ASUS ExpertBook ที่สุดแห่งโน้ตบุ๊กพรีเมียม สำหรับมือโปร ที่น่าลงทุน
ASUS Thailand x ลงทุนแมน
“สเปกดี ทนทาน รูปทรงสวย พกพาง่าย แบตเตอรี่อึด ฟังก์ชันครบ คุ้มค่า”
นี่คงเป็นคุณสมบัติของ โน้ตบุ๊กระดับโปร
ที่คนระดับนักธุรกิจ ผู้บริหาร หรือแม้แต่คนทำงานทั่วไปต่างมองหา
ซึ่งคุณสมบัติที่ครบ จบ ในเครื่องเดียวแบบนี้
ถูกรวมไว้หมดแล้วใน “ASUS ExpertBook B9400”
มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ในตัวโน้ตบุ๊กรุ่นนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
สโลแกนของ ASUS ExpertBook B9400 คือ “The master of lightness and power” สะท้อนว่า ทีเด็ดของโน้ตบุ๊กระดับโปรรุ่นนี้ คือความบางเบา และขุมพลังงานแห่งการใช้งานที่เต็มเปี่ยม
มาเริ่มกันที่จุดเด่นเรื่องความบางและเบา ASUS ExpertBook B9400 คือมีน้ำหนักแค่ 1.005 กิโลกรัมเท่านั้น
เรียกได้ว่าผู้บริหารหรือใครที่ต้องเดินทาง ไปทำงานนอกสถานที่ ไปเจอลูกค้า เจอพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจบ่อย ๆ ก็พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ถือด้วยมือเดียวแบบสบาย ๆ เนื่องจากวัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะผสมแมกนีเซียม-ลิเทียม ที่เด่นเรื่องน้ำหนักเบา แต่แข็งแรงทนทาน
ที่น่าสนใจคือ ตัวเครื่องของ ASUS ExpertBook B9400 มีขนาดเท่า ๆ กับโน้ตบุ๊ก 13 นิ้ว ทั่วไป แต่ในส่วนจอแสดงผลเป็นจอขนาด 14 นิ้ว
หมายความว่า ระยะขอบของตัวเครื่องบริเวณจอแสดงผลนั้นบางมาก ทำให้ภาพลักษณ์นั้นดูพรีเมียม
และสำหรับคนที่ต้องออกไปเจอลูกค้าหรือพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ ยาวนานตลอดทั้งวัน ASUS ExpertBook B9400 ก็ตอบโจทย์ เพราะหากชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 20 ชั่วโมง
นอกจากนั้น ASUS ExpertBook B9400 ยังมีฟังก์ชันชาร์จเร็ว จากแบตเตอรี่ 1% ถึง 60% ใช้เวลาไม่ถึง 50 นาทีเท่านั้น
สำหรับใครที่กังวลว่า โน้ตบุ๊กเครื่องเล็ก ๆ แบบนี้ น่าจะไม่แข็งแรงทนทานหรือเปล่า ? ก็หมดกังวลได้เลย
เพราะ ASUS ExpertBook B9400 ผ่านมาตรฐานการทดสอบความทนทานระดับ Military Grade (MIL-STD 810H) ทั้งทนต่อการกดทับ แรงสั่นสะเทือน การกระแทก และการตกจากที่สูง
มาถึงไฮไลต์สำคัญคือ ASUS ExpertBook B9400 ได้รับการรับรองเครื่องหมาย “Intel® EVO™” ที่การันตีว่าโน้ตบุ๊กรุ่นนี้ มีประสิทธิภาพสูง และเหมาะกับการใช้งานรอบด้านอย่างแท้จริง
โดยโน้ตบุ๊กที่จะผ่านการรับรองมาตรฐาน จนได้เครื่องหมาย Intel® EVO™ จะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานหลายข้อของ Intel เช่น ต้องใช้โปรเซสเซอร์รุ่นที่ 11 ของ Intel พร้อมกราฟิก Intel® Iris Xe ที่รองรับการตัดต่อภาพถ่ายหรือวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งความน่าสนใจของ กราฟิก Intel® Iris Xe ก็อย่างเช่น
1. รองรับการใช้งานความละเอียดภาพระดับ 8K HDR 60FPS และ 4K HDR 120FPS
