สรุปเรื่อง M&A การควบรวมกิจการ คืออะไร? ครบจบในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน
ยุคสมัยนี้ การแข่งขันในโลกธุรกิจ ทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าอดีตอย่างมาก
หลายบริษัทเจอความท้าทายต่าง ๆ
ทั้งเศรษฐกิจที่ผันผวน และการเพิ่มขึ้นของคู่แข่งในอุตสาหกรรม
บริษัทจำนวนไม่น้อย จึงเลือกที่จะใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Mergers and Acquisitions หรือ “M&A” เพื่อความอยู่รอด หรือแม้แต่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจตนเอง
M&A คืออะไร และมีความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน มากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
M&A ย่อมาจาก 2 คำ คือ “Mergers and Acquisitions”
โดย Mergers นั้นหมายถึง การที่บริษัทตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไป ทำการควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน
เป็นผลให้ทั้งบริษัทเหล่านั้น ถูกยุบรวมและเหลือเพียงแค่บริษัทใหม่เกิดขึ้น และบริษัทเดิมทั้งสอง (หรือมากกว่า 2) ก็จะเป็นเจ้าของบริษัทใหม่ร่วมกัน
ซึ่งตัวอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็คือ การควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต จนกลายมาเป็น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB
ส่วนคำว่า Acquisitions นั้นหมายถึง การที่บริษัทหนึ่งเข้าไปซื้อกิจการของอีกบริษัทหนึ่ง
กรณีแรกคือ Share Acquisition คือผู้ที่เข้ามาซื้อ
จะได้หุ้นของบริษัทที่ถูกซื้ออาจจะบางส่วนหรือทั้งหมด
ซึ่งผู้ซื้อจะได้มาซึ่งสิทธิ์ในการออกเสียงในการประชุม หรือพูดง่าย ๆ ว่ามีสิทธิ์ควบคุมการตัดสินใจของกิจการที่ถูกซื้อ อย่างเช่น การเข้าซื้อหุ้น INTUCH ของ GULF
อีกกรณีคือ ผู้ซื้อจะได้มาซึ่งทรัพย์สิน, หน่วยธุรกิจบางส่วนหรือทั้งหมด ของกิจการที่ถูกซื้อ ซึ่งกรณีนี้เราเรียกว่า Asset Acquisition หรือ Business Acquisition
ซึ่งตัวอย่างที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ก็เช่น กรณีที่ MAKRO รับโอนกิจการทั้งหมดของ LOTUS แล้วออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับเจ้าของเดิมที่เป็นบริษัทในเครือซีพี เพื่อชำระเป็นค่าโอนกิจการ
ทีนี้ลองมาดูกันว่ามีเหตุผลสำคัญอะไรบ้าง ที่ทำให้บริษัทส่วนใหญ่นิยมหยิบกลยุทธ์ M&A มาใช้
- เสริมการเติบโตให้กับบริษัท
เมื่อธุรกิจของบริษัทเติบโตมาถึงจุดหนึ่ง การที่จะผลักดันให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เช่น หากธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมที่ขนาดตลาดเริ่มไม่เติบโตแล้ว การจะขยายส่วนแบ่งตลาดอาจทำได้ลำบาก
กรณีนี้บริษัท ก็จะต้องพึ่งการเข้าไปควบรวมกิจการคู่แข่งที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันนั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ทันที โดยไม่ต้องไปเสียเวลาลงทุนพัฒนาสินค้า ทดลองตลาด หรือจ้างพนักงานเพิ่ม
หรือแม้แต่ถ้าธุรกิจเดิมของบริษัทนั้นเริ่มอิ่มตัว การเข้าไปควบรวมกิจการกับบริษัทอื่นที่อยู่ในธุรกิจใหม่ ก็สามารถสร้างการเติบโตจากภายนอกกิจการ หรือ Inorganic Growth ได้เช่นกัน
- เพิ่มอำนาจ และผลประโยชน์ร่วมทางธุรกิจ ให้กับบริษัท
เมื่อบริษัทมีการควบรวมกิจการกันเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้เพิ่มอำนาจและผลประโยชน์ทางธุรกิจได้ เพราะบริษัทที่ควบรวมสามารถใช้ทรัพยากร รวมไปถึงจุดแข็งของแต่ละบริษัทร่วมกัน ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานโดยรวมให้ลดลงอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น การควบรวมกันของธุรกิจค้าปลีก
ที่สามารถเพิ่มอำนาจซื้อและต่อรองกับซัปพลายเออร์ จนอาจได้รับส่วนลด และช่วยให้เกิดการประหยัดต่อขนาด ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง
- เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป มีหลายบริษัทที่ปรับตัวไม่ทัน ต้องประสบปัญหา บางบริษัทขาดสภาพคล่อง เข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็ก หรือบริษัทที่กำลังประสบปัญหา
ดังนั้น เราจึงเห็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนสูงพยายามเข้าไปควบรวมกิจการกับบริษัทขนาดเล็กหลายแห่งที่ยังมีโอกาสเติบโตในอนาคต แต่กำลังประสบปัญหาอยู่
ซึ่งการควบรวมกับธุรกิจขนาดใหญ่ จะทำให้ธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจที่กำลังประสบปัญหานั้นมีโอกาสอยู่รอดสูงขึ้น
และหากมองในมุมของ รูปแบบการควบรวม เราก็สามารถแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ คือ
1. การควบรวมกิจการแบบแนวนอน (Horizontal Integration)
