรง* (พาฝึกเอง) บำรุงด้วยการเลือกอาหารการกิน วิตามินเนื่องจากการกินได้ไม่เพียงพอ นอนเพียงพอ พักในเวลาที่ถูกต้อง ตลอดช่วงซ้อมแม่ยังทำงานปกติ งานบัญชี ให้สมองได้ใช้งานบ้าง ทำอาหารทาน ทำอาหารให้หมอให้พ่อ ต้มถั่วลูกไก่แจกลูกๆนักวิ่ง มันคือความสุขของแม่ แม่ตื่นเต้นบอกทุกคนรอบตัวว่าแม่จะวิ่ง100กม มีคนให้กำลังใจบ้าง เป็นห่วงบ้าง ไม่เห็นด้วยบ้าง แต่แม่บอกเสมอว่าการกระทำมันดังกว่าคำพูดเสมอ..และแม่จะทำ เราตกลงกันว่า หากไม่ไหว ห้ามฝืนใดๆทุกกรณี ต้องยุติการวิ่งนะ การเดินทางเริ่มขึ้น ที่สวนลุม แม่หมอเมย์ พี่นิคม พี่ป๊อก พี่เจตน์ หมอเมย์ พี่เอิ้ก น้องแบ๊ง น้าเด่น น้องกอล์ฟ มีพี่ต้นและน้องอ้อมาร่วมแจมด้วย ทีแรกจะวิ่งกับแม่แค่สองคนเพราะไม่อยากกวนใคร พี่นิคมยืนยันกับแม่มาว่าจะพาแม่ไปด้วย พี่ป๊อกก็ยืนยันเช่นกัน พี่เจตน์บอกตามมาทีหลังว่าอยากวิ่งกับแม่จริงๆจะมาร่วมวิ่งด้วย เลยได้เป็นทีมอย่างที่เห็น น้าเด่นชวนตอนเย็นๆวันพุธเห็นว่าว่างอยากให้มาด้วยกัน น้าเด่นก็ยอมมา ไม่เทเค้า ..ดีใจจริงๆ เนื่องจากการใช้เวลาจะราว30ชม. เลยได้wave 0 เวฟพิเศษ ฟรุ้งฟริ้งพร้อมแม่ Wave 0 ออกเดินทางเวลาบ่าย 3 ของวันศุกร์ที่ 9 Waveอื่นก็ออกตามเวลาไล่ๆกันเพื่อให้เข้าเส้นชัยใกล้เคียงกัน คาดการณ์เราจะถึงบางแสนที่ 1 ทุ่มก่อนเวลาตัดตัว 1 ชม วิ่งเป็นแนวcity run ไปตามทาง พระราม 4 ไปสู่ถนนสุขุมวิท บางนา สำโรง เทพารักษ์ บางพลี บางบ่อ บางนาตราด ยาวๆไปบางปะกง บางแสน เราไปด้วยกันทุกคน..ไม่ทิ้งกันในช่วงกลางคืน..นี่คือเสน่ห์ของบางแสน100 ข้ออันตรายของถนนแบบนี้คือถนนไม่เรียบ เสี่ยงกับการล้ม ซึ่งแม่เสียหลักสะดุดไป แต่ไม่มีอาการบาดเจ็บอะไร ซึ่งโชคดีมาก จึงประคองโดยการวิ่งข้างๆตลอด 4 ชมผ่านไปแวะ cp เพื่อเติมพลังงาน แม่กินข้าวเหนียวหมูทอดได้ไม่มาก เพราะกลัวปวดท้อง สอนให้เคี้ยวละเอียดๆ ให้ฟันช่วยบดอาหารให้เล็ก ท้องจะไม่ทำงานหนัก ทานน้ำมะพร้าวได้ ระหว่างทางจะคอยเชคสภาพร่างกายตลอด อาการผิดปกติต่างๆ เติมพลังงาน เกลือแร่ น้ำ เจล กล้วย ต้องไม่เกินไม่ขาดเกินไป ฟ้าเริ่มมืดแล้วจุด cp ของเราคือปั้มน้ำมัน จัดแจงใส่headlamp ส่องทาง ความเร็วถูกลดลงนิดหน่อย เพราะต้องการระวังทางและข้อผิดพลาดจากการล้ม จบ 1 มาราธอนแรกที่เวลา เกือบเที่ยงคืน 8 ชมกว่าๆ เวลาดีทีเดียว บู้แมวเอากาแฟมาให้ พิเศษที่เป็น cold brew (เวลากินจริงใช้กระดกขวดแบนเลย555) น้องกอล์ฟส่งตรงนี้แยกย้ายกลับ ถึงเวลาแช่น้ำแข็งลดการอักเสบแล้ว เย้ แบบเดียวกับที่ทำให้พี่ตูน น่ำแข็งลดการอักเสบ ลดปวด ช่วยหลอดเลือดหดตัว 20นาที อาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วไปต่อเลย ออกตัววิ่งกันต่อช่วงหลังเที่ยงคืน หมาเจ้าถิ่นเยอะมาก พี่เจตน์ พี่เอิ้ก พี่นิคม ดูแลแม่อย่างดี เอาขวดน้ำชี้หน้าหมา..หมาหงอทุกตัวเลย 😂😂 พี่เจตน์เอาไม้ตีขี่ม้ามาไล่หมา ดีจริงๆด้วย หมากลัวทุกตัวเลย ถนนเรียบมากขึ้น แต่ก็ต้องสู้กับความง่วงนอนที่เกิดขึ้น.. วางใจเรื่องการล้ม แต่แม่ต้องเริ่มสู้กับความง่วง พี่เจตน์ หมอเมย์ น้องกอล์ฟ ผลัดกันวิ่งคู่แม่ พี่นิคมพี่เอิ้ก วิ่งนำหน้าเป็นขุนพลจ่าฝูง พี่ป๊อก น้องแบ๊งค์ ปิดท้ายดูความปลอดภัย น้าเด่นเก็บภาพแบบเอาตามฟิลลิ่งเลย น้องแบ๊งค์ ช่วยดูแลเรื่องน้ำท่าในรถ เติมน้ำ เติมพลังงาน ตอนนี้เริ่มล้าขาเหมือนกันง่วงมากกกกก เลยต้องขอนอน ผืนวิ่งกันไปช้าๆ จนเจอปั้มcheck Point ที่วางแผนนอนพัก1 ชม น้องกอล์ฟที่แยกย้ายกลับขับรถมาพร้อมเสื่อมาปูให้ พักตรงนี้ด้วยความเพลียอย่างมาก แม่นั่งลงกับพื้นพร้อมเอนตัวลงนอนตะแคง ด้วยความเพลียจัดแค่หัวถึงเสื่อก็หลับได้ในทันที ลมพัดเอื่อยๆ หลายคนนอนแบบยกขาสูงให้เลือดไหลกลับ หมอเมย์เลือกเสากำแพงที่พื้นเทลาด ช่วยได้อีกหน่อย 1 ชมผ่านไป เสียงพี่นิคมแจ้วๆๆมาว่า เอ้า..ตื่นได้ เราจะออกเดินทาง 6.10 นาที แถวนี้น่าจะ60โลแล้ว ..เวลาผ่านไปเร็วมาก เดินโยกเยกขึ้นมาหาของกิน พร้อมไปต่อ น้องแบ๊งขุนพลจักรยานดูและมาตั้งแต่เมื่อคืนเช้านี้ก็ปั่นปิดท้ายให้พวกเราทุกคน น้องน่ารักมากจริงๆ อากาศเช้าๆดีจังเลย แดดอ่อนๆ ย้อนมาถ่ายรูปได้สวยมากๆ น้ำอ้อยตรงนี้อร่อยมากกกกก 10บาท แนะนำให้ใส่น้ำแข็งด้วย ถึงบางปะกงแล้ว 70โล ที่เวลา 10.00 ออกตัวอีกรอบ 10.50 ปิ้งย่างเลย ร้อนนนนนน บังแดด ถือถุงน้ำแข็งกันไป ใจคิดว่า 30โลเอง 6 ชมก็น่าจะถึง ช่วงนี้waveต่างๆเริ่มแซงไปแล้ว พี่น้องๆทักทายสนุกสนาน BS คือ race ของเพื่อนและความรักไม่ทิ้งกัน มีทั้งวิ่งลงคอร์ทแข่งกัน พี่นิคมเจอน้องเพซ4 แรงก็มาทันที วิ่งกันฝุ่นตลบ สร้างความคึกคักได้เป็นระยะ ช่วง30 โลท้าย ร้อนมาก