หนึ่งในข่าวใหญ่ที่หลายคนติดตามนอกจากข่าวน้องไข่เน่า ก็น่าจะเป็นการปรับองค์กรครั้งใหญ่ของธนาคารแห่งนึง
ขอไม่ลงรายละเอีอดทั้งน้องไข่เน่า ทั้งธนาคารนะครับ ไม่ใช่อะไรเดี๋ยวจะโป๊ะซะก่อน ไม่ต้องเตรียมปากกามาวง
แต่ที่อยากให้มาลองนั่งคิดกันในวันศุกร์แบบนี้คือ ถ้าเราเป็นคนในองค์กรเราต้องปรับตัวเราเองตามยังไงดี เราคือคนนึงในองค์กรที่เพิ่งรู้เรื่อง หรือเราคือคนที่ติดตามเป้าหมายวิสัยทัศน์ขององค์กรอยู่แล้ว และเราเองก็พร้อมจะปรับตัวไปกับองค์กรแน่ ๆ
การปรับตัวในแต่ละครั้งสร้างทั้งโอกาสและความท้าทาย เราต้องเลือกให้ถูกว่าเราจะอยู่ตรงไหน อย่ามองแค่ว่าการเปลี่ยนแปลงบีบให้เราออกจาก Comfort Zone เพราะจริง ๆ นั่นอาจจะไม่ใช่ Comfort Zone แต่เป็นกับดักความสบายที่เราคุ้นเคยจนไม่กล้าที่จะลองใช้ความสามารถที่บางทีเราเองก็ไม่รู้ว่าเรามีอยู่
แต่บางทีเราก็ไม่มีจริง ๆ นั่นแหละ เราเลยต้องเร่งพัฒนา
ที่น่าสนใจอีกคำถามนึงคือ แล้วถ้าองค์กรหรือบริษัทที่เราทำงานอยู่ตอนนี้ ไม่ได้มีวี่แววหรือสัญญาณการปรับตัวอะไรเลยล่ะ เราโอเคกับวิธีการบริหารจัดการแบบนี้มั้ย
โอเคสิ เราก็ทำเหมือนที่เคยทำ ดีออก ไม่ต้องปรับตัวอะไร มองไปที่บริษัทเพื่อนที่ส่งสัญญาณแรง ๆ ทำงานกันหนักเชียว ต้องเทรนต้องเรียนเรื่องใหม่กันเต็มไปหมด ดูบริษัทเราสิ ไม่เห็นต้องทำอะไร โคตรสบายเลย
เราโอเคจริง ๆ ใช่มั้ย แน่ใจใช่มั้ยว่าบริษัทไม่ได้ขยับตัว หรือบริษัทขยับตัวแต่เราไม่รู้ หรือเค้าขยับตัวกันโดยที่เราไม่รู้ รู้อีกทีคืออ้าว เราไม่ใช่ส่วนนึงของผังใหม่ไปแล้ว
Mega-Trend ในตอนนี้ที่เป็นตัวเร่งให้องค์กรปรับตัวกันอยู่ทั้งเรื่อง Technology เอย Digital เอย Data-Driven Business เอย E-Commerce เอย Medical & Wellness เอย ไม่มีผลต่อบริษัทเราเลยเหรอ บริษัทเราจะไม่ปรับอะไรเลยจริง ๆ เหรอ
ถ้าเป็นอย่างนั้น อะไรจะเกิดขึ้นบ้างกับบริษัทของเรา แล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปกับบริษัทของเรา
แล้ววันนี้เรา ควรทำอะไร ลองคิดเล่น ๆ กันดูนะครับ
#HRTheNextGen
#มนุษย์เงินเดือน #HR2021
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過2,030的網紅數位時代Official,也在其Youtube影片中提到,公司簡介 歐美國家的物業與居家服務產業需要能管理臨時人員進出,樂邦安控看到現有門禁和房產服務應該做更有效地結合,將門禁管理透過4G/5G連上雲端,提供更完整的權限管理以及連結相關房產服務,以因應日益增多的物業管理及居家服務自動化需求。整體解決方案包含硬體、管理軟體及雲端平台三要件。硬體解決方案為電子...