เป็นการควบรวมกิจการที่ทำธุรกิจเหมือนกัน หรืออยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งผลประโยชน์จากการควบรวมแบบนี้คือ เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
จากการที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มส่วนแบ่งตลาด ลดคู่แข่ง รวมไปถึงการเกิดผลประโยชน์ทางธุรกิจเพิ่มขึ้น และเพื่อให้เกิดจากการแชร์เทคโนโลยี ทรัพยากร และบุคลากรร่วมกัน
ตัวอย่างดีลแบบนี้ ก็เช่น The Walt Disney ที่มีส่วนธุรกิจผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์รายใหญ่ ได้เข้าซื้อกิจการของ 21st Century Fox สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ชื่อดัง ด้วยมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท ในปี 2019
2. การควบรวมกิจการแบบแนวตั้ง (Vertical Integration)
เป็นการควบรวมของธุรกิจที่มีห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เดียวกัน เพื่อลดต้นทุนการผลิต และจัดการกระบวนการผลิตได้ง่ายขึ้น
เช่น ในปี 2012 Google ได้เข้าซื้อกิจการของ Motorola Mobility ที่แยกตัวออกมาจาก Motorola และเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาสมาร์ตโฟน Android ด้วยมูลค่ากว่า 406,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามดีลนี้ของ Google ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เพราะตลาดโทรศัพท์มือถือมีการแข่งขันกันที่รุนแรง
3. การควบรวมกิจการที่ไม่มีความสัมพันธ์กัน (Conglomerate Integration)
เป็นการควบรวมของธุรกิจที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้เพื่อ สร้างการเติบโตจากธุรกิจใหม่ รวมไปถึงความต้องการที่จะกระจายความเสี่ยงเพื่อไม่ให้กิจการมีรายได้หลักมาจากธุรกิจเดิมเท่านั้น
ตัวอย่างของบริษัทที่เกิดจาก Conglomerate Integration เช่น กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น หรือ TCC Group ของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี
ที่มีการควบรวมกิจการต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องมาอยู่ในเครือมากมาย เช่น ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ ประกัน การเงิน และธุรกิจการเกษตร
ทั้งหมดนี้ก็คือ สรุปกลยุทธ์ M&A
ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในทางธุรกิจ ที่ทำให้เราเข้าใจว่า
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจที่ผ่านมา มันจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง M&A ในหลายเรื่อง
และในอนาคต เราก็จะได้เห็นการ M&A ของธุรกิจต่าง ๆ อยู่เป็นระยะ ตราบใดที่บนโลกนี้ยังมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย แนวคิดทุนนิยม..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.investopedia.com/ask/answers/why-do-companies-merge-or-acquire-other-companies/
-https://www.set.or.th/th/market/files/mna/Final_MnA.pdf
-https://www.investopedia.com/ask/answers/051315/what-difference-between-horizontal-integration-and-vertical-integration.asp
-https://www.npr.org/2019/03/20/705009029/disney-officially-owns-21st-century-fox
-https://en.wikipedia.org/wiki/Motorola_Mobility
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_largest_mergers_and_acquisitions
同時也有10部Youtube影片,追蹤數超過19萬的網紅คุยการเงินกับที,也在其Youtube影片中提到,การซื้อกิจการครั้งนี้ไม่ธรรมดา ทั่วโลกกำลังจับตา นักวิเคราะห์บางคนถึงกับบอกถ้า NVIDIA ซื้อ ARM สำเร็จนี่คือหายนะ ผู้นำด้านการผลิตชิปเซ็ตระดับโลก 2 บร...
「google การเงิน」的推薦目錄:
- 關於google การเงิน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於google การเงิน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於google การเงิน 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ warattapob.com Facebook 的精選貼文
- 關於google การเงิน 在 คุยการเงินกับที Youtube 的最讚貼文
- 關於google การเงิน 在 Thanasut Youtube 的最佳解答
- 關於google การเงิน 在 คุยการเงินกับที Youtube 的最佳貼文
- 關於google การเงิน 在 beartai แบไต๋ - พ่อมดการเงินออกโรงโจมตี Facebook-Google... 的評價
- 關於google การเงิน 在 Extension ใน Google Chrome สวมรอยบัญชีผู้ใช้ Facebook - ETDA 的評價
- 關於google การเงิน 在 รู้หรือไม่ ยิงโฆษณาผ่าน Facebook, Google ก็ต้องเสียภาษี - PEAK 的評價
- 關於google การเงิน 在 วางแผนการเงิน รายรับรายจ่าย ด้วย Google Sheet (ตัวอย่างไฟล์อยู่ ... 的評價
google การเงิน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
สรุปประเด็นจากห้อง Clubhouse จัดพอร์ตลงทุนยังไง ในไตรมาสนี้ ?