แม่เหงื่ออกเยอะมาก เอาเป้น้ำใส่น้ำแข็งเตรียมให้ พร้อมน้ำแข็งพันไว้ที่คอ ต้องคอยเชคอาการขาดน้ำ ขาดเกลือหรือกินน้ำเกิน มีช่วงมือบวมนิดหน่อย ต้องปรับระดับเกลือแร่และทดแทนเป็นระยะตลอด แม่กินได้น้อยช่วงนี้เพราะกลัวปวดท้อง เลยต้องให้จิบเจลบ้างกล้วยบ้าง ถั่วบ้าง ให้พลังงานใช้ได้หลากหลายขึ้นทั้งcarbo fat protein แม่ยังปัสสาวะได้บ้างปัสสาวะออกสีเข้มหน่อยแต่เป็นเหลืองเข้มวิตามิน B รวม แต่ปริมาณปกติยังโอเคเป็นใช้ได้ มาถึงทางที่สวยที่สุดของraceนี้ ทางตัดใหม่จากชลบุรีเข้าบางแสน พอดึงความสนใจจากแดดที่แผดเผาไปได้บ้าง แม่ยังคงมุ่งหน้าไปข้างหน้าอย่างอดทน พี่แอ๋ว พี่โต้ง น้องอีกหลายคนมาserviceเอาน้ำแข็ง น้ำมาให้ แม่ปลื้มใจมากพอทานได้มากขึ้น ทางตรงๆที่น่าเบื่อของพระยาสัจจาแทบทำให้หมดแรง แดดยังคงไม่หยุดเผา เริ่มตามแม่ไม่ทันแล้ว เพราะแม่แทบไม่หยุด เท้าเริ่มระบมก้าวไม่ทันแม่ เป็นจุดสุดท้ายแล้วที่แม่หยุด เข้าอ่างศิลาเนินทั้งนั้นแม่ไม่หยุดเลย โค้งแล้วโค้งเล่า เพื่อนๆรอเชียร์ข้างทางขอถ่ายภาพแต่แม่หยุดไม่ได้แม่ขอผ่านโดยไม่หยุด ขาสองข้างไม่เป็นของแม่อีกต่อไป ความง่วงครอบงำ สติเหมือนจะหลุดออกจากร่างเลื่อนลอยไร้การตอบสนอง ขาแม่สับรัวขึ้นอีก แม่หยุดไม่ได้ถ้าหยุดเมื่อไหร่จะถึงแม่คิดในใจ แบ๊งแม่ง่วงมาก แม่บ่นขึ้น ในใจคิดว่าถ้าหลับ ไม่ตื่นแน่ๆ เปิ้ลชวนแม่ร้องเพลง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เมื่อลูกชายส่งกาแฟให้กิน จับมือเปิ้ลแน่นพร้อมก้าวต่อไป หมดโค้งอ่างศิลาแล้ว เข้าบางแสน.. เหมือนทุกข์กำลังออกจากอก แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เมฆทมึนดำรออยู่ จากฟ้าสว่างมืดลงในชั่วนาที ลมเย็นสบายกลับโหมดั่งพายุกระหน่ำทรายเม็ดเล็กนับพันฟาดต้นขาอย่างแรง ข้าวของกระจัดกระจาย กาบมะพร้าวตกลงมา ราวกับมาเพื่อเป็นอุปสรรคไม่ให้แม่ทำสำเร็จ สีหน้าแม่ตอนนี้ กังวลกลัวไปไม่ถึง พร่ำพูดซ้ำๆว่า "ให้ชั้นจบเถอะ อย่ารังแกเลย อีกนิดเดียวเอง" ขาแม่สับไวขึ้นหมอเมย์กับครูเปิ้ลไม่สามารถเดินได้แล้ว ตอนนี้เรากำลังวิ่งเข้าสู่วงเวียนบางแสน 100เมตร สุดท้ายฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก เราจับมือฝ่ากันไปเหมือนกับเราทั้งหมดกำลังสู้รบอะไรบางอย่าง เหมือนในหนังเลย... ถึงแล้วเส้นชัย ณ วงเวียนบางแสน ความรู้สึกมากมายที่เกินจะบอกเป็นตัวหนังสือ แม่ทำสำเร็จด้วยมานะพยายามของแม่เอง การกระทำดังกว่าคำพูดเสมอ ไม่ได้บอกให้ทุกคนมาวิ่งแบบแม่*** เพราะแม่มีเป้าหมายของตัวเอง "แค่มองบางสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคุณได้คิดเปลี่ยนแปลงตัวเอง..