ในการเขียนโปรแกรม true - false + true มีค่าเท่าไร 😲
.
สำหรับชนิดข้อมูล Boolean 🔥
(ฝรั่งออกเสียง 'บูเลียน' คนไทยเรียก 'บูลีน')
เราสามารถนำมากระทำกันทางคณิตศาสตร์ได้หรือไม่? 🤔
คำตอบก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้ภาษาอะไรเขียนโปรแกรม
.
.
👉 1.บางภาษาทำไม่ได้
เช่น ภาษา java ,c#, go, swift, kotlin เป็นต้น
ไม่สามารถเอา Boolean
มาคำนวณแบบคณิตศาสตร์ตรงๆ ทำไม่ได้
เกิด error
.
.
👉 2. แต่บางภาษาทำได้
เช่น ภาษา python, JavaScript, php, c++ เป็นต้น
โดย true เทียบเท่ากับ 1
false เทียบเท่ากับ 0
.
ดังนั้น true - false + false = 1 - 0 + 1
= 2
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
<ข่าวประชาสัมพันธ์ (ขายหนังสืออีบุ๊ก)/>
หนังสือ javascript มาตรฐาน ES6 ขึ้นไป
อ่านเป็นแบบ ebook อย่างเดียว
(ไม่มี pdf แจก ปรินต์ออกมาไม่ได้)
.
สั่งซื้อได้ที่ลิงก์นี้
👉 https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTcyNTQ4MyI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjE1Njg1NCI7fQ
.
ตัวอย่างหนังสือ
https://drive.google.com/file/d/1Nu6DUFf0q1TPXXnp8KEyXliLS7QGPM2_/view
.
+++++ ราคา ++++++++
ถ้าซื้อผ่าน Web,Android ราคาปกติ 295 บาท
ถ้าซื้อผ่าน Apple ราคาปกติ $10.99(฿329 บาท)
.
วิธีการซื้อ
1) สมัครเป็นสมาชิกเว็บ www.mebmarket.com ก่อน
2) ดาวน์โหลดแอพของ meb ค้นหาชื่อ meb นี้แหละ
(ถ้าจะอ่านบน desktop ก็ดาวน์โหลดโปรแกรมาก่อน)
3) แล้วสั่งซื้อ โอนเงินก็ตามรายละเอียดที่เว็บแนะนำครับผม
4) จากนั้นก็ใช้โปรแกรม หรือแอพของ meb เปิดอ่านหนังสือครับผม
5) ถ้ามีปัญหาติดต่อทางทีม support@mebmarket.com เขาจะให้คำตอบคำผม
(พอดีฝากขายที่นี้ด้านเทคนิคพวกนี้ผมจะไม่รู้ครับ)
.
ถ้าเพื่อนๆ ที่อ่านหนังสือผ่านระบบ iOS
เวลาจะชำระเงิน ไม่ควรจ่ายผ่านบัตร
เพราะจะซื้อหนังสือแพงขึ้นครับ
.
แนะนำให้ชำระเงิน
- โดยให้เปิดเว็บ https://www.mebmarket.com
- แล้ว login ด้วย username เดียวกับที่เราใช้ใน app บน iOS
- หลังจากนั้นก็เลือกซื้อหนังสือปกติ
.
ซื้อเสร็จแล้วมันจะไปโผล่ใน app บน iOS
จากนั้นเพื่อนสามารถเข้าใช้งานด้วย username และ password อันเดียวกันกับหน้าเว็บเลยครับ
จะซื้อได้ในราคาที่เห็นตามเว็บนี้ (ไม่แพง)
.
.
สำหรับวิธีอ่านอีบุ๊กเล่มนี้
ก็ต้องเลือกโปรแกรม/แอพ ให้เหมาะกับระบบที่เราใช้อยู่
วิธีอ่านอีบุ๊กก็ตามลิงก์ต่อไปนี้
https://docs.google.com/document/d/e/2PACX-1vSI4hZgymHgbqhX3CA6anA_18wRy-iXU9oIlupUr-KwAWvJyxI9zdLrJcPUW77xz8lbvRFfW10747Oe/pub
.
✍ เขียนโดย โปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
.
.
.
.
.
.
.
.
「kotlin apple」的推薦目錄:
- 關於kotlin apple 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的最佳解答
- 關於kotlin apple 在 BorntoDev Facebook 的精選貼文
- 關於kotlin apple 在 BorntoDev Facebook 的最讚貼文
- 關於kotlin apple 在 kotlin-native-shared/Apple.kt at master · JetBrains ... - GitHub 的評價
- 關於kotlin apple 在 Use Apple dependencies, more specifically SwiftUI, from ... 的評價
- 關於kotlin apple 在 Apple Treats – episode 19: Kotlin Multiplatform Mobile 的評價
- 關於kotlin apple 在 Add Apple Combine Framework platform lib #4014 的評價
- 關於kotlin apple 在 From Kotlin to Native: Or how Kotlin concepts are mapped to ... 的評價
kotlin apple 在 BorntoDev Facebook 的精選貼文
⚡ "อย่าเพิ่งเริ่มต้นเขียนโปรแกรม ถ้าไม่รู้ว่าภาษาไหนแตกต่างกันยังไง !?"
