IG:@ally_blahblah
https://instagram.com/ally_blahblah?igshid=1jtemurbno3q7
【你如何選擇?】
你目前嘅位置係建基於一連串嘅決定
而每一個決定係基於你嘅知識同經驗
簡單而言
想做好決定,就需要相關知識同經驗
知識面越廣
經驗越多
就有越多「幫助決定」嘅考慮因素
等於平日買菜,點知老闆有冇呃你?
就係你有冇買菜經驗、熟唔熟價錢、知唔知產地等等
咁點先可以有多啲知識同經驗?
有幾個方法:
1. 多閱讀
2. 多嘗試、跳出自己舒適圈(comfort zone)
3. 多同前輩溝通
4. 接受並非凡事能「一步登天」
1. 多閱讀
呢樣好緊要。細細個我老竇就同我講要多睇「雜書」(即係咩都睇吓)。細細個唔明,大個左先明白閱讀嘅重要性。由商務、策略、歷史、藝術、心理、政治等,我有時間就會睇。多閱讀,知識面廣(筆者依然向呢個目標進行中),自然容易用唔同角度思考問題,「put yourself in someone else's shoes」。而且,交際應酬有多啲嘢傾,百利而無一害。有人可能會話讀萬卷書不如走萬里路,我反而覺得,讀萬卷書同走萬里路一樣重要。有知識作根基,再出去歷練,事半功倍。
2. 多嘗試、跳出自己舒適圈(comfort zone)
好多事情唔試真係無知。讀中學嘅時候因為語言能力強,又參與辯論隊,好多人自然覺得我會做律師/salesperson,自己亦以為鐘意著重表達能力相關工作。到後來入銀行左 front office,經常見客,先發現自己唔鍾意「跑數」;又後來入法律學院,發現自己唔適合做律師。不過試過其他部門,正正因為試過,知道自己比較喜歡策略、分析等「用腦」工作,其實同時又可以發揮本來已有優勢。
3. 多同前輩溝通
年輕人總有一股初生之犢不畏虎嘅「氣概」,不過有機會的話可以多同前輩溝通。雖然好多時候會有唔同意嘅地方(特別政治上......),但前輩畢竟人生經驗比較多、亦犯過錯,總會有值得學習嘅地方。
例如,筆者讀大學嘅時候有一位前輩同我講「畢業前CV上一定要有三樣嘅: 有返實習(internship),有去交流(exchange),有獎學金(scholarships)」,事源唔少大公司都會留意呢幾樣。多得當年佢提醒,先發現好多嘢要提前準備,為未來鋪路。
4. 接受並非凡事能「一步登天」
人總有好多「想做」嘅事。不過,要學會接受並非凡事能「一步登天」。古語有云,天降大任於斯人也,必先苦其心志,勞其筋骨,餓其體膚,空乏其身,行指亂其所為,所以動心忍性,曾益其所不能。有時候,為目標,「偶爾」要短暫做「其他事情」。改變心態,學會忍耐同努力向目標前行,自然能幫助選擇。
又:有冇人想知我睇咩書?如果我分享的話,有冇人會睇?
#移民 #移民歐洲 #移民荷蘭 #荷蘭 #西歐 #出國 #留學 #歐洲讀書 #歐洲工作 #歐洲生活 #荷蘭公司 #歐洲公司 #荷蘭生活知多啲 #香港人在荷蘭 #香港人在歐洲 #香港人加油 #搵工 #閱讀
「put yourself in someone else's shoes」的推薦目錄:
- 關於put yourself in someone else's shoes 在 Ally Blah Blah Facebook 的最佳貼文
- 關於put yourself in someone else's shoes 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文
- 關於put yourself in someone else's shoes 在 YooYeesChannel Facebook 的最佳貼文
- 關於put yourself in someone else's shoes 在 Put yourself in someone else's shoes. When you're feeling ... 的評價
- 關於put yourself in someone else's shoes 在 What is the origin of “putting yourself in someone else's ... 的評價
put yourself in someone else's shoes 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文
เหตุผลที่เราควรสวมรองเท้าของคนอื่น
---
1
สมัยวัยรุ่นกว่านี้ ผมเผลอคิดไปว่ามนุษย์ทุกคนในโลกคงเหมือนๆ กัน แถมยังชอบคิดว่าโลกนี้มี "สิ่งที่ควรเป็น" แค่แบบเดียว ซึ่งตัวผมเองเป็นคนตัดสินว่ามัน "ควรเป็น" แบบไหน ว่าง่ายๆ คือยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
2
เติบโตขึ้นมาจึงค่อยๆ เข้าใจมากขึ้นผ่านการทำงานร่วมกับคนอื่นว่า มนุษย์มีหลายแบบ เมื่อเข้าใจเช่นนี้แล้ว ส่วนหนึ่งก็เห็นปัญหาที่เกิดจากการปะทะกันของคนที่แตกต่าง แต่อีกมุมก็เห็นประโยชน์ของการร่วมมือกันของความแตกต่างหลากหลาย
3
เมื่อต้องทำงานร่วมกับคนที่ไม่เหมือนเรา เราจะเห็นตัวเองชัดขึ้นมาก และถ้าลดอคติว่า "ฉันถูกที่สุด" ลงได้ เราจะเห็นว่ามุมมองของเราบางทีเป็นปัญหาสำหรับคนอื่นเช่นกัน
4
ผมออกแนวศิลปินหน่อยๆ ทำอะไรไม่ค่อยเป็นตาราง เชื่อสัญชาตญาณมากกว่าการวางแผน รักอิสระ ไม่ชอบกรอบ เมื่อมาทำงานกับนักวางแผน กำหนดขอบเขตงานชัดเจนก็เห็นชัดเลยว่า เราต่างเป็นปัญหาของกันและกัน และถ้าดื้อก็พังแน่ๆ