Clubhouse BBLAM x ลงทุนแมน
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ลงทุนแมน ชวนผู้เชี่ยวชาญหุ้นเทคโนโลยีจากกองทุนบัวหลวง มาร่วมพูดคุยอัปเดตสถานการณ์การลงทุนครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และแนวทางการจัดพอร์ตลงทุนให้เหมาะสม ในช่วง 3 เดือนต่อจากนี้
โดย 3 Speakers มากประสบการณ์จากกองทุนบัวหลวง ได้มาร่วมพูดคุย ร่วมให้ไอเดียกัน
- คุณสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน กองทุนบัวหลวง
- คุณเศรณี นาคธน AVP, Portfolio Management กองทุนบัวหลวง
- คุณมทินา วัชรวราทร CFA®, AVP, Portfolio Management กองทุนบัวหลวง
สถานการณ์โลกการลงทุนครึ่งปีแรกเป็นอย่างไร แล้วเราควรจัดพอร์ตลงทุนอย่างไรในไตรมาสนี้ ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
คุณสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน กองทุนบัวหลวง เริ่มต้นประเด็นแรก ด้วยการสรุปภาพรวมการลงทุนทั่วโลก ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา
ตั้งแต่เริ่มปี 2021 มา เราเห็นเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากปีที่แล้วมากขึ้น ซึ่งทำให้หุ้นวัฏจักร ที่ฟื้นตัวได้ดีตามเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มน้ำมัน ธนาคาร ได้รับประโยชน์และฟื้นตัวกลับมาได้ดี
ขณะที่ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ หลังเข้าช่วงครึ่งปีหลังมา เริ่มลดลง อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ที่เคยขึ้นไปสูงช่วงต้นปีก็ลดต่ำลง ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็นหุ้นเติบโต (Growth Stock) เริ่มกลับมาเติบโตได้ต่อ
แล้วตลาดในแต่ละภูมิภาคในช่วงที่ผ่านมา และตอนนี้ เป็นอย่างไร ?
เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป กำลังฟื้นตัวได้เร็วโดยมีปัจจัยสำคัญคือ มีประชากรได้รับวัคซีนในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับประชากรทั้งประเทศ และเริ่มทยอยกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง
ขณะที่ประเทศกลุ่มกำลังพัฒนา อย่างเช่นแถว ๆ ไทยเรา ยังคงเผชิญปัญหาการระบาดระลอกใหม่ และประชากรยังได้รับวัคซีนน้อย ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเป็นไปได้ล่าช้ากว่า
กองทุนบัวหลวงมองว่า โลกการลงทุนวันนี้มี “Unknown” หรือสิ่งที่เราไม่รู้ คือ รู้ว่าจะเกิดขึ้นแต่ไม่รู้ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด หรือไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าจะเป็นเช่นไร ทำให้ยังต้องติดตามสถานการณ์กันมากพอสมควร เช่น เรื่องไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่อาจควบคุมการระบาดได้ยากขึ้น, เงินเฟ้อที่รู้ว่ามาแน่ แต่ก็ไม่รู้ชัดว่าจะหนักและยาวนานแค่ไหน
เพราะฉะนั้นกลยุทธ์การลงทุนช่วงไตรมาสนี้และครึ่งปีหลัง แนะนำให้นักลงทุนจัดพอร์ตแบบกระจายความเสี่ยง ไม่เน้นหนักไปที่ตลาดใดตลาดหนึ่ง
นอกจากนั้น การถือเงินสดบางส่วนไว้เตรียมลงทุน หากมีเหตุการณ์หรือจังหวะที่เหมาะสมเข้ามา ก็จะทำให้เราไม่พลาดโอกาสการลงทุนดี ๆ ได้เหมือนกัน
ในช่วงนี้กองทุนบัวหลวงยังให้มุมมองเชิงบวกกับตลาดของประเทศพัฒนาแล้วมากกว่า โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา แต่ให้จับตาช่วงครึ่งปีหลัง ที่เงินทุนจะเริ่มไหลเข้าตลาดฝั่งเอเชีย
ปัจจุบันบริษัทในเอเชียเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เช่น TSMC, Samsung Electronics และที่หลายคนอาจยังไม่ค่อยคุ้นหูอย่าง ASUSTek ที่ถือเป็นหุ้นคุณภาพ ราคาไม่แพง มีการเติบโตสูง ในช่วงปีที่ผ่านมา
ขณะที่บริษัทในดัชนี MSCI All Country Asia Ex Japan ที่ถือเป็นตัวแทนของตลาดเอเชียยกเว้นญี่ปุ่น มี P/E อยู่ที่ 14 เท่า เท่านั้น ซึ่งถือว่าราคาถูกและน่าสนใจ หากเอเชียควบคุมสถานการณ์โรคระบาดได้ดีขึ้นในอนาคต
ทางกองทุนบัวหลวง ก็มีกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นเอเชีย คือ B-ASIA ที่ไปลงทุนในหุ้นเอเชียที่มีศักยภาพเติบโตเหล่านี้
คราวนี้ มาเจาะลึกกันที่ “จีน” กันบ้าง..