.
เพราะเอาจริง ๆ แล้ว แอดบอกเลยว่า "ภาษาแรกที่เราเลือกเขียนนั้น จะเป็นตัวกำหนดชีวิตเราไปอีกยาว ๆ"
.
ถามว่าทำไมเป็นแบบนั้น ก็เพราะว่า "ถ้าเราไปหยิบภาษาที่เข้าใจยาก หรือ ดูแล้วมีความซับซ้อนสุด ๆ มันอาจทำให้เราทิ้งการเขียนโปรแกรมไปเลยก็ได้นั่นเอง"
.
ดังนั้นในวันนี้ แอดได้รวมเด็ด 7 ภาษา ที่มี 7 สไตล์แตกต่างกันมาให้ทุกคนดู และ พิจารณากันว่า เราควรเริ่มจากตัวไหน หรือ ตัวไหนเหมาะกับเรานั่นเอง !!
.
พร้อมแล้ว มาดูกันเลย !
.
✅ ภาษา Python เป็นภาษาที่ทุกคนขนานนามว่า เข้าใจง่ายที่สุดหนึ่งภาษา แม้ว่ารูปแบบการเขียนจะแตกต่างกับพวก C, C++ โดยสิ้นเชิง
.
การเริ่มต้นที่ภาษานี้ทำให้เราเข้าใจ Concept ของการเขียนโปรแกรม หรือ เน้นไปที่กระบวนการคิดได้ง่าย แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่ ถ้าเริ่มจากจุดนี้แล้วจะกระโดดไปเขียนตระกูล C หรือ Java อาจมีความสับสนในใจได้นั่นเอง
.
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็แค่ช่วงแรกเท่านั้นแหละ ถ้าเรามีทักษะกระบวนการคิดที่ได้จาก Python แล้ว ภาษาไหน ๆ ก็เขียนได้ แค่อาจต้องปรับตัวตอนแรกเท่านั้น
.
สำหรับ Python นั้นเหมาะกับใครที่อยากเริ่มต้นเขียนโปรแกรม เข้าใจ Concept การคิด แก้ไขปัญหา จนถึง การประยุกต์เป็นการวิเคราะห์ข้อมูล ระบบปัญญาประดิษฐ์ พัฒนาเว็บไซต์ และ แอปพลิเคชัน เพราะ Python นี้เขาครบเครื่องจริง ๆ
.
✅ ภาษา C เป็นภาษาสุดคลาสิค ที่จะได้เรียนรู้วิธีการเขียน และ การจัดการภายในของโปรแกรมจริง ๆ เพราะ เครื่องมือหลาย ๆ อย่างไม่ได้ถูกสร้างติดมาด้วยเหมือนกับ Python
.
ดังนั้นเนื่องจากเป็นภาษาที่ลงไปให้เราเข้าใจได้ในระดับนั้น ทำให้ผู้ที่ลุยภาษา C มาก่อนจนเชี่ยวชาญ จะค่อนข้างมีความรู้ลึกในหลักการทำงานภายในมากกว่าภาษาอื่น ๆ นั่นเอง
.
การเรียนรู้ภาษา C นี้ เหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่อยากจัดการลงลึก เช่น การพัฒนา Hardware, ระบบ IoT ที่มีทรัพยากรให้ใช้อย่างจำกัด (RAM อาจอยู่ในหลัก กิโลไบต์ หรือ Megabyte เท่านั้น) ซึ่งปัจจุบันก็นิยมใช้กันมาก
.
✅ ต่อมาแบบไว ๆ กับภาษา C# ที่ถูกพัฒนามาจากภาษา C และ นำข้อดีของ Java มารวมกัน เป็นหนึ่งภาษาที่แอดคิดว่าเขียนง่ายมาก ๆ
.
(ง่ายกว่า C ประมาณ 100 เท่าเลยหละ 5555)
.
เหมาะกับใครที่อยากพัฒนางานฝั่ง Microsoft เช่น Windows Application จนไปถึงพัฒนาเว็บไซต์ ASP.NET ที่เป็นเว็บแอปขนาดใหญ่ก็ยังได้ด้วย
.
แถมเขายังจัดการเรื่องความปลอดภัยให้เราอีกด้วยนะ
.
