關於 isofix nissan ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

2010 Nissan Teana 2.0 TB

2SRS ABS ISOFIX 恆溫 IKEY 倒車影像

里程14萬KM 佐證附上 大保完成交車

2X萬意者留言小編私您

2010 Nissan Teana 2.5 LD

新車價格等級96.8萬規格參考如下:
https://reurl.cc/k07l99

2SRS ABS 恆溫 影音 IKEY 定速 ISOFIX

里程11萬KM 佐證附上 大保完成交車

2X萬意者留言小編私您

2011 Nissan Teana 2.5 LG

新車等級112.9萬規格參考如下:
https://reurl.cc/9XodV8

6SRS ABS 防滑 全景天窗 恆溫 影音 IKEY ISOFIX 定速

里程13.4萬KM 佐證附上 大保完成交車

3X萬意者留言小編私您

รีวิว 2017 Nissan Note 1.2 VL (นิสสัน โน้ต / โน๊ต) ราคา 6.40 แสนบาท

นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัว Nissan Note รถยนต์นั่งอีโคคาร์ เฟสหนึ่ง รุ่นที่ 3 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ต่อจาก Nissan March และ Nissan Almera โดยชูจุดขายด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่อัดแน่นมาใน Note โฉมใหม่ ภายใต้แนวคิดนวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะ หรือ Nissan Intelligent Mobility โดยยังยืนยันทำตลาด Nissan March ต่อไป ใน 3 รุ่นล่าง

Nissan Note มาพร้อมรูปทรงแฮชท์แบ็ค ที่ได้รับการพัฒนาทั้งในด้านดีไซน์ ความสะดวกสบาย สมรรถนะและความปลอดภัยสูงสุด สามารถตอบสนองความสนุกสนานในการขับขี่ ความคล่องตัวในการใช้งาน รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือในด้านการขับขี่ต่างๆ โดย Nissan Note ใหม่ มีมิติตัวถัง คือ ยาว 4,105 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,535 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,600 มม. ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,480 มม. คู่หลัง 1,485 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 155 มม. มาพร้อมรัศมีวงเลี้ยว 5.2 เมตร และพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมระบบเพาเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า ช่วยให้รถมีความคล่องตัวในทุกสภาพเส้นทาง Nissan Note มาพร้อมระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบคัน เพื่อช่วยตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน โดยแสดงผลที่กระจกมองหลัง มาพร้อมระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า ที่ทำงานร่วมกับระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน และเหนือกว่า ด้วยระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง

การออกแบบภายนอก เน้นเส้นสายให้ดูโดดเด่น ด้วยกระจังหน้าแบบ V-Motion ช่องกันชนด้านล่างแบบโครเมียม โคมไฟหน้าแบบแอลอีดี โปรเจกเตอร์ พร้อมแอลอีดี ซิกเนเจอร์ ไลท์และไฟตัดหมอกคู่หน้า มีการออกแบบเส้นสายด้านข้างให้ได้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียง 0.30 เท่านั้น มือจับประตูแบบโครเมียม กระจกข้างสีเดียวกับตัวรถ ติดตั้งไฟเลี้ยวบนฝาครอบกระจก มาพร้อมสปอยเลอร์ที่ด้านหลังในรุ่น VL ไฟท้ายแอลอีดีทรงบูมเมอแรง พร้อมไฟเบรกแบบแอลอีดี ทั้งหมดนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของ Note มีความทันสมัยและโดดเด่นบนท้องถนน

