“ดูไบ” จากหมู่บ้านชาวประมง สู่เมืองศูนย์กลางระดับโลก /โดย ลงทุนแมน
50 ปีที่แล้ว น้อยคนบนโลกที่จะรู้จักหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ริมอ่าวเปอร์เซีย
ที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลทรายรกร้างว่างเปล่า
แต่ในวันนี้ “ดูไบ” ดึงดูดให้คนทั้งโลกต้องจับตามอง
ด้วยการปักหมุดตัวเองให้เป็นศูนย์กลางในหลากหลายด้าน..
ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบมีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 4 ของโลกในปี 2019
ส่วนท่าเรือ Jebel Ali ในดูไบ ก็ขนส่งสินค้าติด Top 10 ของโลกมาตั้งแต่ปี 2005
ดูไบยังเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดในตะวันออกกลาง
มีตึกที่สูงที่สุดในโลก คือ เบิร์จคาลิฟา ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางย่านการค้า
เป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาค และศูนย์กลางค้าเพชรอันดับ 2 ของโลก
แต่นั่นยังไม่หมด เพราะเมืองแห่งนี้กำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายใหม่
คือการเป็น “ศูนย์กลางการแพทย์ระดับโลก”
เส้นทางกว่าจะมาเป็นวันนี้ของดูไบเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ดูไบคือ 1 ใน 7 รัฐ ที่ประกอบกันเป็นประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ซึ่งแต่ละรัฐ ก็จะมีเจ้าผู้ครองนคร ทำหน้าที่ปกครองรัฐของตัวเอง
รัฐดูไบเป็นรัฐที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากรัฐอาบูดาบีซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ
แต่เป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุด คือราว 3.4 ล้านคน
คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ
แรกเริ่มเดิมที ดูไบเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ผู้คนดำรงชีพด้วยการทำประมง และทำฟาร์มไข่มุก
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงมาสู่การเป็นเมืองใหญ่
คือการค้นพบน้ำมันในช่วงทศวรรษ 1960s
ในปี 1969 ดูไบเริ่มมีรายได้จากการส่งออกน้ำมัน เมืองจึงมีฐานะร่ำรวยอย่างรวดเร็ว
มีการก่อสร้างถนนหนทาง และตึกรามบ้านช่องมากมาย
แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันสำรองของดูไบก็มีไม่มาก เมื่อเทียบกับรัฐอาบูดาบีเพื่อนบ้าน
เจ้าผู้ครองนครดูไบในขณะนั้น คือ เชครอชิด บิน ซาอิด อัลมักตูม
ได้มองเห็นว่า ในวันหนึ่งข้างหน้า น้ำมันสำรองของดูไบก็จะต้องหมดลง
แล้วรายได้มหาศาลจากน้ำมันก็จะหมดลงไปด้วย
นำมาสู่วิสัยทัศน์ที่จะเปลี่ยนจากเมืองที่พึ่งพารายได้หลักจากการขายน้ำมัน
มาสู่เมืองที่มีเศรษฐกิจหลากหลาย
การพัฒนาขนานใหญ่จึงเริ่มต้นจากการมองหาศักยภาพที่ดูไบมี
ซึ่งไม่มีอะไรจะดีไปกว่า “ทำเลที่ตั้ง”
ถึงแม้จะล้อมรอบไปด้วยทะเลทราย แต่ดูไบก็ตั้งอยู่ใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ
ซึ่งเป็นทางออกสู่ทะเลเพียงแห่งเดียวของหลายประเทศที่ตั้งอยู่รอบอ่าวเปอร์เซีย
ไม่ว่าจะเป็น อิรัก บาห์เรน คูเวต กาตาร์ รวมถึงบางส่วนของอิหร่าน และซาอุดีอาระเบีย
ปี 1972 รัฐบาลดูไบจึงตัดสินใจลงทุนสร้างท่าเรือ Rashid และท่าเรือ Jebel Ali
ตามมาด้วยการตั้งเขตเศรษฐกิจ Free Zone ขึ้นใกล้กับท่าเรือ
เพื่อดึงดูดการลงทุนจากบริษัทต่างชาติ โดยสามารถนำเข้าแรงงานและเงินทุนได้ไม่จำกัด
หลังจากเปิดดำเนินการในปี 1979 ท่าเรือของดูไบก็ค่อย ๆ เติบโตจนก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าสำคัญของประเทศรอบอ่าวเปอร์เซีย พร้อม ๆ กับดึงดูดแรงงานมุสลิมจากเอเชียใต้ เช่น อินเดีย ปากีสถาน และบังกลาเทศ