ให้ตามเป้าหมาย มันคือความสำเร็จของคุณแล้ว" "อย่าทำหากคุณไม่ศรัทธา อย่าทำหากคุณคิดว่ามีข้อจำกัด" ~~ 1 วันถัดไป ออกไปกินข้าวกับลูกๆได้ 2 วันถัดไป ทำงานที่ร้าน 3 วันถัดไป ออกมาเดินเล่นสวนลุมได้ แม่ไม่บาดเจ็บเลยเหรอ? เพราะความเร็วที่แม่วิ่งดูคล้ายๆเดินเร็วของสาวๆ เท้าข้างหนึ่งข้างใดรับแรงบนพื้น ไม่มีช่วงลอยของเท้าสองข้างมากนัก การกระแทกจะน้อยลงและการบาดเจ็บน้อยกว่า การดูแลกล้ามเนื้อก่อนช่วงวิ่ง ระหว่างวิ่ง หลังวิ่ง บริหารพลังงาน น้ำ เติมเกลือแร่ อาหาร วิตามิน BCAA ผลเลือดค่าไตปกติ เกลือแร่ปกติ ค่ากล้ามเนื้อสลายไม่มี ;) วันเวลาไม่เคยรอใคร ออกมาเปลี่ยนแปลงตัวเองกันค่ะ ไม่ต้องวิ่ง 42กม ไม่ต้องวิ่ง100 กม เดินสิบก้าวก็ถือว่าได้เริ่มต้น ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ "Nothing is impossible" **การแข่งขันระยะแบบนี้เรียกว่าอัลตร้ามาราธอน ควรอยู่ในวิจารณญาน ความสำเร็จขึ้นกับความเหมาะสมของร่างกาย การเตรียมพร้อม ความมุ่งมั่นของแต่ละบุคคลและควรอยู่ภายใต้การดูแลของโค้ชและแพทย์ค่ะ ระยะ 42 หรือมากกว่า เป็นระยะที่ต้องการการฝึกซ้อม ดูแลร่างกายทุกๆด้าน ฟังและประเมินร่างกายตนเองเป็นเป็นสิ่งสำคัญ ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ หวังว่าจะได้ข้อคิดแนวทางบ้างอาจจะนำไปประยุกต์ใช้ ขอให้วิ่งอย่างมีความสุขทุกท่านค่ะ จะขอแยกรายละเอียดแต่ละประเด็นความรู้อีกบางส่วนภายหลัง สุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านที่จัดงานนี้ พี่นิคม พี่เจตน์ พี่ป๊อก พี่เอิ้ก น้องแบ๊งค์ 2คน น้าเด่น ที่ร่วมวิ่ง ขอบคุณจี๊ด ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและเป็นห่วงแม่นะคะ แม่สตางค์ร้อยโล หมอเมย์ Liveสด https://www.facebook.com/mailtopok/posts/10208583453933916 https://www.facebook.com/mailtopok/posts/10208569416222982

การเดินทางของ100kของแม่ จุดเริ่มต้นจริงๆอยู่ที่เข...