5
โชคดีที่ความเติบโตทำให้เรายืดหยุ่นมากขึ้น ผมค่อยๆ เรียนรู้จากคนที่แตกต่างมากขึ้นเรื่อยๆ จึงพบว่า "คนที่ต่าง" แท้จริงแล้วคือ "คนที่เติม" ในสิ่งที่ขาดให้แก่เรา
6
การวางแผนที่ดีกลับทำให้ผมใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น คนที่มองโลกในแง่ร้ายกลับกลายเป็นคนรอบคอบที่ชี้ให้เห็นปัญหาที่ผมมองข้าม คนที่ชอบค้าขายมีความเป็นนักธุรกิจกลับช่วยทำให้งานศิลปะดูน่าจับต้องมากกว่าเดิม ผมจึงเริ่มชอบการทำงานกับคนที่ไม่เหมือนตัวเอง
7
เมื่อทำงานด้วยกันไปเรื่อยๆ รับฟังมากขึ้น ผมจึงเข้าใจว่าเราสามารถเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานที่แตกต่างได้ด้วยการหัดสวมรองเท้าของเขา
8
ฝรั่งมีสำนวนว่า "Put yourself in someone else's shoes" หมายถึงลองแทนตัวเองเป็นคนอื่นดู แล้วมองโลกจากมุมมองของเขา เราจะเข้าใจความคิดของเขามากขึ้น
9
วิธีสวมรองเท้าคนอื่นแบบหนึ่งคือ ลดอัตตาตัวตนของเราลง แล้วรับฟังเขาให้มาก เพื่อเรียนรู้โลกที่เขามองเห็น หากทำบ่อยๆ เราจะได้ "ดวงตาใหม่" มามองโลกใบเดิม ทำให้เรามองโลกได้หลายมุมขึ้น
10
วิธีเช่นนี้มีคำเรียกว่า "Outward Mindset" คือการมองออกไปนอกตัวเอง ผมเรียกของผมเองว่า "การถ่ายเทสมองกันไปมา" หรือ "แลกแว่นตามองโลก"
11
ทำบ่อยๆ จะทำให้เรามีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น คิดในมุมที่กว้างกว่าเดิม มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เห็นโอกาสใหม่ๆ มากขึ้น และที่สำคัญ ทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบตัวมากขึ้น ซึ่งทำให้เราทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้นด้วย เมื่อมองเห็นคุณค่าที่ผู้อื่นมีในสิ่งที่เราไม่มี แถมยังเป็นการพัฒนาตัวเองผ่านวิธีคิดของเพื่อนร่วมงานอีกต่างหาก
12
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราควรสลับรองเท้ากันใส่ เมื่อลองเปลี่ยนจุดยืนและวิธีมองโลก เราจะพบว่า บางทีเราอาจจะผิดเมื่อมองจากมุมอื่น และสิ่งที่เราเคยคิดว่าไม่เวิร์ก มันอาจจะมีเหตุผลในอีกมุมหนึ่ง
13
ทั้งในแง่การทำงาน ทีมเวิร์ก ครอบครัว รวมถึงสังคม หากมีวิธีคิดแบบ Outward Mindset กันมากขึ้น น่าจะทำให้เกิดความร่วมมือมากกว่าความขัดแย้ง
14
เพราะถึงที่สุดแล้ว เราก็ไม่ได้อยู่บนโลกนี้คนเดียว เราต่างต้องปรับมุมมองเข้าหากัน ทางที่ง่ายที่สุดคือเริ่มที่ตัวเรา ซึ่งนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการแลกรองเท้ากันใส่ และผลัดกันยืนมองสิ่งต่างๆ จากมุมของกันและกัน
15
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากมี Outward Mindset และยังไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ตอนนี้ทาง YourNextU เปิดให้ผู้สนใจอยากเรียนจากผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ สามารถเข้ามาทดลองเรียนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้เวลาแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นครับ แล้วอาจจะเห็นว่า การสลับรองเท้ากันใส่นั้นสนุกกว่าที่คิด
ลงทะเบียนเรียนได้ที่ลิงก์นี้เลยครับ http://bit.ly/30Ywb6E
#advertorial #YourNextU #YourLearningPartnerForSuccess