จีนยังคงเน้นการสร้างเสถียรภาพในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ความเด็ดขาด ชัดเจน และเข้มแข็งในการกำกับดูแล นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับนโยบายเน้นการบริโภคภายในประเทศควบคู่ไปกับการส่งออก และพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ
แม้ที่ผ่านมาเราจะเห็นทางการจีน เริ่มเข้มงวดกับหลาย ๆ กลุ่มในตลาด เช่นกลุ่มเทคโนโลยี แต่ความเข้มงวดนี้ ก็น่าจะส่งผลดีต่อเสถียรภาพของจีนในระยะยาว
เมื่อบวกกับแนวโน้มการเติบโตต่อจากนี้ของจีน ที่คาดว่าจะโตเฉลี่ยปีละ 5% ซึ่งถือว่าไม่น้อยสำหรับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก ณ ตอนนี้ ก็ถือว่าการลงทุนในจีน เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
แล้วเราจะลงทุนในหุ้นจีนแบบไหนดี ?
พูดถึงการลงทุนในจีน หลายคนจะกังวลเรื่องหุ้นเทคโนโลยีจีนที่ดูทรงไม่ค่อยดีในช่วงที่ผ่านมา แต่การลงทุนในจีนนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องหุ้นเทคโนโลยีเท่านั้น
ถ้าดูบริษัทในตลาดหุ้นจีนแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค, การสื่อสาร, การเงิน และการแพทย์ ส่วนบริษัทเทคโนโลยีนั้น มีสัดส่วนแค่ 6.5% ในดัชนี MSCI China
ตัวอย่างความน่าสนใจของจีนคือ กำลังบริโภคของคนรุ่นใหม่ในจีนนั้นมีแนวโน้มเติบโตสูงมาก เพราะเป็นกลุ่มที่เติบโตมาในครอบครัวที่เริ่มมีฐานะแล้ว
โดยกลุ่มนี้ มีความนิยม Local Brand มากขึ้น เช่น ใช้สมาร์ตโฟนของ Xiaomi ใช้อุปกรณ์กีฬา Li-Ning, Anta Sports เพราะมองว่าสินค้าเหล่านี้คุณภาพคุ้มราคากว่าแบรนด์นอก นี่จึงเป็นปัจจัยทำให้หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค มีแนวโน้มเติบโตได้อีกมากในอนาคต
ซึ่งบริษัทเหล่านี้ ก็เป็นบริษัทที่กองทุน B-CHINE-EQ ของกองทุนบัวหลวงไปลงทุนด้วย
คำถามต่อมาคือ ถ้าลองดูรายเซกเตอร์ มีเซกเตอร์ไหนบ้างที่น่าสนใจในตอนนี้ ?
มาเริ่มกันที่ “หุ้นเทคโนโลยี”
กองทุนบัวหลวงมองว่าหลังวิกฤติโควิด 19 บางสินค้า บางบริการที่คนเคยใช้แล้วติดใจ ใช้แล้วรู้สึกขาดไม่ได้แล้ว กลุ่มนี้จะยังเติบโตต่อไปได้เรื่อย ๆ
ส่วนอีกปัจจัยที่ทำให้หุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกยังไปต่อได้ คือภาครัฐโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและจีน ที่สนับสนุนด้านเทคโนโลยีกันอย่างชัดเจน เพื่อแข่งขันกันเป็นผู้นำเทคโนโลยีโลก
นอกจากนั้น ยิ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ปรับลดลงมาอย่างในตอนนี้ ก็ยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หุ้นเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่อ Bond Yield เติบโตต่อได้
แล้วเราจะเลือกหุ้นเทคโนโลยีอย่างไรดี ?
กองทุนบัวหลวงมองว่า ให้พยายามเลือกหุ้นเทคโนโลยีตัวใหญ่ ๆ ที่เป็นเจ้าของบริการที่ “คนขาดไม่ได้” อย่างเช่น Microsoft, Apple, Google, Facebook เอาไว้เป็นทางเลือกแรก ๆ
เพราะตอนนี้ตลาดมองหุ้นเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เหล่านี้ว่าเป็น Defensive Stock ไปแล้ว พูดง่าย ๆ ว่า เศรษฐกิจดีหรือไม่ดี ก็เติบโตได้
ซึ่งบางบริษัทเหล่านี้ ก็เป็นบริษัทที่กองทุน B-INNOTECH ของกองทุนบัวหลวงเน้นไปลงทุน
แล้วเซกเตอร์ Go Green หรือหุ้นกลุ่มเน้นความยั่งยืน น่าสนใจไหม ?