data-driven business 在 HR - The Next Gen Facebook 的精選貼文
Future Trends สื่อออนไลน์ผู้นำเสนอเรื่องราวแห่งอนาคตและการพัฒนาตนเอง เตรียมจัดงาน “Skillforce Virtual Conference 2021 - COVID-19 Disruption” งานสัมนาเสริมทักษะแห่งอนาคต เพื่อเตรียมความพร้อมและตอบสนองความต้องการทักษะใหม่ในตลาดแรงงานไทย ในวันที่ 21-22 สิงหาคม 2564 ซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ที่ https://bit.ly/3kn3u0b
Future Trends ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในกระแสความเปลี่ยนแปลงของทักษะที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทักษะเก่าหมดอายุ และสร้างความต้องการทักษะใหม่ที่เกิดขึ้นให้กับตลาดแรงงาน ซึ่งเกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ควบคู่ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 กลายเป็น “Double Disruption” ที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับทักษะแห่งอนาคต Future Trends จึงได้จัดงานสัมนาพูดคุยเรื่องทักษะแห่งอนาคตจากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายแวดวง บน 7 เวทีกลุ่มทักษะ ด้วยสปีกเกอร์กว่า 30 ท่าน ใน 21 เซสชั่น ตลอด 2 วันของงาน “Skillforce Virtual Conference 2021 - COVID-19 Disruption”
พบกับ 7 เวที 7 กลุ่มทักษะแห่งอนาคต
Data - ทักษะสำคัญในวันที่โลกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
Sale & Marketing - เข้าใจการตลาดแห่งอนาคต
HR - แนวทางการบริหารคนสู่ความสำเร็จ
SMEs - หน้าต่อไปของธุรกิจหลังวิกฤติ COVID-19
Leader - ค้นหาทักษะผู้นำแห่งอนาคต
Blockchain & Crypto - ทักษะที่กลายมาเป็นที่ต้องการอันดับ 1 ของโลก
Content Creator - สร้างคอนเทนต์อย่างไรในปี 2021
พร้อมด้วยสปีกเกอร์ชั้นนำระดับประเทศกว่า 30 คน อาทิ
- คุณณัฐพล ม่วงทำ เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน
- คุณภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ กรรมการบริษัท ลิตเติลมอนสเตอร์ จำกัด Little Monster
- CEO & Creative / CEO & Account Executive เพจ ไดโนเศร้า
- คุณมัณฑิตา จินดา Founder and MD of Digital Tips Academy
- คุณอภิชาติ ขันธวิธิ Co-founder and Managing Director at QGEN
- ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)
- คุณธนพงศ์ วงศ์ชินศรี เจ้าของร้าน Penguin Eat Shabu และเพจ Torpenguin - ผู้ชายขายบริการ
- คุณมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด
- คุณกษิดิ์เดช พูลสุขสมบัติ, CEO & Co-Founder, Ape Board
- คุณสาโรจน์ อธิวิทวัส CEO at Wisible
- คุณจิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ ผู้เขียนหนังสือ Marketing Technology 2021
- คุณพงษ์ปิติ ผาสุขยืด Founder of Ad Addict
- คุณจิรเดช โอภาสพันธ์วงศ์ บรรณาธิการบริหาร a day
- คุณวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตรองผู้อำนวยการด้านข่าวและรายการ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส อดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ PPTVHD36 อดีตบรรณาธิการนิตยสารสารคดี นักเขียน นักวิจารณ์สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม
- คุณโอชวิน จิรโสตติกุล ผู้ก่อตั้ง FutureSkill
- คุณจิรายุ อาจสำอางค์ Co-Founder / Managing Director of Dexter Bangkok
และสปีคเกอร์อีกมากมายที่จะประกาศตามมาเร็ว ๆ นี้ พร้อมการประกาศ “Skill of The Year ทักษะแห่งปี” โดย Future Trends กับ 21 Session อัดแน่นด้วยเนื้อหาและทักษะตลอด 2 วัน ไม่ว่าจะเป็น
- How to build Data-Driven Organization เมื่อข้อมูลกลายมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ องค์กรจะขับเคลื่อนด้วยข้อมูลได้อย่างไร ทำไมการตัดสินใจที่แม่นยำจำเป็นต้องอาศัยข้อมูล