put yourself in someone else's shoes 在 YooYeesChannel Facebook 的最佳貼文
ยู่ยี่เคยทำวิดิโอในแชแนลไปชื่อ Conversation starters : คำถามเด็ดไว้ชวนฝรั่งคุยที่ต้องรู้! เพราะฉะนั้นวันนี้จะมาขอนำเสนอคำถามที่จะช่วยให้บทสนทนาไม่กร่อยกัน เก็บไว้ จำไว้ ท่องไว้แอ๊วฝรั่ง ชวนฝรั่งจ้อกันนะจ๊ะะ 😏😏😏😏
1. If you could spend one day in someone else's shoes, who would it be and why?
- ถ้าเธอสามารถใช้เวลาวันหนึ่งในการเป็นใครก็ได้ เธออยากจะเป็นใคร และทำไม
2. Which celebrity gets on your nerves the most and why?
- คนดังคนไหนที่ทำให้เธอรำคาญมากที่สุด และทำไม?
3. If you were going to bury a time capsule, what would you put in it?
- ถ้าเธอได้ฝัง time capsule เธอจะใส่อะไรลงไป?
4. When you were a kid, what did you want to be when you grew up?
- ตอนเป็นเด็ก เธออยากโตมาเป็นอะไร?
5. When feature of mine (personally or physically) do you find most attractive?
- อะไรในตัวเรา (ทั้งนิสัยภายในหรือรูปร่างภายนอก) ที่เธอคิดว่ามีเสน่ห์มากที่สุด
6. What's the strangest place you've ever gone potty?
- เคยขี้ที่ไหนที่แปลกที่สุด
7. How old were you when you had your first kiss?
- จูบครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่
8. Do you have any strange or unique phobias?
- กลัวอะไรแปลกๆ บ้างมั้ย?
9. If you could bring back one toy from your childhood, what would it be and why?
- ถ้าเธอสามารถเอาของเล่นสมัยเด็กกลับมาได้อย่างหนึ่ง อยากจะเอาอะไรกลับมาและทำไม?
10. If you knew today was the last day of your life, how would you spend it?
- ถ้าสมมุติเธอรู้ว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต เธอจะใช้มันยังไง?
11. If you had to describe yourself using only three words, what would they be?
- ถ้าเธอต้องบรรยายตัวเองโดยใช้แค่สามคำ จะเป็นคำว่าอะไรบ้าง?
12. If you could relive one day of your life, what day would it be and why?
- ถ้าเธอสามารถใช้ชีวิตได้อีกครั้งวันหนึ่ง เธอจะใช้วันไหน?
13. If you could be any Disney villain, who would you be?
- ถ้าเธอสามารถเป็นตัวร้ายในดิสนีย์ได้ตัวหนึ่ง จะเป็นตัวไหน?
14. If you life was a novel, what would the title be?
- ถ้าชีวิตเธอเป็นนิยายเรื่องหนึ่ง คิดว่าชื่อเรื่องจะเป็นอะไร?
คือแต่ละคำถามมันแบบน่ารักและยูนี๊คมากกก คือแนะนำให้เอาไปถามเหอะ บทสนทนาไม่กร่อยแน่นอน!
รัก ❤
ยู่ยี่
put yourself in someone else's shoes 在 What is the origin of “putting yourself in someone else's ... 的推薦與評價
The earliest traces [...] of the proverb date back to the Cherokee tribe of Native Americans, who said “Don't judge a man until you have walked ... ... <看更多>
put yourself in someone else's shoes 在 Put yourself in someone else's shoes. When you're feeling ... 的推薦與評價
Sep 10, 2014 - Put yourself in someone else's shoes. When you're feeling righteous, put yourself in the shoes of the other person and try to imagine what ... ... <看更多>