ระยะยาวทั่วโลกจะให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันยังคงเป็นแค่เพียงช่วงเริ่มต้น และยังมีโอกาสที่จะพัฒนาไปได้อีกไกล
เช่น กลุ่มยานยนต์ ที่หันมาใช้พลังงานไฟฟ้า กลุ่มพลังงานที่หันมาพัฒนาพลังงานสะอาด หรือกลุ่มแบตเตอรี่ที่พัฒนาให้สามารถจัดเก็บพลังงานได้มากขึ้น
ซึ่งใครที่สนใจ Theme การลงทุนนี้ กองทุนบัวหลวงก็มี B-SIP กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในบริษัทที่เน้นความยั่งยืน และมีนวัตกรรมรักษ์โลก
ตัดภาพกลับมาที่หุ้นไทยกันบ้าง ช่วงนี้เป็นอย่างไร ?
ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ตกใจกับตัวเลขผู้ติดเชื้อมากนัก คนมองไปข้างหน้ากันมากและให้ความหวังกับตลาดไปไกลแล้ว อีกทั้งสภาพคล่องในตลาดยังล้นอยู่ เพราะเอาเงินไปฝากธนาคารได้ผลตอบแทนน้อย คนก็หันมาลงหุ้นมากขึ้น
อย่างไรก็ตามเราก็ต้องติดตามสถานการณ์รายวันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการควบคุมการระบาดในประเทศ ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน กองทุนบัวหลวงมองว่า ช่วงนี้ตลาดจะเคลื่อนไหวขึ้นลง Sideway ไปก่อน
โดยแนวทางการลงทุนหุ้นไทยตอนนี้ คือต้อง “เลือกหุ้น” จะดีกว่าลงแบบเหมารวม ให้เลือกลงทุนในบริษัทที่พื้นฐานดี ยืนหยัดแข็งแกร่งได้ในวิกฤติ
ซึ่งสำหรับกองทุนบัวหลวง ก็มี “กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล”
ที่เด่นเรื่อง Stock Selection เลือกลงทุนแค่ในหุ้น 10 ตัว ที่ดีที่สุดในไทย
ลองมาดูภาพรวมของตลาดพันธบัตรกันบ้าง
กองทุนบัวหลวงมองว่า ตอนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ในระยะสั้นจะยังคงต่ำอยู่ ทั้งจากความคาดหวังเงินเฟ้อที่อ่อนแรงลงจากต้นปี สภาพคล่องยังล้นระบบ
ต้องดูความเคลื่อนไหว Bond Yield สหรัฐอเมริกา เพราะเป็นตลาดพันธบัตรใหญ่สุดในโลก ถ้า Bond Yield ในสหรัฐอเมริกาปรับตัวสูงขึ้น เงินก็ไหลเข้าตลาดพันธบัตรสหรัฐอเมริกามากขึ้น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็จะแข็งค่าขึ้นตามไปด้วย
ถ้าจะจัดสรรน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ ควรไปลงที่ไหนดี ช่วงไตรมาสนี้ ?
กองทุนบัวหลวงมองว่า US High Yield หรือพันธบัตรที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงในสหรัฐอเมริกา ตอนนี้น่าสนใจ เพราะให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกต่ำมากในขณะนี้
แต่แน่นอนว่าเมื่อเป็น “High Yield” คือมีอัตราผลตอบแทนสูง ก็จะสวนทางกับเครดิตเรตติงที่ต่ำ ซึ่งมันก็ตามมาด้วยความเสี่ยงผิดชำระที่สูงกว่าพันธบัตรในระดับ Investment Grade
แต่ทางกองทุนเห็นสถิติในเวลานี้ว่า อัตราการผิดนัดชำระหนี้ (Default Rate) ลดลงจนเกือบเท่าช่วงก่อนเกิดวิกฤติแล้ว
เพราะฉะนั้นจึงควรกระจายลงทุนในหลาย ๆ บริษัท โดยวิธีการกระจายการลงทุนที่น่าสนใจก็คือการลงทุนในกองทุนรวมที่ไปลงทุนในพันธบัตรที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง
ซึ่งกองทุนบัวหลวงเองก็มี กองทุนเปิด “บัวหลวงไฮยิลด์” ที่มาตอบโจทย์การลงทุนในจุดนี้
และหากท่านใดที่สนใจจะลงทุนหรือต้องการจัดพอร์ตการลงทุนเอง ทางกองทุนบัวหลวง ก็มีการสรุปแนวทางการลงทุนอย่าง “B-SELECT” เพื่อให้นักลงทุนนำไปเป็นข้อมูลเพื่อพิจารณาในการจัดพอร์ตกองทุนด้วยตัวเองได้
- ถ้าชอบหุ้นเทคโนโลยี กองทุนบัวหลวงมี “B-INNOTECH”
- ถ้าชอบหุ้นกลุ่มยั่งยืน (มีเทคโนโลยีผสม) กองทุนบัวหลวงมี “B-SIP”
- ถ้าชอบหุ้นเอเชีย กองทุนบัวหลวงมี “B-ASIA”
- ถ้าชอบหุ้นจีน กองทุนบัวหลวงมี “B-CHINE-EQ”
- ถ้าชอบหุ้นไทย แบบคัดเอาแค่ 10 สุดยอดบริษัท กองทุนบัวหลวงมี “บัวหลวงทศพล (BTP)”
- ถ้าอยากลงทุนในพันธบัตรที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงในสหรัฐอเมริกา กองทุนบัวหลวงก็มีบัวหลวงไฮยิลด์ ให้เลือก 2 แบบ คือ กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ B-HY (UH) AI กับกองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ B-HY (H75) AI
หรือถ้าไม่รู้จะเลือกอะไร อยากให้กองทุนบัวหลวงจัดพอร์ตลงทุนให้ตามความเสี่ยงที่แต่ละคนยอมรับได้
ก็มีกองทุนรวม “BMAPS” ที่มีให้เลือกสัดส่วนการลงทุนในหุ้น สูงสุด 25%, 55% และ 100%
แล้วผู้จัดการกองทุนรวม BMAPS ก็จะนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมต่าง ๆ ตามสัดส่วนที่ผู้ลงทุนเลือก ให้เหมาะกับสถานการณ์ และโอกาสการเติบโตในอนาคตต่อไป
และทั้งหมดนี้ ก็คือบทสรุปของประเด็นที่ได้พูดกันในห้อง Clubhouse “จัดพอร์ตลงทุนยังไง ในไตรมาสนี้ ?”