- Age of Marketing Technologist ในวันที่มาร์เกตติ้งกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ผู้ประกอบการจึงต้องทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ของการตลาดให้ลุ่มลึกมากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ยุค Age of Marketing
- Skill Development for next Skillforce ทักษะแบบไหนที่จะจำเป็นต่อการทำงานในอนาคต และองค์กรจะต้องวางแผนพัฒนาบุคลากรอย่างไรเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ next Skillforce
- War Time Leader วิกฤตทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ‘โน นอร์มอล’ กลายเป็นสภาวะที่ทุกคนต้องเจอ แล้วผู้นำองค์กรควรทำอย่างไรในภาวะอันไม่ปกตินี้
- Future Blockchain & Blockchain for Business Growth เทคโนโลยีบล็อกเชนจะเติบโตและพัฒนาไปอย่างไร และธุรกิจจะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้อย่างไรได้บ้าง
- How content creator generate income in platform economy เมื่อธุรกิจมากมายย้ายตนเองไปอยู่บนแพลตฟอร์ม เกิดเป็นโอกาสที่เปิดกว้างมากขึ้น นักสร้างคอนเทนต์ยุคใหม่ใช้โอกาสเหล่านี้อย่างไร เมื่อต้องสร้างรายได้บนธุรกิจแพลตฟอร์ม
- How to decode the consumer mind เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป จะทำการตลาดอย่างไรให้รู้คนยุคนี้ มาเตรียมความพร้อม ทำความเข้าใจกับศาสตร์ของการตลาดที่จะทำให้เราทำมาร์เก็ตติ้งได้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
- Scale up in crisis รอดแล้วอย่างไรต่อ หลังจากผ่านวิกฤตมาหลายครั้งหลายหน SMEs ที่รอดจากสงครามครั้งนี้จะ ‘Scale up’ ตัวเองอย่างไร ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเพื่อหาทางรอดกันอย่างไรต่อ
เตรียมพบกับงานสัมมนาเสริมทักษะแห่งอนาคต “Skillforce Virtual Conference 2021 - COVID-19 Disruption” ในวันที่ 21-22 สิงหาคม 2564
เจาะลึกแนวคิด พัฒนาสกิล พร้อมก้าวนำการเปลี่ยนแปลงใหม่ในยุคดิสรัปชัน กับ 7 เวที ด้วยสปีคเกอร์ผู้เชี่ยวชาญจากแต่ละวงการที่จะมาแชร์ทักษะ และประสบการณ์แบบจัดเต็มกว่า 30 คน
สามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับ Skillforce Virtual Conference 2021 - COVID-19 Disruption ได้ที่ เพจ Skillforce Conference by Future Trends https://www.facebook.com/skillforceTH และเพจ Future Trends https://www.facebook.com/futuretrends.th
ซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ที่ https://bit.ly/3kn3u0b
#HRTheNextGen
data-driven business 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
กรณีศึกษา Lenovo ทำอย่างไร ให้เป็นผู้นำตลาด PC ของไทย และของโลก
Lenovo Thailand x ลงทุนแมน
ผู้ที่ครองส่วนแบ่งตลาด จำนวนการส่งมอบ PC อันดับ 1 ของโลก ในปี 2020 ที่ผ่านมา
คือ Lenovo ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 23.8%
และสำหรับในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา
Lenovo ก็สามารถครองส่วนแบ่งตลาด PC อันดับ 1 ได้ด้วยเช่นกัน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ลงทุนแมนมีโอกาสได้พูดคุยกับ6
คุณวรพจน์ ถาวรวรรณ ผู้จัดการทั่วไป Lenovo ประจำพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ของ Lenovo ในไทย ถึงเคล็ดลับและกลยุทธ์การทำธุรกิจของ Lenovo
Lenovo ทำอย่างไร ให้เป็น ผู้นำตลาด PC ของไทยและของโลก ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ถ้าลองไปเปิดดูผลประกอบการปีที่ผ่านมาของ Lenovo
จะเห็นว่าบริษัททำรายได้รวมเติบโต 20% กำไรสุทธิเติบโต 77%
และถ้าหากมาโฟกัสที่ไตรมาสล่าสุด
Lenovo ทำรายได้เติบโต 48% และกำไรสุทธิเติบโตถึง 512%
ลงทุนแมนถามคุณวรพจน์ด้วยคำถามแรกว่า
การเติบโตของตลาดคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กส่วนบุคคลในไทย รวมไปถึงในพม่า ลาว กัมพูชา ที่คุณวรพจน์ เป็นผู้ดูแล เติบโตดีแค่ไหน เมื่อเทียบกับผลประกอบการภาพรวมของ Lenovo ?