ห้องโดยสารภายในได้ถูกออกแบบให้มีความกว้างขวาง สวยงาม พร้อมสรรพด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย มากด้วยประโยชน์ใช้สอย เน้นโทนสีดำและตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน พวงมาลัยรูปทรงสปอร์ต ปรับสูงต่ำได้ โดยรุ่นวีแอลเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถควบคุมระบบการทำงานของเครื่องเสียงและระบบเชื่อมต่ออื่นๆได้ มาตรวัดเรืองแสงอัจฉริยะมัลติฟังก์ชัน ดิสเพลย์แสดงข้อมูลการขับขี่ แสดงระยะการเข้ารับบริการ อุณหภูมิภายนอก นาฬิกาดิจิทัล เสียงสัญญาณเตือนเมื่อลืมปิดไฟหน้า ระบบเตือนเมื่อลืมกุญแจ มาพร้อมระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง และที่ปัดน้ำฝนด้านหลังแบบหน่วงเวลา ระบบไล่ฝ้ากระจกหลังแบบตั้งเวลา เบาะผ้าสีดำตกแต่งขอบด้วยสีเบจ สวยงาม และกระชับลำตัว ช่วยให้นั่งสบายและเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมรถมากยิ่งขึ้น โดยเบาะด้านผู้ขับขี่สามารถปรับสูง–ต่ำ ให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่แต่ละคน พร้อมช่องเก็บของด้านหลังเบาะ ประตูผู้โดยสารด้านหลังเปิดได้กว้างถึง 85 องศา สะดวกในการเข้าออก และการยกสัมภาระขนาดใหญ่

นอกจากนี้ Nissan Note ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบเหนือชั้นมากมาย ด้วยโครงสร้างตัวถังเป็นแบบ Zone Body Concept ที่ช่วยกระจายแรงกระแทกในกรณีเกิดอุบัติเหตุ, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด ดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ปรับสูง-ต่ำได้ ด้านหลังเป็นแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง, จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กแบบ ISOFIX, ระบบป้องกันเด็กเปิดประตูจากในรถ, ระบบเบรค ABS, ระบบกระจายแรงเบรค EBD, ระบบเสริมแรงเบรค BA, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ VDC, ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA และไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED เบรกหน้าเป็นแบบดิสค์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อน ด้านหลังเป็นดรัมเบรก

Nissan Note ยังคงใช้เครื่องยนต์ของอีโคคาร์ เฟสหนึ่งอย่างเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ แถวเรียง 12 วาล์ว ขนาด 1,198 ซีซี รหัส HR12DE พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CVTC ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน–เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันด้วยระบบ Idling Stop ตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง ส่งกำลังด้วยเกียร์ XTRONIC CVT พร้อมฟังก์ชั่น D-Step Logic มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัม/กิโลเมตร ตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษ Euro 4

Nissan Note มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง เรเดียน เรด, สีชมพู สวีท พิงค์, สีม่วง พลัม, สีขาว ไวท์ เพิร์ล, สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ และสีดำ แบล็ค สตาร์ โดย Nissan Note มี 2 รุ่นย่อย ให้เลือก โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้ Nissan Note รุ่น 1.2 V จำหน่ายในราคา 5.68 แสนบาท Nissan Note รุ่น 1.2 VL จำหน่ายในราคา 6.40 แสนบาท นอกจากนี้ Nissan ยังเปิดเผยอีกว่า บริษัทได้ปรับแผนการจำหน่าย Nissan March ลงเหลือเพียง 3 รุ่นล่าง เพื่อเปิดทางให้ Note เข้ามาชดเชยตำแหน่งสินค้าที่ว่างลงไป

นิสสันจะเปิดให้จอง Nissan Note ตั้งแต่วันนี้ พร้อมส่งมอบรถในวันที่ 17 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป โดยมีโปรโมทชั่นคือดอกเบี้ย 1.69% สำหรับผู้ที่จองรถ 2,017 ท่านแรก

ส่วนลูกค้านิสสันเดิม ที่ได้รับรหัสสิทธิพิเศษจากนิสสัน สามารถมาแสดงตนเพื่อรับสิทธิพิเศษส่วนลด 20,000 บาท ในขณะที่บุคคลทั่วไปสามารถลงทะเบียนขอรับรหัสสิทธิพิเศษผ่านช่องทางสื่อสารต่างๆของนิสสัน โดยจะสงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่จองรถตั้งแต่ 17 มกราคม – 15 มีนาคม 2560 และรับรถภายใน 31 มีนาคม 2560 เท่านั้น