สำหรับประเด็นพูดคุยกันใน Episode หน้าจะเป็นเรื่องอะไร รอติดตามได้ เร็ว ๆ นี้..
google การเงิน 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ warattapob.com Facebook 的精選貼文
🔥 6 วิธี จะช่วยเพิ่มยอดขายธุรกิจคุณ ด้วยเว็บไซต์ 🔥
🧡 เดี๋ยวนี้การยิงโฆษณาบน Google หรือ Facebook อย่างเดียวเพื่อสร้างการรับรู้เพียงอย่างเดียว อาจไม่ได้ทำให้ลูกค้าซื้อของจากเราเสมอไป เพราะบางทีเมื่อลูกค้าคลิกโฆษณาเข้าไปในเว็บไซต์แล้ว ลูกค้าอาจดูสินค้าแล้วไม่สนใจ หรือสนใจแต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อในขั้นตอนต่อไป หรือรู้ว่าต้องทำอะไรต่อ แต่ตอนกดซื้อของกลับไม่รู้ว่าลูกค้าอยู่ขั้นตอนไหนของการซื้อของ จะเห็นได้ว่าสาเหตุเหล่านี้เป็นสาเหตุที่การยิงโฆษณานั้นไม่ได้ช่วยอะไรต่อธุรกิจของคุณยังไงล่ะ
🌐เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเว็บไซต์ของเราดีแค่ไหนจนกว่าจะให้ลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์และให้ข้อมูล ฉะนั้นแล้วการปรับแต่งเว็บไซต์ขายของ จึงสำคัญไม่แพ้การเอาแต่ลงทุนทำคอนเทนต์และทำโฆษณา ถ้าหากอยากทำรายได้ ก็ต้องโฟกัสไปที่ยอดขายและตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง
🔻 6 วิธีปรับแต่งเว็บไซต์ จะช่วยเพิ่มยอดขายได้ 🔻
🔰 1.ทำ SEO เสิร์ชเอนจิน (Search Engines)
เริ่มต้นเลย เราต้องทำการ Research keywords ก่อนจะสร้างเว็บไซต์ เพราะว่าโดยทั่วไปแล้ว Keyword สำคัญ ๆ สั้น ๆ จะถูกเอาไปหมดแล้ว เราจึงต้องเข้าใจเรื่อง Long - Tail Keyword เพราะจะทำให้เรามีพื้นที่ในการแข่งขันมากกว่า และสร้างเว็บไซต์ Traffic ได้ดีกว่าการแข่งกับ Keyword ทั่วไป เมื่อลูกค้า Search หาบน Google อย่างน้อยต้องเจอเราเป็นอันดับต้น ๆ
🔰 2.ใส่บล็อก เวลาสร้างเว็บไซต์ และโพสต์อย่างสม่ำเสมอ
เว็บส่วนใหญ่จะมีบล็อกอยู่แล้ว แต่คนทำธุรกิจส่วนใหญ่ มักจะมีข้ออ้างที่จะไม่เขียนลงบล็อกเช่นว่า ไม่รู้จะเขียนอะไร / ไม่มีเวลาเขียน / ไม่รู้จะเขียนทำไม ต่าง ๆ นานา คอนเทนต์คือทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งคอนเทนต์ ดี ยิ่งใช้เงินโฆษณาน้อย
บล็อกที่อัพเดทอย่างสม่ำเสมอ (และมี คอนเทนต์ ที่ดี) จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในบล็อก โพสต์แต่ละอันบนเว็บไซต์ ควรจะให้ข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ อธิบายถึงวิธีใช้ หรือวิธีแก้ปัญหาที่ลูกค้าเจอ ให้เน้นไปที่ตัวผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้รับ การทำแบบนี้จะทำให้ลูกค้าจำเราได้ และนึกถึงเราเวลาที่เค้ามีความต้องการจะซื้อ
🔰 3. ทำเว็บไซต์ตามอุปกรณ์ที่ลูกค้าเข้าเว็บไซต์
เพราะเดี๋ยวนี้คนเข้าเว็บไซต์จากสมาร์ทโฟนมีมากขึ้น ฉะนั้นก็ต้องทำเว็บไซต์ ให้เหมาะกับหน้าจอของสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการกดปุ่มต่างบนเว็บไซต์ในมือถือด้วย
🔰 4. ปุ่มในหน้า Checkout ยังเป็นปุ่ม Continue อยู่หรือเปล่า
เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ลูกค้าก็จะไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องกดสั่งซื้อของอีกกี่ขั้นตอนถึงจะจบ ฉะนั้นในเพจที่ลูกค้ากดเลือกของเสร็จ ควรเขียนคำว่า Review Order จะดีที่สุด เพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้ว่าต่อไปได้เวลาจ่ายเงินแล้ว ทำให้ชัดเจนที่สุด เพื่อความสะดวกต่อลูกค้านั่นเอง
🔰 5. รู้ใจคนเสิร์ช ถึงจะพิมพ์ คีย์เวิร์ด ผิด