คุณวรพจน์ ถาวรวรรณ ตอบด้วยตัวเลขที่บอกเราว่า “เติบโตได้ดีมาก ๆ สอดคล้องกับภาพรวม”
ในส่วน พม่า ลาว กัมพูชา ในส่วน Personal Computer และ Smart Devices (PCSD) ที่คุณวรพจน์ ดูแลนั้น รายได้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก
ส่วนการเติบโตในประเทศไทยในส่วนของคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานส่วนบุคคลในปีที่ผ่านมานั้นก็สอดคล้องกับการเติบโตของ Lenovo ทั่วโลก
กล่าวสรุปคือ เป็นปีที่ Lenovo มีการเติบโตทั่วโลกรวมถึงในไทย
จากสถิติของ IDC สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2021 Lenovo ยังครองส่วนแบ่งตลาด จำนวนส่งมอบ PC อันดับ 1 ของโลกที่ 24.3%
คำถามต่อมาคือ กลยุทธ์อะไรที่ทำให้สินค้าของ Lenovo เหนือกว่าแบรนด์อื่น ?
คุณวรพจน์อธิบายว่า Lenovo ใช้กลยุทธ์ที่เข้าใจได้ง่ายแต่ลึกซึ้งนั่นคือ เรารับฟังความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา และเรานำความต้องการของลูกค้ามาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์
ซึ่งหากจะพูดในภาษาของการตลาดก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นแบบ “Inclusive Marketing” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดยุคใหม่ล่าสุด หรือ Marketing 5.0
คำว่า Inclusive คือต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงแล้ว ต้องเน้นให้ลูกค้ามีส่วนร่วม อย่างเช่น ลูกค้าฟีดแบ็กมาว่าอยากให้มีเทคโนโลยีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาในสินค้า เราก็นำโจทย์ตรงนั้น มาพัฒนาให้เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ใช้งานได้จริง เพื่อให้มาตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้น
และคำว่า Inclusive ที่ว่านี้ ไม่ได้เจาะจงแค่สนใจใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
แต่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ตามวิสัยทัศน์ที่ Lenovo ตั้งไว้ว่า “Smarter Technology for All”
เรามีทีมที่ดูแลในแต่ละประเทศ ที่คอยรับฟังฟีดแบ็ก และทำความเข้าใจตลาดของแต่ละประเทศอย่างลึกซึ้ง
อีกทั้งยังเน้นการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ในแต่ละประเทศอย่างเข้มแข็ง ซึ่งทำให้ Lenovo สามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ กลุยุทธ์อีกอย่างที่สำคัญคือการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง คือ Lenovo ทุ่มเทและให้ความสำคัญอย่างมาก กับเรื่องการวิจัยพัฒนา (R&D)
ในปีงบประมาณ 2019/2020 Lenovo ลงงบประมาณในส่วน R&D สูงถึง 42,000 ล้านบาท โดยทางบริษัทมี 15 ศูนย์วิจัยพัฒนาทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 3,200 คน ดูแลในส่วนนี้โดยเฉพาะ
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกลยุทธ์ในภาพรวม ที่ทำให้ Lenovo ยืนหนึ่งในตลาดนี้ได้
ลงทุนแมนถามต่อว่า ผู้บริโภคยุคนี้มีความต้องการหลากหลายมาก
บางคนต้องการ PC ไปทำงาน บางคนต้องการไปดูหนัง ฟังเพลง บางคนเอาไปเล่นเกม ตรงนี้ Lenovo มีกลยุทธ์ไปจับความต้องการที่แตกต่างเหล่านั้นอย่างไรบ้าง ?