กด subscribe ติดตามทาง youtube ช่วยแชร์ด้วยบอกต่อเล่าต่อ เขียน comment บ้าง

ชมภายใน 1:42 ชมห้องสัมภาระ 6:40 ชมไฟหน้า 9:57 ชมเครื่องยนต์ 10:43 ชมสีตัวถัง 11:07 นิสสัน โน๊ต ได้เปิดตัวในประเทศไทยไปในวันที่ 17 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา โดยเปิดตัวในรูปแบบไมเนอร์เชนจ์แบบที่เพิ่งเปิดตัวไปในญี่ปุ่นเมื่อปลายปีที่แล้ว โดย Nissan Note ในตลาดโลกถูกสร้างมาเพื่อประกบกับ Honda Fit หรือ Jazz โดยเฉพาะ ดังนั้นขนาดตัวรถจึงค่อนข้างใหญ่กว่า March โดยจุดเด่นของ Note จะอยู่ที่ระบบความปลอดภัยที่ให้มาเยอะมาก(เยอะกว่ารถราคาแพงๆหลายคันที่ราคาเกินล้าน) เช่น ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ(อันนี้ Attrage และ Mirage ก็มี) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ระบบตรวจจับวัตถุและบุคคลรอบคัน โดยระบบที่กล่าวมาทั้งหมดจะมีเฉพาะรุ่น VL เท่านั้น ส่วน ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS จะได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน Note จะมีเพียง 2 รุ่นเท่านั้น และทุกรุ่นจะใช้เครื่องยนต์เดิมจาก March และ Almera คือเครื่อง 1.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ถูกปรับปรุงใหม่ โดยจะสามารถไล่รอบได้(D-Step Logic) มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น 1.2 V CVT 568,000 บาท 1.2 VL CVT 640,000 บาท อ๊อฟชั่นต่างๆของรุ่น 1.2 VL CVT. ภายนอก - ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED พร้อมไฟ LED Signature Light - ไฟตัดหมอกคู่หน้า - สปอยเลอร์หลัง - สวิตซ์ปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ - ไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟหรี่ LED Signature Light - กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัว และพับเก็บไฟฟ้า - กระจังหน้า แบบโครเมียม - คิ้วฝากระโปรงท้าย แบบโครเมียม - มือจับประตูด้านนอก โครเมียม - ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา - ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลัง - ไฟเบรกดวงที่ 3 - สปอยเลอร์หลัง ภายใน - ระบบกุญแจ Intelligent Key - ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button - แผงแดชบอร์ดกลาง ตกแต่งด้วยวัสดุ สีดำ Piano Black - เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าสีดำ แต่งขอบด้วยสีเบจ - เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง - เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ - ระบบปรับอากาศแบบ อัตโนมัติ - พวงมาลัยปรับระดับได้ 2 ทิศทาง - สวิตช์ควบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย - ช่องจ่ายไฟสำรองด้านหน้า 1 ตำแหน่ง - กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า - กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ - แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิด ด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า - จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX - หน้าจอแสดงภาพ ที่กระจกมองหลัง - เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40 ระบบเครื่องเสียง - เครื่องเสียง หน้าจอ Touchscreen แบบสี LED ขนาด 7 นิ้ว - ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth - ช่องเชื่อมต่อ USB - ช่องเชื่อม HDMI - ลำโพง 4 ตำแหน่ง ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือต่างๆ - ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง - ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS - ระบบกระจายแรงเบรก EBD - ระบบเสริมแรงเบรก BA - ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC - ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA - ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning - ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking ทั้งยานยนต์ และ บุคคล Pedestrian - ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning - กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา Around View Monitor - ระบบตรวจจับวัตถุและบุคคลรอบคัน Moving Object Detection มีสีด้วยกันทั้งหมด 6 สี - สีขาว White Pearl - สีดำ Black Star - สีเงิน Brilliant Silver - สีแดง Radiant Red - สีชมพู Sweet Pink - สีม่วง Plum สเป็กเครื่องยนต์. HR12DE 1.2L DOHC CVTC 16 วาล์ว 3 สูบ อัตราส่วนกำลังอัด. 10.2 : 1 ประเภทเชื้อเพลิง. เบนซิล แรงม้าสูงสุด 79 แรงม้า(PS) / 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร / 4,400 รอบต่อนาที ระบบเกียร์. CVT ลองรับน้ำมันสูงสุด. E20 ระบบการขับเคลื่อน. ล้อหน้า