ประชากรดูไบ เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 2 แสนคนในปลายทศวรรษ 1970s กลายเป็นมากกว่า 1 ล้านคนในช่วงทศวรรษ 2000s
นอกจากการขนส่งทางเรือแล้ว ทำเลที่ตั้งของดูไบยังมีความโดดเด่นอีกประการหนึ่ง
ก็คือ อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ทวีปใหญ่ คือยุโรปและเอเชีย
นำมาสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่อมา คือ “การเป็นศูนย์กลางการบิน”
ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย เพื่อรองรับการเป็น Hub ให้กับหลายสายการบินแห่งรัฐดูไบ ซึ่งก็คือ สายการบิน Emirates ที่ถูกจัดตั้งในปี 1985
ด้วยทำเลที่ดี ใช้ระยะเวลาเดินทางจากทั้งยุโรปและเอเชียตะวันออกในเวลาที่ใกล้เคียงกัน
ทำให้ความนิยมในการเดินทางมาท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ และความนิยมของสายการบิน Emirates เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
สายการบินยังมีการลงทุนพัฒนาด้านการบริการ ปรับปรุงเบาะนั่ง ออกแบบตกแต่งห้องผู้โดยสารให้ทันสมัย ลงทุนด้านเทคโนโลยี เปิดเส้นทางการบินใหม่ ๆ
มีพนักงานต้อนรับจาก 120 ประเทศทั่วโลก ซึ่งสามารถให้บริการได้ถึง 80 ภาษา
ปี 2018 สายการบิน Emirates มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 7 ของโลก
ซึ่งผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ต้องมาทำการเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ
ทำให้สนามบินแห่งนี้เติบโตจนกลายเป็น Hub การบินที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 4 ของโลก
แต่ความโดดเด่นด้านทำเลของดูไบ ก็ยังไม่หมดแค่นี้..
ดูไบ ตั้งอยู่ใจกลางระหว่างทวีปแอฟริกาที่เป็นแหล่งแร่เพชร
กับรัฐคุชราตของอินเดีย ที่เป็นศูนย์กลางการเจียระไนเพชร
ดูไบได้มีการสร้างเขตการค้า Dubai Multi Commodities Centre ในปี 2002
เป็นเขต Free Zone เพื่อรองรับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะทองคำและเพชร
เขตนี้เป็นที่ตั้งของตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเพชร Dubai Diamond Exchange (DDE)
ซึ่งเป็นห้องค้าเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองรับผู้สนใจมาประมูลซื้อขายไม่ต่ำกว่า 200 ราย
ส่วนในด้านคุณภาพสินค้า ก็ได้มีการลงทุนติดตั้งเตาอุปกรณ์แบบพิเศษ เพื่อทำความสะอาดแร่เพชร ให้มีความบริสุทธิ์มากที่สุดตามความต้องการของผู้ซื้อ
ดูไบเป็นศูนย์กลางการขนส่งอยู่แล้ว ทั้งการขนส่งทั้งสินค้าและผู้คน
พ่อค้าจากทั่วโลกจึงสามารถเดินทางมาซื้อขายกันได้อย่างสะดวก
จนกลายเป็นศูนย์กลางการค้าเพชรอันดับ 2 ของโลก รองจากเมืองแอนต์เวิร์ป ของเบลเยียม
ทั้งที่เพิ่งตั้งตลาดค้าเพชรหลังจากแอนต์เวิร์ปหลายร้อยปี
การเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าและการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ ถูกต่อยอดมาเป็นธุรกิจการเงิน
ดูไบจัดตั้งศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ ในปี 2002 และตลาดหลักทรัพย์ดูไบ
เพื่อวางตัวเองให้เป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาคตะวันออกกลาง
เช่นเดียวกับการเป็นศูนย์กลางการค้าและการเดินทางทางอากาศ
ที่ถูกต่อยอดมาเป็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ปี 2019 ดูไบต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 16.7 ล้านคน โดยมีสถานที่ดึงดูด คือศูนย์การค้ามากมายหลายแห่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตึกระฟ้า โรงแรมหรูหรา และสนามแข่งขันกีฬาต่าง ๆ
แต่ประโยชน์จากการมีทำเลที่ดีก็ยังไม่หมดแค่นี้..