2. มี Intel® Quick Sync Video New AV1 Decoder ที่ช่วยเรื่องการตัดต่อและการสตรีมให้เร็วแรงยิ่งขึ้น เหมาะกับครีเอเตอร์ระดับมืออาชีพ
3. รองรับการต่อจอความละเอียดระดับ 4K ได้สูงสุดถึง 4 จอ
4. รองรับ Adaptive Sync
5. มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการทำงานเอนเตอร์เทนเมนต์ ไม่ว่าจะใช้ตัดต่อหรือเล่นเกม
นอกจากที่ว่ามา โน้ตบุ๊กที่ผ่านการรับรองจากแพลตฟอร์ม Intel® EVO™ จะต้องมีดีไซน์บางเบา แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 9 ชั่วโมงในการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง
และต้องสนับสนุนการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้น ทั้ง Wi-Fi 6 (เร็วกว่าเดิม 3 เท่า เมื่อเทียบกับ Wi-Fi 5) และ Thunderbolt 4 ที่สามารถรับส่งข้อมูลความเร็วสูงได้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งใน ASUS ExpertBook B9400 ใช้ระบบ Intel® Wi-Fi 6 ที่ให้การเชื่อมต่อแบบไร้สายทรงประสิทธิภาพมากที่สุด
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครัน
ทั้ง Thunderbolt™ 4 USB - Type C จำนวน 2 พอร์ต, HDMI 2.0, USB 3.2 Gen 2 Type A ซึ่งไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ในโน้ตบุ๊กเครื่องเล็ก ๆ และบางระดับนี้
และนอกจากนั้นยังมีพอร์ต Micro HDMI และ Adapter สำหรับต่อเชื่อมกับสาย LAN มาให้อีกด้วย
โดยสรุปแล้วสเปกการใช้งานในภาพรวม ของ ASUS ExpertBook B9400 คือ
- CPU เป็น Intel® Core™ i7 Gen 11 (i7-1165G7)
- ระบบประมวลผลกราฟิก Intel® Iris Xe Graphics
- RAM 16GB LPDDR4X on board
- Dual SSD สูงสุด 2TB
สรุปแบบง่าย ๆ ก็คือ สเปกการใช้งานในระดับนี้ใช้ทำงานทั่วไปได้แบบลื่นไหล นอกจากนั้นยังใช้ทำงานกราฟิก หรือแม้แต่เล่นเกมก็ยังได้
ทีนี้ลองมาดู ตัวอย่างฟังก์ชันการใช้งาน และลูกเล่นที่น่าสนใจของ ASUS ExpertBook B9400 เครื่องนี้กัน
ด้วยในยุคนี้ การประชุมผ่าน VDO Conference นั้นเพิ่มขึ้นมาก
แน่นอนว่าความราบรื่น ชัดเจน ของภาพและเสียงขณะประชุมนั้นเป็นเรื่องสำคัญ และมีผลต่อภาพลักษณ์และความเป็นมืออาชีพ
ASUS ExpertBook B9400 เครื่องนี้ จึงมีฟังก์ชัน ASUS AI Noise-Canceling Audio ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนทั้งขาเข้าและขาออก ให้เสียงที่ชัดเจน และสมบูรณ์แบบ
สำหรับคนที่ต้องทำงานเกี่ยวกับตัวเลขบ่อย ๆ โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ก็มี ASUS NumberPad ปุ่มกดตัวเลข LED บนพื้นที่ Touchpad มาตอบโจทย์
ที่น่าสนใจก็คือ ASUS Business Manager ชุดโปรแกรมสนับสนุนการบำรุงรักษาตัวเครื่องและซอฟต์แวร์ภายในเครื่อง ซึ่งโปรแกรมตัวนี้ตอบโจทย์คนทำงาน ที่ต้องการคำแนะนำ หรือวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับซอฟต์แวร์หรือตัวเครื่องในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน
โดยโปรแกรมนี้จะช่วยให้คำแนะนำได้ในเบื้องต้นทันที และมีระบบให้ช่างซอฟต์แวร์สามารถแก้ไขปัญหาให้เจ้าของเครื่องได้จากระยะไกล
อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพ โน้ตบุ๊คทุกวันนี้ก็คงเปรียบได้กับประเป๋าเอกสารสำคัญ ซึ่งด้านในเต็มไปด้วยเอกสารและข้อมูลสำคัญมากมายของบริษัท
เพราะฉะนั้น ASUS ExpertBook B9400 เครื่องนี้
ก็มีฟังก์ชันที่อัปเกรดความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ครบครัน ยกตัวอย่างเช่น
- Fingerprint Sensor ระบบยืนยันตัวตนด้วยการสแกนลายนิ้วมือ
- IR Camera ระบบยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า ที่ใช้งานได้แม้ในที่มืด
- Proximity Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับการใช้งาน ปลดล็อกเครื่องได้ไว และดูแลความปลอดภัยให้ตัวเครื่องตลอดเวลา
- Webcam Shield ฮาร์ดแวร์สำหรับเลื่อน เปิด-ปิด กล้องเว็บแคม เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว
ที่เซอร์ไพรส์อีกเรื่องก็คือ ตัวกล่องอุปกรณ์เสริมที่ให้มากับตัวเครื่อง มีการออกแบบให้สามารถนำมาใช้งานเป็นขาตั้งเครื่องได้
โดยตัวกล่องสามารถล็อกมุมทแยงกับตัวเครื่องขณะเปิดใช้งานได้พอดี ช่วยปรับองศาตัวเครื่องขณะพิมพ์หรือใช้งานให้สะดวกขึ้น ซึ่งช่วยให้นั่งทำงานถูกหลักสรีระได้
โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ จะได้รับการรับประกันจาก ASUS Exclusive Care ซึ่งประกอบด้วย
- บริการตรวจซ่อมฟรีถึงที่ 3 ปี
- ครอบคลุมการรับประกัน 3 ปีทั่วโลก
- เพิ่มการรับประกันอุบัติเหตุให้ใน 1 ปีแรก
ASUS ExpertBook B9400 ที่บางเบา แข็งแรงทนทาน ที่สำคัญคือมีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน และมีลูกเล่นที่เหมาะกับคนทำงานมากมายขนาดนี้
มีให้เลือกทั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home และ Pro โดยราคาเริ่มต้นที่ 44,990 บาท
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริหาร เจ้าของกิจการ คนที่ต้องพบเจอลูกค้า ทำงานนอกสถานที่บ่อย ๆ การได้มีเพื่อนคู่ใจในการทำงาน เป็นโน้ตบุ๊กดี ๆ ระดับโปร ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่ดีไม่น้อย
ซึ่ง ASUS ExpertBook B9400 ก็คือหนึ่งทางเลือกน่าสนใจ ที่น่าลงทุน..
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ExpertBook B9400: https://bit.ly/3flM5SS
Intel Evo Platform: https://www.thailand.intel.com/content/www/th/th/products/docs/evo.html
#ASUSTH #ExpertBookB9 #IntelEvo #Intel11thGen
References
-https://www.asus.com/th/Laptops/For-Work/ExpertBook/ExpertBook-B9-B9400/
-เอกสารประชาสัมพันธ์ ASUS ประเทศไทย
同時也有6部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅おとうさんスイッチ,也在其Youtube影片中提到,【LuminarAI クーポンコード】 PAPA01 【LuminarAI】※Amazonギフトカードの応募は既に締め切られています https://skylum.com/jp/luminar-ai-b?clickid=VsuWY%3A1N-xyLUFkwUx0Mo3wtUkEWw5WcORD11...