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องอาศัยคนเขียนโค้ดเก่ง ๆ แต่แค่นี้ไม่พอ เพราะเราต้องทำ Market Research เพื่อให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้นว่าจริง ๆ แล้วลูกค้าต้องการอะไร จากคีย์เวิร์ดที่พิมพ์ผิด
🔰 6.พฤติกรรมการใช้เว็บไซต์บอก Insight ได้
พฤติกรรมการเข้าใช้งานเว็บของลูกค้ามันเป็น Insight ที่คุณไม่ควรมองข้าม ยิ่งคุณเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้าแบบ Real time ด้วยการตามดูว่าพวกเขาอยู่ในแต่ละหน้าเว็บนานเท่าไร จากนั้นพวกเขาไปไหนต่อหรือมีการคลิกดูหรือสนใจอะไรเป็นพิเศษในเว็บของคุณหรือไม่
เช่น ถ้าคุณรู้ว่าลูกค้ากำลังอยู่หน้าเปรียบเทียบราคาแต่ไม่ยอมตัดสินใจซื้อสักที คุณอาจจะปล่อยคูปองส่วนลดหรือข้อเสนอบางอย่างออกไปเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของพวกเขามากขึ้น
⚡ยิ่งคุณสามารถวิเคราะห์ลูกค้าได้ดีเท่าไร คุณก็จะสามารถวางแผนการตลาดของคุณได้ง่ายขึ้นสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มหรือในลูกค้าแต่ละคน รวมไปถึงการจัดการงบประมาณในการใช้จ่ายแต่ละส่วนว่าจะใช้มากน้อยแค่ไหนได้ง่ายขึ้นด้วย
ส่วนเทคนิคเล็กๆน้อยในการโฆษณาให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มทางเลือกในการจ่ายเงิน นำเสนอสินค้าในมุมที่แต่ต่างจากเดิมที่มีแค่รูปภาพ ก็ลองเป็นวีดีโอดูบ้าง มีเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้ในโฆษณาให้สอบถาม เขียนนโยบายการคืนสินค้า และที่สำคัญ ลองคิดดูว่าจริง ๆ แล้วคุณค่าของสินค้าที่เราขายคืออะไรกันแน่ แค่นี้ก็พอที่จะทำให้เว็บไซต์ออนไลน์ของคุณขายของได้เยอะขึ้นแล้วนั่นเอง ⚡
และหากคุณอยากทราบ “รายละเอียดที่ลึกลงไปกว่านี้” โดยใช้กลยุทธ์ WAR-KETING™ ลิขสิทธิ์เฉพาะของผมเพิ่มเติม
✅คุณสามารถกดเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ฟรี ❗ ได้ง่าย ๆ
โดยคลิกลิงก์นี้ 👉 https://www.war-keting.com/lazada-shopee-reg
หรือแอดไลน์มาที่👉 @war-keting
หรือคลิกลิงก์นี้เพื่อถามข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ 👉 https://line.me/ti/p/~@war-keting
==============
วรัทภพ รชตนามวงษ์
#หาเงิน #หาเงินออนไลน์ #หาเงินง่ายๆ #หาเงินด้วยตัวเอง #ขายของออนไลน์อะไรดี #ขายของ #ขายของออนไลน์ #การตลาด #การตลาดออนไลน์ #ธุรกิจ #ธุรกิจออนไลน์ #การเงิน #คุยกับวรัทภพ #tiktalk #tiktok #พัฒนาตนเอง #พัฒนาตัวเอง #อยากรวย #รวย #แรงบันดาลใจ #ความสำเร็จ #ประสบความสำเร็จ #รวยเร็ว #สำเร็จ #กำลังใจ #ความรู้ #วรัทภพ #warattapob
google การเงิน 在 คุยการเงินกับที Youtube 的最讚貼文
การซื้อกิจการครั้งนี้ไม่ธรรมดา ทั่วโลกกำลังจับตา นักวิเคราะห์บางคนถึงกับบอกถ้า NVIDIA ซื้อ ARM สำเร็จนี่คือหายนะ
ผู้นำด้านการผลิตชิปเซ็ตระดับโลก 2 บริษัทการเป็นบริษัทเดียวโดยที่แต่ละคนถนัดเทคโนโลยีที่ต่างกัน CPU และ GPU จะทำให้จุดอ่อนของ NVIDIA กลายเป็นจุดแข็ง และทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะในในโลก 5G เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น AR VR AI CLOUD COMPUTING หรือแม้แต่โมเดลธุรกิจใหม่ๆอย่าง STREAMING หรือ DATA CENTER ก็ต้องใช้ชิปเหล่านี้ และนี่ก็อาจจะเป็นโอกาสมากมายให้ NVIDIA เข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ๆได้
LINK
line @ T MONEY คุยกับผมทางนี้นะครับ
https://lin.ee/pE0OEWs
fb: คุยการเงินกับที
https://www.facebook.com/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E