การท่องเที่ยวที่เติบโต ทำให้ดูไบเล็งเห็นศักยภาพที่จะต่อยอดจากนักท่องเที่ยวทั่วไป
คือการจับกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
หน่วยงานสาธารณสุขของดูไบ ได้พัฒนา Dubai Healthcare City (DHCC) ในปี 2002
ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีอัตราภาษีต่ำ เพื่อดึงดูดโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ต่าง ๆ ให้เข้ามาดำเนินกิจการ
ดูไบอาศัยความได้เปรียบของการเป็นศูนย์กลางการเดินทาง
เพื่อดึงดูดคนไข้ชาวตะวันออกกลางที่มีกำลังซื้อ ให้มารักษาสุขภาพที่นี่ โดยไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงยุโรปหรือเอเชีย
เช่นเดียวกับคนไข้ชาวยุโรปก็ไม่ต้องเดินทางมารักษาไกลถึงเอเชียตะวันออก
และคนไข้ชาวเอเชียตะวันออก ก็ไม่ต้องเดินทางไปรักษาไกลถึงยุโรป..
ปัจจุบันมีศูนย์การแพทย์ใน DHCC มากกว่า 200 แห่ง มีการตั้งสถานศึกษา และสถาบันวิจัยทางการแพทย์เพื่อพัฒนาบุคลากร และต่อยอดการรักษาให้มีประสิทธิภาพ
ในปี 2019 มีจำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติกว่า 350,000 คน เดินทางมารักษายังสถานพยาบาลในดูไบ
โดยสัดส่วนของลูกค้า มาจากภูมิภาคเอเชีย 34% ตะวันออกกลาง 28% ยุโรป 17%
แอฟริกา 10% และสหรัฐอเมริกา 10%
ในขณะที่ปี 2020 ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์โรคระบาด
แต่รัฐบาลดูไบก็ได้ออกใบอนุญาตให้กับโรงพยาบาลแห่งใหม่ 45 แห่ง
และคลินิกการแพทย์เฉพาะทางอีก 10 แห่ง เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต
จากการจัดอันดับ Medical Tourism Index จากทั้งหมด 46 แห่งทั่วโลก
ดูไบถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 1 ของภูมิภาคตะวันออกกลาง
ด้วยการกระจายเศรษฐกิจที่หลากหลาย
ในปี 2019 รัฐดูไบมี GDP 3.5 ล้านล้านบาท
เมื่อหารด้วยประชากร จะทำให้ชาวดูไบมี GDP ต่อหัว 1,029,000 บาทต่อปี
ถึงแม้ว่าดูไบจะมี GDP ต่อหัวน้อยกว่ารัฐอื่น ๆ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
หรือประเทศใกล้เคียงที่มีรายได้หลักมาจากการขายน้ำมัน
แต่รู้ไหมว่าสัดส่วนจากการขายน้ำมันของดูไบ มีน้อยกว่า 1% ของ GDP มาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว
ดูไบเติบโตมาถึงวันนี้ได้ ด้วยการมีทรัพยากรอย่างน้ำมันเป็นส่วนผลักดัน แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดเพราะดูไบมองเห็นข้อจำกัดของตัวเอง และมองเห็นศักยภาพที่จะพัฒนาต่อยอดมาจากจุดนั้น
การมีทำเลที่ดี พัฒนามาสู่การสร้างท่าเรือ เป็นศูนย์กลางขนส่งทางเรือ ทางอากาศ
ต่อยอดเป็นศูนย์กลางการค้าเพชร การเงิน การท่องเที่ยว และบริการทางการแพทย์
เรียกได้ว่า ดูไบ ค่อย ๆ สร้างสิ่งที่ตัวเองยังไม่มี แต่สามารถทำให้ได้เปรียบกว่าคนอื่น
จนในวันนี้ เรียกได้ว่า คนทั้งโลกน้อยคนที่จะไม่รู้จักดูไบ
และในปี 2021 ดูไบก็จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo ในเดือนตุลาคม