ir platform 在 外交部 Ministry of Foreign Affairs, ROC(Taiwan) Facebook 的精選貼文
【Ačiū 啊啾,來盒小泡芙吧】
這兩週,對台灣與立陶宛都是非常難忘的時刻~
兩週前立陶宛宣布捐贈台灣20,000劑疫苗,外交部長Gabrielius Landsbergis 推文說:「#熱愛自由的人民應該相互照應!」,更讓我們深深感動,Ačiū 啊啾。
台灣 義美食品 在第一時間表示要回贈小泡芙,並且加碼到兩貨櫃(3600箱、43200盒),專屬設計的包裝盒也在今天出爐,兩國國旗並列,下方以立陶宛文與英文寫上「感謝立陶宛」等字樣,搭配台灣圖像及雙手捧上的愛心,向立陶宛致上台灣衷心的感謝。
突然收到來自遠方朋友的善意,台灣人民也都很想要有所回報。
從事國際慈善工作的 #張瀞仁 在「全球捐贈網」邀請台灣民眾以捐款方式協助立陶宛社福機構,其中「兒童癌症基金會」在短短1個月內就達成近14年才有的募款成果,速度與金額也超乎基金會的預期,也讓立陶宛媒體關注來自台灣民眾的 #善能量。
期盼立陶宛早日來設處,讓兩國更靠近。
#Ačiū
#啊啾
#善的循環
#小編最愛草莓
#義美還有送牛奶跟巧克力口味
#麻煩立陶宛的朋友告訴我們你們最愛什麼口味
The generous vaccine donation from our pals in #Lithuania has inspired many people in #Taiwan to return the kind gesture.
.
IMEI Foods announced they would give the country two containerloads of their limited edition choux pastry puffs including this message of thanks to Lithuania!
.
Taiwanese charity worker Jill Chang also kicked off a campaign after stumbling across the Lithuanian non-profit Childhood Cancer Fund - Labdaros ir paramos fondas „Rugutė“‘s donation drive on #GlobalGiving. She issued a call for everyone in Taiwan to show their gratitude to Lithuania by helping them reach their goal. The organization raised as much money as they’ve raised in 14 years on the platform in just one month.
Lithuania also plans to establish an overseas office in Taiwan, which we hope will serve as the basis for strengthening ties between our two nations.
ir platform 在 AppWorks Facebook 的最佳解答
【Lesson #3 - Talk to your investors】
Many founders spend countless hours of blood, sweat, and tears fundraising. Endless Zoom calls, perpetual follow-ups, coffee chats, check-ins, dinners, networking events, are all examples of this "always be fundraising" mentality commonly held among bootstrapping entrepreneurs. It's a lot of effort, that oftentimes does not carry over post-fundraising. Once they get money in, the communications falter—a grave mistake and wasted resource, according to Hai Ho, the founder/CEO of Triip (AW#18), a blockchain powered travel platform based in VN.
---
What I’ve come to learn is that the strength of your company is very closely tied to the strength of your relationship with your investors and how frequently you interact with them. Oftentimes in the early days of your startup, you tend to shrug off any need for external help. You managed to build up promising initial traction, raise a round or two of financing, hire top notch talent—things are good, why trouble yourself with managing investor relations. “I’ll reach out when there’s a problem” you might think to yourself.
Before, I would probably hold a board meeting once, maybe twice a year depending on everyone’s schedule, strictly for the purposes of corporate governance. I’ve since changed how I communicate with my investors. No matter how busy it gets, I make it an effort to send email updates once a month and have meetings with them twice a quarter.
Looking back on my 13 years of entrepreneurship, I wish I could’ve done this a lot sooner. Your investors collectively boast a wealth of experience, wisdom, and connections. Make sure you take advantage of that. Talk to them, in good times and bad. You’re on a long-term journey together, so the least you can do is put some trust in each other. They can help illuminate your blind spots, while leveling the playing field against competition, but only if you let them.
We often forget that founder-investor relations are still a type of human relationship at the end of the day, which can only be developed through consistent face-to-face interactions (virtual or physical), not just from a couple of WhatsApp messages here and there. Doing so has created a stronger bond and mutual understanding between my board and I, and ultimately allowed for more information flow, both ways. Most of my problems now have become much easier to solve than before.
Right when COVID first hit in early 2020, I was still somewhat optimistic about the fundraising climate and overall travel landscape, in my naivete. But one of our very early investors that I had recently rekindled with through my renewed IR efforts thankfully stepped in with a precautionary outlook, shepherding us through some scenario planning and advising us to cut costs to zero and assume we wouldn’t be able to get new funds in until 2024. His guidance was instrumental in helping us weather this storm so far. It’s been an incredibly tough time for travel companies this year, to say the least. But building this communication flow with my investors and advisors has made it 10x easier, for both tactical and moral support.