คุณวรพจน์บอกว่า Lenovo นำเทคโนโลยีที่พัฒนา มานำเสนอเป็นสินค้าและบริการที่หลากหลายออกสู่ตลาด ซึ่งก็เพื่อมาจับความต้องการของลูกค้าที่มีหลากหลายในยุคปัจจุบัน
ยกตัวอย่างเช่น
- ซีรีส์ “IdeaPad” ที่นำเสนอออกมาเพื่อเจาะตลาดกลุ่มเริ่มต้น ที่ทั้งใช้ทำงานและใช้งานทั่วไป อย่างเช่น ดูหนัง ฟังเพลง ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุด
- ซีรีส์ “Yoga” ที่ถูกนำเสนอเป็นโน้ตบุ๊กกลุ่มพรีเมียม มีนวัตกรรมล้ำ ๆ เช่น จอที่พับได้องศากว้าง ตอบโจทย์กลุ่มทำงานและกลุ่มใช้งานทั่วไประดับสูง ที่ต้องการความยืดหยุ่น รูปลักษณ์ดีไซน์ที่แสดงออกถึงความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคล มีลูกเล่นเยอะ และมีเทคโนโลยีล้ำ ๆ
- โน้ตบุ๊กเกมมิง อย่างซีรีส์ “Legion” ที่เน้นให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมสูงสุด มีสเปกการใช้งานที่คุ้มราคา และมีเทคโนโลยีที่ซัปพอร์ตการเล่นเกมให้ลื่นไหลอย่างเต็มที่
- Desktop ตั้งโต๊ะ IdeaCentre สำหรับผู้ที่ต้องการคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ที่สามารถใช้งานได้ร่วมกันทั้งครอบครัว มีดีไซน์ที่สวยงาม ไม่เทอะทะ
โดยนอกจากไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมความต้องการที่แตกต่างแล้ว Lenovo ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใส่ไว้ในผลิตภัณฑ์เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภค
ยกตัวอย่างเช่น
- เทคโนโลยี Presence Detection with Zero touch Login หรือการสแกนใบหน้าผ่าน Web Camera เพื่อปลดล็อกเครื่อง และล็อกเครื่องอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เดินออกไปจากบริเวณหน้าจอ
- เทคโนโลยี Lenovo Q-Control ซึ่งใช้ AI มาช่วยเรื่องการจัดการพลังงานให้เหมาะสมกับการใช้งาน
- เทคโนโลยี Privacy Shutter ที่เป็นฝาครอบเพื่อเปิดปิด Web Camera ป้องกันการถูกแอบถ่าย ให้ความเป็นส่วนตัว
และยังมีเทคโนโลยีที่เน้นเรื่องสุขภาพของผู้ใช้ อาทิ
เทคโนโลยี Lenovo Aware ที่ช่วยมอนิเตอร์ท่านั่งให้ถูกตามหลักสรีระ และแจ้งเตือนถ้าเรานั่งผิดท่า หรือนั่งใกล้หน้าจอเกินไป
นอกจากนี้ยังมอนิเตอร์เวลาใช้เครื่อง มอนิเตอร์ความสนใจ
มีเทคโนโลยี Eye Care ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าจากหน้าจอ, Noise Cancellation ช่วยลดเสียงรบกวน ซึ่งชัดเจนว่าเทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ในปัจจุบัน ตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่ที่ลูก ๆ ต้องเรียนออนไลน์
คำถามต่อมาคือ ตลาด PC ในอนาคตต่อจากนี้ จะยังเติบโตได้ดีอีกไหม ?