โดยได้ระดมฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กับทั้งชาวเมืองและแรงงานต่างชาติ
เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับผู้มาร่วมงานจากทั่วโลก
และในอนาคตอันใกล้ เราอาจเห็นดูไบ เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมอื่น ๆ อีกก็เป็นได้
ซึ่งมันก็คงทำให้เราเห็นได้ว่า เงินมหาศาลจากการขายน้ำมัน อาจเนรมิตให้เงินเข้าประเทศได้ในระยะสั้น
แต่ในระยะยาวแล้ว สิ่งที่จะทำให้ประเทศเจริญได้อย่างยั่งยืน ก็คือ “วิสัยทัศน์”..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.weforum.org/agenda/2019/11/dubai-uae-transformation/
-https://www.dsc.gov.ae/Report/الناتج%20المحلي%20الاجمالي%20بالاسعار%20الثابتة%202019.pdf
-https://www.dsc.gov.ae/Report/DSC_SYB_2019_01%20_%2003.pdf
-https://edition.cnn.com/2019/12/19/business/dubai-diamond-exchange/index.html
-https://healthmanagement.org/c/healthmanagement/issuearticle/dubai-global-healthcare-hub
-https://www.arabianbusiness.com/healthcare/451472-how-dubai-compares-globally-as-medical-tourism-hub
-https://assets.website-files.com/5d8aac42c851d2d6528d50d4/5f0df13e57906e9f895e3767_2020-2021%20Medical%20Tourism%20Index%20Overall%20Ranking.pdf
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
medical tourism index 在 Hamka (Kereta Mayat) Facebook 的最佳貼文
Kisah Laki Bini part 594
--------------------------
No 3 di dunia? wow! patutlah bini aku bersalin hari tu, masuk wad kelas 1, duduk seminggu, makan free hari hari, bilik ada aircond, masa nak bayar bil,....... 'menangis' tengok bil, tak sampai 50 ringgit?!. alhamdulillah.
so, Tahniah kepada kerajaan Malaysia bab perubatan, tapi bab sistem baru di sekolah (PBS), nampak macam banyak masalah jer, cuba up jadi no 3 juga macam kesihatan, adohai..
copy/paste:
"Malaysia has gained fame as a medical-tourism destination because its health care is among the world’s best—and cheapest. Medical expertise here is equal to or better than that in most Western countries. Malaysia comes in third in the health care category of the InternationalLiving.com annual Global Retirement Index 2014. Despite the low cost of health care in Malaysia, many expats do get private health insurance. There is a plethora of national insurers, with no one company being preferred—expats tend to shop around and look for the cheapest offer"
http://www.huffingtonpost.com/internationallivingcom/best-countries-for-health-care_b_4773837.html?fb_action_ids=695846760468284&fb_action_types=og.likes&fb_source=aggregation&fb_aggregation_id=288381481237582