✅ มาอยู่ที่ภาษา C++ (อ่านว่า ซี พลัส พลัส ไม่ใช่ซี บวก บวก นะ 555) โดยตัวนี้จะเป็นภาษาที่ต่อยอดมาจาก C เพิ่มฟังก์ชันในการทำงานมากขึ้น
.
รวมถึงปรับประสิทธิภาพให้แจ่มแมวมาก ๆ รองรับการเขียนโปรแกรมที่มีขนาดใหญ่กว่าได้สบาย ๆ หรือ Concept การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุก็ใช้ได้แบบชิว ๆ แต่ถ้าภาษา C เดิม ๆ จะทำตรงนี้ไม่ได้จ้า
.
งานที่ใช้จริง ๆ ก็จะคล้าย ๆ กับภาษา C ที่พบได้บ่อยในการทำอุปกรณ์ไฮเทค IoT ต่าง ๆ จนถึงหุ่นยนต์ และ การจัดการฐานข้อมูล หรือ โปรแกรมที่เน้น Performance ภาษานี้ก็มักจะเป็นตัวเลือกที่คนยังใช้กันอยู่จ้า <3
.
✅ ต่อมาภาษา Java ที่เคลมว่า มีนักพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษานี้กว่า 12 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงมีอุปกรณ์กว่า 3 พันล้านชิ้นบนโลกที่ใช้ Java
.
ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, Printer, Router, โทรศัพท์มือถือ และ อื่น ๆ อีกเพียบบบ
.
เป็นหนึ่งในภาษาที่ Never Die และ จะไม่ตายในเร็ว ๆ นี้แน่ ๆ อยู่ยงคงกระพันจัด ๆ พร้อม Library ให้เราใช้ไม่อั้น
.
ไม่ว่าจะทำเว็บ ทำแอป ทำอุปกรณ์ IoT จนไปถึง หุ่นยนต์ Cloud Service ต่าง ๆ ก็รองรับ Java ทั้งนั้นเลย
.
แต่พูดถึงข้อดี ก็จะไม่พูดอีกด้านไม่ได้ นั่นก็คือ ความยาวของ Syntax หรือ ความซ้ำซ้อน ซับซ้อนในบางจุดมีค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับ Python หรือ Kotlin ภาษาใหม่ที่ลดข้อจำกัดเดิม ๆ ของ Java นั่นเอง
.
(แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แอดว่าก็ยังง่ายกว่า C เยอะะะะะะะ !)
.
✅ ก่อนสุดท้ายกับ JavaScript หนึ่งในภาษาที่แต่ก่อนจะใช้แค่ในส่วนหน้าแสดงผลของเว็บไซต์เท่านั้น แต่ปัจจุบัน นางไปอยู่ในทุกที่จ้าาาาาา
.
เดี๋ยววว แอดลืมบอกไปว่า เจ้า JavaScript กับ Java เนี้ย มันคือคนละตัวกันเลยนะะ ! อารมณ์แบบ คำว่า "คนจีน" กับ "ขนมจีน" อะ คนละเรื่องกันเลย 5555
.
โดยปัจจุบัน JavaScript ได้รับความนิยมขึ้นเพราะคนหันมาใช้ในฝั่ง Server ที่ประมวลผลงานให้เราได้นั่นเอง
.
แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการก็คือ บางอย่างใน JavaScript มันมีความประหลาดในตัวมันอยู่ จนบางคนอาจบอกว่ามันคือฝันร้ายนั่นเอง 5555
.
แต่ถ้าเราเขียนได้ และ ทำได้ดี สามารถต่อยอดเป็น TypeScript และ หาโอกาสดี ๆ ได้เพียบเลยนะจะบอกให้ !!
.
✅ ปิดท้ายกับ Swift ภาษานี้ส่วนใหญ่แล้วเราจะพบในสาย Apple เป็นหลัก เพราะเขาสามารถสร้างได้ทั้งแอปบน iOS, macOS, iPadOS หรือ ระบบที่อยู่ในนาฬิกาอัจฉริยะของ Apple ได้อีกด้วย
.
ภาษานี้ส่วนใหญ่จะใช้ได้ดี และ ทำงานจริงจังสำหรับคนมี Mac เท่านั้น แต่โดยรวมแอดชอบความรู้สึกในการเขียนภาษานี้นะ ดูเป็นมิตรกับทุกคนดี ระดับประมาณ Python เลยนั่นเอง <3
.
ทั้งนี้ทั้งนั้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน หนึ่งข้อที่สำคัญที่สุดเมื่อเลือกภาษาโปรแกรมแล้วคืออะไรรู้ไหมมมมมมมมม ?
.