คุณวรพจน์มองว่า Lenovo จะยังคงเติบโตได้ดีต่อไปเนื่องจาก PC ได้กลายเป็น Commodity product ซึ่งทุกคนต้องใช้ในชีวิตประจำวันไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นทางศูนย์วิจัยของ Lenovo มีการวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมของผู้คนในอีก 3-5 ปีข้างหน้าแล้ว ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วนำผลที่ได้ มาออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่จะนำเสนอในอนาคต
อย่างเช่น เทรนด์การใช้งาน 5G และ Wi-Fi 6 ที่จะมาพร้อมกันกับพฤติกรรมคนที่จะยิ่งใจร้อนขึ้น ต้องการการบริการที่ปัจจุบันทันด่วนมากขึ้นกว่าเดิม
เพราะฉะนั้นวิธีการนำเสนอสินค้าก็ต้องตอบโจทย์กลุ่มนี้ในอนาคต และต้องมีการพัฒนาบริการหลังการขายให้ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น ไม่ให้ผู้บริโภคต้องรอนานหากเกิดปัญหา
คุณวรพจน์เชื่อว่า Lenovo เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการอะไรอยู่ตลอดเวลา และพัฒนาสินค้า บริการใหม่ ๆ มานำเสนอให้ตรงจุด ซึ่งก็จะทำให้ Lenovo สามารถเติบโตได้ดีต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคต
คำถามต่อมาคือ Lenovo มีการออกแบบและจัดการบริการหลังการขาย รวมถึงเรื่องรับประกันคุณภาพสินค้าอย่างไรให้ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ?
ประการแรก: Lenovo ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานทั่วไป หรือที่เราเรียกว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ นั้นมีการรับประกันที่เราเรียกว่า Premium Care
ซึ่ง Premium Care เป็นบริการหลังการขาย เช่น รับประกันสินค้าอย่างต่ำ 3 ปี เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจในคุณภาพของสินค้า และใช้งานสินค้าได้อย่างอุ่นใจเป็นเวลานาน ๆ โดยเราจะมีช่างเทคนิคผู้มีความรู้คอยเป็นผู้ตอบคำถามถ้าลูกค้าต้องการโทรปรึกษาข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง และตลอด 7 วัน
ประการที่สอง: Lenovo มีการรับประกันอุบัติเหตุ หรือ Accidental Damage Protection (ADP) ให้ตั้งแต่เครื่องที่ราคาหมื่นต้น ๆ ขึ้นไป
ประการที่สาม: บางรุ่นจะมีบริการ Next Business Day เช่น โทรเข้ามาแจ้งความผิดปกติของเครื่องในเช้าวันจันทร์ จะมีทีมงานเข้าไปดูแลถึงที่อย่างเร็วที่สุดภายในเย็นวันอังคาร
ประการที่สี่: มีซอฟต์แวร์ “Lenovo Vantage” ที่เอาไว้ช่วยประเมินอาการเสียหายเบื้องต้น ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้ ช่วยยกระดับการบริการหลังการขายให้ดีขึ้น เพราะจะทำให้ทีมบริการหลังการขายหรือผู้ใช้งานเอง ทราบอาการเบื้องต้นได้ทันทีเมื่อเช็กผ่านซอฟต์แวร์
นอกจากนั้น สำหรับโน้ตบุ๊กเกมมิงอย่างซีรีส์ Legion
Lenovo ก็มีบริการหลังการขาย Legion Ultimate Support
ที่มีคอลเซนเตอร์ที่เป็น Gamer Engineer คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สามารถช่วยแก้ปัญหาการใช้งานเบื้องต้นสำหรับโน้ตบุ๊กเกมมิงได้ทันที ไม่ต้องรับเรื่องไว้แล้วไปประสานงานต่อ
คำถามสุดท้ายคือ Lenovo มีแผนจะทำอะไรใหม่ ๆ ในอนาคตอีกบ้าง ?