Applications for AW#22 are now open to founders targeting SEA, AI/IoT, or Blockchain/Defi -> https://bit.ly/2VQaEg9
ir platform 在 おとうさんスイッチ Youtube 的精選貼文
【LuminarAI クーポンコード】
PAPA01
【LuminarAI】※Amazonギフトカードの応募は既に締め切られています
https://skylum.com/jp/luminar-ai-b?clickid=VsuWY%3A1N-xyLUFkwUx0Mo3wtUkEWw5WcORD11I0&irpid=2230230&utm_content=TEXT_LINK&utm_source=PAPA&utm_campaign=mediapartner_cpa&utm_medium=cpa&aclid=&platform=IR&utm_term=Luminar%20AI%20JP
提供:LuminarAI
―――――――――――――――――――
■Photoshopの本を出版しました。
『ノンデザイナーのためのPhotoshop写真加工講座』
https://www.amazon.co.jp/dp/4768314317
―――――――――――――――――――
■他のPhotoshopの動画
・合成動画「千と千尋の神隠し」
https://www.youtube.com/watch?v=tmFiH-M91t8&t=3s
・合成動画「モンスターハンター」
https://www.youtube.com/watch?v=5_BkkuSvjrw
・合成動画「Fate:セイバー」
https://www.youtube.com/watch?v=b7NkovnnqAs
・Photoshop講座動画「髪の切抜き」
https://www.youtube.com/watch?v=hkqYfbg_Mf8
・Photoshop講座動画「合成画像を作ろう」
https://www.youtube.com/watch?v=OQRur796TDw
・作品メイキング再生リスト:
https://youtu.be/tmFiH-M91t8?list=PLQLL4ZL3Atb1-2YKeCyVLmJOZMOAqw81I
・Photoshop講座再生リスト:
https://youtu.be/4a7c2vIcO8c?list=PLQLL4ZL3Atb2sGoGRC5zsHdHstT7hw1fB
―――――――――――――――――――
■SNS
Twitter:
https://twitter.com/StudioT_ppp
Instagram:
https://www.instagram.com/papa_otosanswitch/?hl=ja
pixiv:
https://www.pixiv.net/users/18559011
―――――――――――――――――――
■パパ
映像・グラフィックのフリーランス。
デジタルアーティスト。講師。Vtuber運営。
猫耳とゲームが好きです。
ご依頼はメールかTwitterDMまで。
―――――――――――――――――――
■楽曲提供:
Production Music by http://www.epidemicsound.com
―――――――――――――――――――
■よく使う画像サイト
Pixabay((無料アリ):
https://pixabay.com/ja/
photoAC(無料アリ):
https://www.photo-ac.com/
AdobeStock(有料):
https://stock.adobe.com/jp/
shutterstock(有料):
https://www.shutterstock.com/ja/home
―――――――――――――――――――
■PCスペック
プロセッサ:Intel(R)core i7-7700 CPU@3060GHz
メモリ:16GB
グラフィックボード:GeForce GTX 1060 6GB
メインモニター:BenQ SW240
サブモニター:MITSUBISHI RDT233WLM
キーボード:BUFFALO BSKBW100
マウス:Elecom EX-G
ペンタブ:WACOM Intuos S
ir platform 在 BumpUPTV Youtube 的最讚貼文
BUMP UP iT#309
Asus Zenfone Max Pro VS Xiaomi Redmi Note 5 | Camera Test ยกที่ 3 วัดกันที่กล้อง!!!