มันก็คือ เราต้องฝึกฝน ฝึกแก้ไขปัญหา (ภาษาทางการเรียก Problem Solving) อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง 🏆
.
"เพราะการเขียนโปรแกรมไม่ใช่แค่นั่งอ่าน นั่งฟังแล้วจะทำได้ แต่ต้องอาศัยการฝึกฝนด้วยยย !"
.
ดังนั้นเมื่อเราอยากลงมือทำแล้ว ก็ลุยให้เต็มที่ หาโจทย์ทั้งรูปแบบวัด Logic มาลองทำ หรือ ลองสร้างโปรเจคง่าย ๆ ของตัวเอง โดยเริ่มจากของง่าย ๆ ไปหายากเรื่อย ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ดีไม่แพ้กัน
.
🔥 ส่วนใครที่อยากฝึกสกิลด้าน Logic ในการเขียนโค้ด แบบฟรี ๆ แอดแนะนำเข้ามาที่นี่ได้เลย มีเพื่อนให้แข่งเป็นพัน มีโจทย์ให้เล่นเป็นร้อยยย >>
.
https://www.borntodev.com/intro-devlab-3-pro/
.
ปล.สำหรับใครมีอะไรจะแนะนำมือใหม่ที่เข้ามาอ่าน มาแชร์ความเห็นไปพร้อมกันได้เลยนะคร้าบบ > <
.
#borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
kotlin apple 在 BorntoDev Facebook 的最讚貼文
🔥 "หากอยากจะศึกษาภาษาเขียนโปรแกรมซัก 1 ภาษา เราจะเลือกภาษาไหนดีนะ !?"
.
วันนี้แอดเอางานสำรวจจาก IEEE ที่รวบรวมรายชื่อ Programming Language ที่มาแรง เรียกได้ว่าใครอยากเข้าบริษัทระดับโลก ที่อยู่ใน Fortune 500 จะต้องรีบศึกษา !!
.
ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูไปพร้อมกันเลยย <3
.
👉 1. Python ภาษาที่ควรเรียนรู้ และ ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นทำได้ทั้ง Web App, Desktop App, Network และ Data Science
.
👉 2. Kotlin ภาษาที่ถูกออกแบบมาใหม่ และ ลบข้อเสียของ Java เดิม ๆ รองรับการพัฒนา Android App แบบเต็มตัว
.
👉 3. Java หนึ่งในภาษาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก ทำงานบน Server-Side ได้สบาย ๆ และ เป็นภาษาที่ 90% ของบริษัทระดับโลกใน Fortune 500 เลือกใช้งาน
.
👉 4. JavaScript / NodeJS แม้ว่า NodeJS จะไม่ใช่ภาษาตรง ๆ แต่มันทำให้ JavaScript กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ดังนั้นแล้วปัจจุบันภาษา JavaScript ถูกพูดถึงในวงการเป็นอย่างมาก ทั้งบน Server-Side และ Client-Side
.
👉 5. TypeScript หลายคนบอก JavaScript มันวุ่นวาย ดังนั้น TypeScript ตัวนี้จะมาช่วยพวกเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ OOP และ ทำงานกับ JS เดิมได้แบบไร้รอยต่อ
.
👉 6. Go หนึ่งในภาษาใหม่มาแรงในปัจจุบัน รองรับการเขียนแบบ Functional Programming ที่กำลังฮิต
.
👉 7. Swift ภาษาที่ถูกพัฒนาโดย Apple ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Python และ Ruby ทำงานได้เร็ว ปลอดภัย แถมยังเรียนรู้ง่ายอีกตะหาก !
.
"เรียกได้ว่าภาษาเหล่านี้เหมาะจัด ๆ สำหรับใครกำลังมองหาอยู่ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แต่แอดแนะนำว่า .. ถ้าพื้นฐานเราแน่นซักภาษาแล้ว การกระโดดไปภาษาอื่น ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป"
.
ดังนั้นนน อย่าเรียนรู้แค่ฉาบฉวย แบบสร้างได้ แต่ไม่รู้ที่มาที่ไป เพราะมันจะทำให้เราติดกับดักในการพัฒนาสกิลได้นะคร้าบบ <3
.
#borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
kotlin apple 在 Apple Treats – episode 19: Kotlin Multiplatform Mobile 的推薦與評價

Apple Treats talks ... Kotlin?.. Yes. Kotlin Multiplatform Mobile got some updates recently. We're discussing ... ... <看更多>
kotlin apple 在 kotlin-native-shared/Apple.kt at master · JetBrains ... - GitHub 的推薦與評價
Copyright 2010-2018 JetBrains s.r.o.. *. * Licensed under the Apache License, Version 2.0 (the "License");. * you may not use this file except in compliance ... ... <看更多>