ทางคุณวรพจน์และ Lenovo เชื่อว่า อีกไม่เกิน 5 ปี ทุกอย่างจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ ซึ่งจะทำให้ Smart Home กลายเป็นเรื่องพื้นฐานของแต่ละครัวเรือนมากขึ้น และจะเป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต
เรากำลังเข้าสู่ยุค Data Driven Society ซึ่งเมื่อรวมกับพฤติกรรมผู้บริโภคแบบปัจจุบันทันด่วนขึ้น เทคโนโลยีก็ต้องรวดเร็วทันใจ
ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ 5G หรือ Wi-Fi 6 ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่บ้าน
หรือคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก ที่ใช้ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก เพื่อเสริมศักยภาพให้การใช้งานของผู้ใช้ เพราะสังคมทุกวันนี้ข้อมูลมันเยอะกว่าสมัยก่อนมาก และแน่นอนว่าจะมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
นั่นจึงเป็นที่มาให้ Lenovo กำลังจะนำเสนอดีไวซ์และโซลูชันเหล่านี้มากขึ้น ในอนาคต
ขณะที่คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก ก็จะเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน
ซึ่งคนจะเลือกจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ มีเทคโนโลยีที่ครบ และบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์
ในอนาคต Lenovo ตั้งใจจะมีพื้นที่รับฟังลูกค้าที่มากขึ้น
เพื่อฟังความเห็น รับฟีดแบ็กและข้อแนะนำให้เต็มที่
เพราะฟีดแบ็ก ข้อแนะนำ และคำติชม คือสิ่งมีค่าที่สุด ที่บริษัทสามารถนำไปพัฒนาแล้วต่อยอดออกมาเป็นสินค้าและบริการที่ตอบความต้องการของผู้ใช้งานต่อไปได้
เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ข้อมูลขับเคลื่อนโลกและสังคม
ยุคที่คนต้องการคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก ที่มีประสิทธิภาพที่สุดมาใช้
ยุคที่คนต้องการการบริการที่รวดเร็ว ไม่เชื่องช้า
ยุคที่ข้อมูลและทุกสิ่งทุกอย่าง จะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ
ยุคที่ต่อไปเราจะคุ้นชินกับ Smart Home และ Smart Devices
ซึ่งแน่นอนว่า Lenovo ก็มีความพร้อมเต็มที่
ที่จะเดินหน้าพัฒนา และนำเสนอสินค้าและบริการ
ให้มาตอบโจทย์ความต้องการต่าง ๆ เหล่านั้น ในอนาคต..
References
- https://investor.lenovo.com/en/publications/reports.php
- https://www.statista.com/statistics/255283/lenovos-rundd-expenditure/
- https://www.idc.com/getdoc.jsp?containerId=prUS47601721
- บทสัมภาษณ์ คุณวรพจน์ ถาวรวรรณ ผู้จัดการทั่วไป Lenovo ประจำพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ของ Lenovo ไทย โดยเพจลงทุนแมน
data-driven business 在 數位時代Official Youtube 的最佳貼文
公司簡介
歐美國家的物業與居家服務產業需要能管理臨時人員進出,樂邦安控看到現有門禁和房產服務應該做更有效地結合,將門禁管理透過4G/5G連上雲端,提供更完整的權限管理以及連結相關房產服務,以因應日益增多的物業管理及居家服務自動化需求。整體解決方案包含硬體、管理軟體及雲端平台三要件。硬體解決方案為電子化鑰匙盒,其重要的環節是身份驗證,樂邦安控使用的動態二維碼識別已在美國申請專利,透過這樣的驗證方式,不只安全度提升、免除許多物業管理雜務,更有助於串連各項物業管理服務與居家服務,同時達到服務創新的目的。
At Lubn, we are enabling data-driven property management through an integrated hardware & software platform.
Did you know there were 138M properties in the US and near half of them were being managed by realtors or property managers last year? Yes, we want to help Property Manager’s and Realtors become more efficient at managing the properties. We developed an intelligent property management platform by integrating hardware, software and services. The hardware is an LTE connected smart key box with an embedded camera. The device collects the data with its embedded sensors and sends to Lubn Dashboard where we can provide Managers business intelligence. During the pandemic, Lubn enables contactless property management with our wireless technology.
公司網站
https://lubn.com/