สเปคเครื่อง
Xiaomi Redmi Note 5
- สีที่จำหน่าย : ดำ ฟ้า ทอง
- หน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2160 x 1080) อัตราส่วน 18:9
- CPU : Snapdragon 636
- GPU : Adreno 509
- RAM : 3GB / 4GB
- ความจุ : 32GB / 64GB รองรับ MicroSD Card ถึง 256GB
- กล้องหลังคู่ : 12MP (f/1.9) + 5MP (f/2.0), แฟลช Dual-LED
- กล้องหน้า : 13MP LED Selfie + Beautify 4.0
- วิทยุ FM
- IR Blaster
- สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
- ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
- เซ็นเซอร์ : accelerometer, gyro, proximity, compass
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0, - -- MicroUSB 2.0
- แบตเตอรี่ : 4,000 mAh รองรับ Fast Charge 5V / 2A
- ระบบ Android 8.1 ครอบด้วย MIUI 9.0
- ราคา 6,990 บาท
สเปค Asus Zen Fone Max Pro
- สีที่จำหน่าย : สีเงิน สีดำ
- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD กว้าง 5.99 นิ้ว, อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด FHD+ (2160 x 1080 พิกเซล)
- ขนาดตัวเครื่องหนาเพียง : 159 x 76 x 8.46 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 180 กรัม
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm® Snapdragon™ 636 Mobile Platform ความเร็ว 1.8 GHz
- RAM 3/4/6 GB
- ROM 32/64 GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 2TB
- ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo
- กล้องหลังคู่ความละเอียดสูงสุด 16 ล้านพิกเซลที่ถ่ายภาพโหมด Portrait ได้ - - พร้อมแฟลชแบบ Softlight LED ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- บันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 4K Ultra HD
- รองรับซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง (รองรับ 4G ทั้ง 2 ซิม)
- ระบบความปลอดภัย : ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และระบบจดจำใบหน้า (Face Detection)
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh พร้อมเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ
- ราคา 6,990 บาท
follow me; on https://www.instagram.com/bumpuptv
on https://www.facebook.com/bumpuptv
on https://twitter.com/bump145
www.bumpuptv.com
ir platform 在 BumpUPTV Youtube 的最佳解答
Bump UP iT#305
Asus Zenfone Max Pro VS Xiaomi Redmi Note 5 | Game Test ยกที่ 2 วัดกันที่เกมส์ใน 1 ชั่วโมง
สเปคเครื่อง
Xiaomi Redmi Note 5
- สีที่จำหน่าย : ดำ ฟ้า ทอง
- หน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2160 x 1080) อัตราส่วน 18:9
- CPU : Snapdragon 636
- GPU : Adreno 509
- RAM : 3GB / 4GB
- ความจุ : 32GB / 64GB รองรับ MicroSD Card ถึง 256GB
- กล้องหลังคู่ : 12MP (f/1.9) + 5MP (f/2.0), แฟลช Dual-LED
- กล้องหน้า : 13MP LED Selfie + Beautify 4.0
- วิทยุ FM
- IR Blaster
- สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
- ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
- เซ็นเซอร์ : accelerometer, gyro, proximity, compass
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0, - -- MicroUSB 2.0
- แบตเตอรี่ : 4,000 mAh รองรับ Fast Charge 5V / 2A
- ระบบ Android 8.1 ครอบด้วย MIUI 9.0
- ราคา 6,990 บาท
สเปค Asus Zen Fone Max Pro
- สีที่จำหน่าย : สีเงิน สีดำ
- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD กว้าง 5.99 นิ้ว, อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด FHD+ (2160 x 1080 พิกเซล)
- ขนาดตัวเครื่องหนาเพียง : 159 x 76 x 8.46 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 180 กรัม
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm® Snapdragon™ 636 Mobile Platform ความเร็ว 1.8 GHz
- RAM 3/4/6 GB
- ROM 32/64 GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 2TB
- ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo
- กล้องหลังคู่ความละเอียดสูงสุด 16 ล้านพิกเซลที่ถ่ายภาพโหมด Portrait ได้ - - พร้อมแฟลชแบบ Softlight LED ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- บันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 4K Ultra HD
- รองรับซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง (รองรับ 4G ทั้ง 2 ซิม)
- ระบบความปลอดภัย : ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และระบบจดจำใบหน้า (Face Detection)
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh พร้อมเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ
- ราคา 6,990 บาท
follow me; on https://www.instagram.com/bumpuptv
on https://www.facebook.com/bumpuptv
on https://twitter.com/bump145
www.bumpuptv.com