0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0
%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B5-189662501941804/?modal=admin_todo_tour
podcast: คุยการเงินกับที
https://soundcloud.com/sorathorn-wattanamalachai
fb: กลุ่ม learn&earn ครับ
https://www.facebook.com/groups/319013512295700/
google การเงิน 在 Thanasut Youtube 的最佳解答
พอดแคสต์ ภาษาไทย Podcast พ่อลูก กะหนูกะนิ้ง EP 13 แนะนำแอพวาดรูปบน iPad Part 2 #พอดแคสต์ภาษาไทย
ติดตามเราได้ที่นี่ครับ
https://thanasut.com/podcast-nooning
รับข่าวสารจากเรา สมัครผ่าน Facebook (ไม่มีสแปมแน่นอนครับ)
https://noo.news/fb-nooning
ฟังทาง Apple Podcast
https://noo.news/apple-podcast
ฟังทาง Spotify
https://noo.news/spotify-podcast
ฟังทาง Google Podcasts
https://noo.news/google-podcast
Subscribe และกด Like ให้กำลังใจเราด้วยนะครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ ?
Links ข้อมูลในรายการ
https://noo.news/nooningep13
Podcast คืออะไร? อยากทำ Podcast ต้องเริ่มอย่างไร? พบคำตอบได้ที่นี่
https://noo.news/whatispodcast
-----
Website: https://thanasut.com
Line: @thanasut (@ นำหน้า)
Facebook: https://www.facebook.com/thanasut.vudthivichai
Instagram: https://instagram.com/thanasut.vudthivichai
Linkedin: https://www.linkedin.com/in/thanasut/
Pinterest: https://www.pinterest.com/thanasut_vudthivichai/
google การเงิน 在 คุยการเงินกับที Youtube 的最佳貼文
internet form the sky แค่ความฝันหรืออาจเป็นจริง
มุมมองใหม่ที่ internet จะไม่ต้องมีสายเชื่อมต่อ จะมีผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตไม่กี่เจ้าบนโลกที่จะให้บริการคนเป็นพันล้านคน เป็นแนวคิดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก เช่น Tesla amazon microsoft จะทำให้การให้บริการอินเตอร์เน็ตที่ดีขึ้น ค่าบริการถูกลง และผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตแต่ละประเทศอาจอยู่ลำบากหรือไม่
LINK
line @ T MONEY คุยกับผมทางนี้นะครับ
https://lin.ee/pE0OEWs
fb: คุยการเงินกับที
https://www.facebook.com/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E
0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0
%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B5-189662501941804/?modal=admin_todo_tour
podcast: คุยการเงินกับที
https://soundcloud.com/sorathorn-wattanamalachai
fb: กลุ่ม learn&earn ครับ
https://www.facebook.com/groups/319013512295700/
google การเงิน 在 Extension ใน Google Chrome สวมรอยบัญชีผู้ใช้ Facebook - ETDA 的推薦與評價
เว็บเบราว์เซอร์ คือส่วนหนึ่งที่สำคัญในการเข้าสู่โลกออนไลน์เพื่อซื้อสินค้า ติดตามข่าวสาร ดูวีดีโอออนไลน์ หรือแม้กระทั่งการทำธุรกรรมออนไลน์ ... ... <看更多>
google การเงิน 在 รู้หรือไม่ ยิงโฆษณาผ่าน Facebook, Google ก็ต้องเสียภาษี - PEAK 的推薦與評價
การเงิน · บันทึกบัญชี · รายงาน · หมวดอืนๆ · PEAK Connect · PEAK Payroll · PEAK Board · PEAK Asset · เชื่อมต่อระบบอื่น · Update Feature ... ... <看更多>
google การเงิน 在 beartai แบไต๋ - พ่อมดการเงินออกโรงโจมตี Facebook-Google... 的推薦與評價
พ่อมดการเงินออกโรงโจมตี Facebook-Google ปิดกั้นเสรีภาพทางความคิดของผู้คน #beartai. ... <看更多>