สนใจติดต่อ บริษัท สุราษฏร์ปิยะ สาขานครศรีธรรมราช
คลอง ศาลา มี ชัย, ตำบล นาสาร อำเภอ พระพรหม นครศรีธรรมราช 80000

โทร. 081 116 4718 (คุณ แดง) การขาย

นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดตัว Nissan Navara Black Edition รุ่นใหม่ล่าสุด อย่างเป็นทางการ ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 38 โดย Nissan มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่กำลังมองหากระบะพันธุ์แกร่ง ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่เหนือกว่า ทั้งภายในและภายนอก พร้อมเติมความโดดเด่นและดุดันยิ่งขึ้น ด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคัน โดย Nissan จะเริ่มจำหน่าย Nissan Navara Black Edition รุ่นใหม่ อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 เมษายน 2560 นี้

Navara เป็นรถกระบะปิกอัพที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนับตั้งแต่การแนะนำเจนเนอเรชั่นที่ 3 ในปี 2557 โดยมีการส่งออกไปกว่า 105 ประเทศทั่วโลก และเป็นรถที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคนี้ ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดของ Nissan สำหรับ ตลาดในประเทศไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย รวมถึงได้รับการพิสูจน์ถึงสมรรถนะรอบด้านพร้อมรูปโฉมที่โดดเด่นจากรางวัลรถกระบะยอดเยี่ยมของ JD Power ในระดับนานาชาติ และรางวัล APEAL

นิสสัน นาวาร่า แบล็ค อีดิชั่น ใหม่ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผันขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงสูงสุด 403 นิวตันเมตร มาพร้อมชุดแต่งดุดันรอบคัน โดยใช้สีดำสะท้อนความเป็น Black Edition ในส่วนของ ไฟหน้าแบบ LED กระจังหน้า กรอบไฟตัดหมอก กระจกมองข้าง มือจับประตู บันไดข้าง กันชนหลัง ซึ่งล้วนแต่เป็๋นสีดำทั้งหมด โดย เสาอากาศแบบ Shark Fin สีดำ จะมีเฉพาะในรุ่น Double Cab

เสริมบุคลิกเฉพาะตัวที่ด้านข้าง ด้วยลวดลายกราฟิตี้ดีไซน์สีดำพร้อมสัญลักษณ์ Black Edition แกร่งเข้มเฉพาะตัวด้วยล้ออัลลอยด์สีดำขนาด 18 นิ้ว ชุดแต่งซุ้มล้อสีดำขนาดใหญ่ พร้อมตอบสนองให้เจ้าของลุยไปได้ทุกที่ ด้วยช่วงล่างที่ใช้แชสซีส์เหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน เป็นจุดเด่นที่ผู้ใช้ทั่วโลกต่างยอมรับในความแข็งแกร่ง ทนทาน พร้อมฟังก์ชั่นควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Navara Black Edition ทุกรุ่น

พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) พร้อมเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป (LSD) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) จุดยึดที่นั่งเด็กสำหรับเบาะหลัง ISOFIX และถุงลมนิรภัย 3 จุดคู่หน้าและใต้เข่าคนขับ

Nissan Navara Black Edition มีให้เลือกทั้งแบบ King Cap และ Double Cap มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีแดง เบิร์นนิ่ง เรด, สีส้ม สะวันนา ออเรนจ์, สีขาว ไวท์ เพิร์ล (เพิ่มเงินอีก 6,542 บาท) และสีดำ แบล็ค สตาร์ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

Nissan Navara Black Edition King Cab Calibre E เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 786,000 บาท
Nissan Navara Black Edition Double Cab Calibre E เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 859,500 บาท
และ Nissan Navara Black Edition Double Cab Calibre EL เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ราคา 918,000 บาท

โดย Nissan ได้จัดแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และฟรี ค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร