สรุปข้อมูลคร่าวๆจาก Live เมื่อวานของ Endwalker
เนื้อหาหลักเป็น combat changes ที่จะมาถึงใน 6.0 ของแต่ละอาชีพค่ะ
เริ่มด้วย Job actions รวมท่าใหม่ๆของทุกคน
https://youtu.be/WCVcgZ8dtD0
ในเทรลเลอร์ ไม่ได้มีครบหมดทุกสกิล ตัดมาแค่บางส่วน เท่านี้ก็ยาวเกือบ 20 นาทีแล้ว
= แนวทางการปรับเปลี่ยนแต่ละอาชีพ =
จะต่อยอดจาก 5.0 เป็นหลัก ไม่กลับไปเพิ่มอะไรให้ซับซ้อนมากเหมือน 3.0
เปลี่ยนสกิลหลักๆส่วนมาก ให้ cd เป็น 60 หรือ 120 จะได้บัฟตรงกัน (มีแค่บางอันที่ยังเป็น 90 เช่น เลย์ไลน์แบลคเมจ)
ทุกอาชีพ มีการปรับสูตรคิดดาเมจแบบกายภาพ อาจจะเห็น potency บางท่าต่ำลง ซึ่งไม่ใช่การเนิร์ฟ แค่ปรับให้สมดุลกับดาเมจแบบเวท
Melee และ Tank ทุกอาชีพ ใช้ท่าระยะไกลระหว่างคอมโบได้ ไม่ทำคอมโบแตกแล้ว
** ทุกอย่างยังปรับอยู่ ไม่ใช่ final build บางอย่างก็อธิบายยาก จะค่อนข้างคลุมเครือ จะเอาชัวร์ให้รอดูของจริงใน early access 19 พ.ย.
** บางจ็อบเราไม่ค่อยได้เล่น อาจจะเข้าใจผิด/แปลผิด แก้ไข/ทักท้วงได้เลย!
.
.
= Tank =
การใช้บัฟป้องกันในเงื่อนไขเวลาที่เหมาะสมจะทำให้ได้ผลดีขึ้น อันนี้ยังไม่มีการลงรายละเอียดว่าเงื่อนไขที่เหมาะสมคืออะไร
PLD
•ความแรง Requiescat จะไม่แกว่งตาม mp ที่เหลืออยู่แล้ว
•Confiteor จะมีคอมโบสามท่า ดาบ ดาบ ดาบบ
•เพิ่มระยะ Intervene
DRK
•ไม่ต้องวางวง Salted Earth เองแล้ว จะเป็นการวางออโต้ที่ใต้เท้า และจะมีท่าใหม่ต่อจาก Salted Earth ด้วย
•Delirium เปลี่ยนเป็น 60 วิ
•เพิ่มระยะ Plunge
WAR
•ระยะเวลาดาเมจบัฟจะเพิ่มเวลาใช้ AoE
Onslaught กับ Upheaval จะไม่ใช้ Beast Gauge แล้ว
•มีท่าใหม่ใช้ต่อจาก Inner Release
•Inner Release เปลี่ยนเป็น 60 วิ
•Onslaught จะมีสามชาร์จ มีท่าใหม่ต่อ จะส่งผลกับ Nascent Flash
GNB
•Savage Claw กับ Wicked Talon จะเปลี่ยนเป็น Gnashing Fang เองบนฮอทบาร์ เพื่อประหยัดพื้นที่
•Continuation จะใช้ต่อจาก Burst Strike ได้
•เพิ่มเกจกระสุนเป็น 3 เม็ด
•เพิ่มระยะ Rough Divide
.
.
= Melee =
รีเวิร์คคนเดียวคือ MNK
Feints จะลดดาเมจทั้งกายภาพและเวท แต่จะลดกายภาพมากกว่า
DRG
•เพิ่มท่าในโรเตชั่น AoE
•ท่าใหม่เพิ่มจากคอมโบโรเตชั่น
•Blood of the Dragon เปลี่ยนเป็นเทรตแทน ไม่ต้องกดเปิด
•เพิ่มชาร์จ Spineshatter Drive
•Lance Charge เปลี่ยนเป็น 60 วิ
SAM
•ได้บัฟ Jinpu กับ Shifu จากคอมโบ AoE
•ท่าใหม่ฉบับปรับปรุงของ Iaijutsu กับ Tsubame-gaeshi
•Tsubame-gaeshi กับ Meikyo Shisui เพิ่มเป็น 2 ชาร์จ
•เวลาใช้ Meikyo Shisui พอถึงท่าที่สาม จะได้เอฟเฟกต์ท่าที่สองด้วย อันนี้ฟังไม่ค่อยเคลียร์ เข้าใจแบบว่าใช้ Kasha แล้วได้บัฟ Shifu เลย แบบนี้มั้งนะ
MNK รีเวิร์ค
•ใช้จักระได้ตั้งแต่เลเวลต่ำ
•Perfect Balance จะเปลี่ยนไปเป็นการใช้เพื่อสะสม Blitz (เม็ดสีๆในเกจ) จะได้ Blitz เวลาใช้ GCD ในช่วง PB
•สะสม Blitz จนครบเงื่อนไขจะกลายเป็นการเปิด หยิน หยาง และเข้าโหมด Masterful Blitz ให้ใช้ท่าใหม่ได้
•คอนเซ็ปต์อาชีพยังเป็นความไวในการรัวท่าเหมือนเดิม
•True Strike/Twin Snakes ไม่มี positional แล้ว
•เปลี่ยน Shoulder Tackle ไปเป็น gap closer แบบใหม่ ไม่มีดาเมจ ใช้พุ่งไปหาเพื่อนหรือศัตรูก็ได้
NIN
•เพิ่มท่าใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับ Raiton, Doton, Huton
•เพิ่มท่าที่บัฟ Huton ได้ง่ายขึ้น
•ถอด Shadow Fang ออก เลยจะไม่มีดอทแล้ว
Raijin กับ Bunshin จะมีท่าให้เกี่ยวเนื่องด้วยเช่นกัน
Reaper
อาชีพใหม่ใช้เคียวสองมือ สาย Str ใช้เกียร์ Maiming ร่วมกับดรากูนได้
•มีการบัฟปาร์ตี้ได้
•มีสองเกจให้คอยจัดการ โซลเกจในการใช้ท่าต่างๆ และอวาตาร์(ผี)เกจ
•ท่าในโหมดธรรมดาจะไม่มี positional แต่พอโดนผีสิงจะมี positional
•ดาเมจและท่าโจมตีจะเปลี่ยนไปเมื่อเข้าโหมดโดนผีสิง
•ท่า gap closer เป็นประตูมิติ วางทิ้งไว้แล้ววาร์ปไปได้
•ทีมงานคิดว่าอาชีพนี้จะเป็นที่นิยม เลยไม่ได้ออกแบบให้เล่นยากมากนัก แต่ก็จะสนุกท้าทายหากต้องการเล่นให้ดี
.
.
= Ranged =
สารภาพว่าไม่รู้เรื่อง เป็นโรลที่เราแทบไม่ได้แตะ lol ใครเมนก็มาช่วยเสริมตรงนี้กันได้
BRD
•ทั้งสามเพลงจะมีแอคชั่นใหม่ที่บัฟครอบคลุมทั้งปาร์ตี้
•มีท่าใหม่ต่อจาก Apex Arrow
•Wanderer’s Minuet และ Battle Voice ปรับ cd เป็น 120 วิ
MCH
•อุปกรณ์ใหม่ Chain Saw ให้ใช้ท่าใหม่ได้
•ท่าใหม่ของหุ่น Queen
•Reassemble มี 2 ชาร์จ
DNC
•Effect จากเวพ่อนสกิล เช่น Flourishing Cascade จะแชร์กันทั้งท่าเดี่ยว และ AoE
•ท่าใหม่หลังใช้ Technical Finish, Improvisation, Devilment
•ปรับให้การใช้พรอคเรียบง่ายขึ้นทั้งคอมโบเดี่ยวและ AoE
•ปุ่มจะเปลี่ยนเป็นท่าเดี่ยว หรือ AoE ตามโหมดที่เลือกใช้สเต็ป เพื่อประหยัดฮอทบาร์
.
.
=Caster=
รีเวิร์คคนเดียวคือซัมมอนเนอร์
BLM
•Enochian กลายเป็นเทรต เวลาใช้ Astral Fire รึ Umbral Ice
•ท่าใหม่เวลาเปลี่ยนสลับ Astral Fire และ Umbral Ice
•เพิ่มพรอคของ Fire 3 และ Thunder ให้นานขึ้น
•Fire II กับ Blizzard II จะมีขั้นต่อ คอมโบ AoE จะเปลี่ยนไป
•เพิ่มชาร์จ Sharpcast
RDM
•ท่าใหม่หลัง Scorch
•Verflare, Verholy, Scorch จะกลายเป็น AoE
•ท่าใหม่ Magic Barrier เป็นท่าซัพพอร์ตทั้งปาร์ตี้
•ปริมาณการใช้มานาขาวดำของหลายๆท่าจะลดลง
•ปรับ Manafication ให้เบิร์สตอนเปิดได้สะดวกขึ้น
•Embolden จะเป็น 120 วิ Manafication 110 วิ
SMN
เปลี่ยนเยอะจนแทบเรียกว่าอาชีพใหม่ได้เลย
•เอาท่าดอทออกทั้งหมด กลายเป็นซัมมอนเนอร์ที่แท้ทรู
•จะกลายเป็นการใช้ Ifrit, Garuda, Titan โจมตีด้วยท่าธาตุต่างๆ
•โรเตชั่นจะเรียงลำดับประมาณนี้ Demi-Bahamut/สามหน่อ/Phoenix
•การใช้ Ifrit/Garuda/Titan ไม่ต้องใช้เรียงลำดับตามคลิปก็ได้
•ยังมี Physick อยู่ (เพื่อออ)
.
.
=Healer=
ระยะเวลาร่ายท่าโจมตีจะลดลงเป็น 1.5 วิ
เพิ่มระยะลิมิตเบรคสามให้กว้างขึ้นจะได้ไม่มีคนตกรถเวลาชุบ
แบ่งเป็น Pure healer กับ Barrier healer อันแรกคือสายงัดเลือด ฟื้นฟู อันหลังคือสายเกราะ ลดดาเมจที่จะโดน
ทุกอาชีพจะได้บัฟเดี่ยวเพิ่ม
WHM
•เพิ่มขั้นของ Holy
•ถอด Fluid Aura ออก
•Divine Benison กลายเป็นท่ามีชาร์จ
AST
•ปรับเป็น pure healer ไม่มี Diurnal Sect และ Nocturnal Sect แล้ว
•ท่าทั้งหลายที่เคยมีแล้วยังอยู่ จะมีเอฟเฟกต์รีเจนแบบ Diurnal Sect
•Neutral Sect ยังมีเอฟเฟกต์เกราะอยู่
•ปรับ Divination และ Minor Arcana
•Redraw ใช้ได้ครั้งเดียวหลังทุกการ Draw
ท่า AoE ใหม่จะมีคุณสมบัติฟื้นฟูและเป็น offensive ด้วยพร้อมกัน
SCH
•ปรับเป็น barrier healer
•ท่าใหม่เพิ่มความเร็วในการวิ่งของปาร์ตี้ ใช้ในคอมแบทได้
•ท่าใหม่บัฟแรงให้เป้าหมายเดี่ยว
SAGE
อาชีพใหม่ใช้อาวุธที่เรียกว่าโนลิธ เป็น barrier healer เด่นที่ท่าโจมตีจะทำการฮีลไปด้วย
•Cardia เป็นบัฟแปะเพื่อน พอโจมตีแล้วจะฮีลสมาชิกที่เลือกไว้
•มีโอกาสทำให้ศัตรูติดดอทเวลาโจมตี
•Adder’s Gall ใช้กางโล่ให้เพื่อน
•ท่ากางปีกบินคือ gap closer ชื่อท่า Icarus
.
.
= อัพเดตเรื่องอื่นๆ =
จะมีการจัดมีเดียทัวร์เหมือนที่เคยทำมาทุกภาค เป็นการเชิญสื่อเกมและสตรีมเมอร์มาทดลองเล่น ยกตัวอย่างของ ShB ตอนนั้นให้ไปลองเล่น Titania และ ดันเจี้ยน Dohn mheg
รอบนี้ก็คงคล้ายๆกัน คือให้ลองอาชีพใหม่และการปรับปรุงอาชีพเก่าทั้งหลาย ก่อนจะให้นำฟุตเตจไปเผยแพร่บางส่วนอีกที
มีกำหนดการให้สื่อเปิดเผยฟุตเตจที่ว่ากลางเดือนตุลาคม
UI จะมีการปรับให้สอดคล้องการเปลี่ยนแปลงแต่ละอาชีพ และเพิ่มรายละเอียด ui ของ party list ให้ดูได้ว่าคนไหนเลือกเป้าหมายไหนอยู่ (ทีนี้จะได้ไม่ชุบซ้ำกัน)
Party Finder ปรับให้เปิดเฉพาะคนยังไม่ได้ลูทวีคลี่ได้ และสามารถปรับให้ไม่โชว์ปาร์ตี้ที่เข้าไม่ได้ เช่น ปาร์ตี้ที่ตั้งไว้ว่า One Player per Job แล้วเราไม่มีอาชีพที่ว่าง
ในเมนู PF จะมีให้ตั้งรับ Pure healer/Barrier healer แยกกัน รวมถึงใน DF ก็จะ prioritize ให้เวลาจับตี้มีอย่างละคน
Raids กับ trials เก่าๆ นอกจากอาสุธสุ่มดรอปแล้ว จะเพิ่มหีบอาวุธให้อีกต่างหาก ถ้าได้หีบมาแล้วอยากได้อาวุธอาชีพอะไรก็เอาไปเปิดเอง เพราะตอนนี้อาชีพเยอะมาก รอสุ่มตรงจ็อบจะนานเกินไป
จะถอด Unreal trials ออกก่อนชั่วคราว แล้วกลับมาใน 6.1 พร้อมอัพเดตเป็นตัวใหม่ที่ไม่ใช่ลิไวอาธาน
ไอเท็มหลายๆอย่าง เช่นพวกของจาก DoL จะไม่มีแบบ HQ แล้ว เพื่อประหยัดพื้นที่เก็บของ เอฟเฟกต์ในการคราฟต์จาก HQ ก็จะปรับให้สมดุล สกิลของ DoL ก็จะมีการปรับใหม่ด้วย
เกียร์คราฟต์ ยังมีแบบ HQ อยู่
ค่าวาร์ป ปรับใหม่ ให้เปลี่ยนราคาตามระยะทางโดยจะทะลุ 1,000 กิลได้หากอยู่ไกลมากๆ (จากภาพ คุกาเนะ 1,500 กิล แพงกว่าไปเดอะเฟิสต์..)
มีการปรับเมนูให้โชว์แผนที่เวลาวาร์ประหว่างเสาเล็กในเมือง และคลิกวาร์ปได้เลย
เนื่องจากต้องแก้ไขปัญหาผู้เล่นใหม่เพิ่มไวจนเซิฟเต็ม จึงจะเลื่อนระบบ Data Center Travel ไปออกหลัง Endwalker
งาน TGS (30 ก.ย. นี้) โยชิพีจะมีไปออกไลฟ์เดินเล่นในเซิฟต่างๆ และมีดิสคัสเรื่องเกม RPG กับฮิโรโนบุซากากุจิ (ผู้ให้กำเนิดFF) แต่คาดว่าจะไม่ได้เปิดเผยอะไรใหม่ๆของ Endwalker ในงานนี้ เป็นอีเวนต์คอมมูเฉยๆ
สำหรับไลฟ์อัพเดตครั้งถัดไป จะมี Live letter อีกทีก่อนเกมออก กำหนดถ่ายทอดสดเป็นวันที่ 5 พฤษจิกายน จะพูดถึงระบบอื่นๆที่ไม่ใช่คอมแบท (เดาว่า น่าจะมี Launch/Final trailer งานนี้)
#FFXIV
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過1萬的網紅translation,也在其Youtube影片中提到,#'96年レア社が開発、任天堂が発売したSFC版ドンキーコング3作目。 クレミス島へ探検に行ったきり消息不明になったドンキーとディディーを探しにディクシーとディンキーが出発した。アニマルフレンドのうちランビ・ラトリー・クラッパー・グリマーが降板、エリーとパリー(+α)が追加。DKコインに加え、バナナ...
cascade effect 在 fluke - alwaysfluke.com Facebook 的精選貼文
เป็นน้ำหอมที่ประหลาดและผ่าเหล่าที่สุดที่ผมเคยมีมา และนี่คือคำอธิบายของกลิ่นนี้ครับ
Like blood, sweat, sperm, saliva, Sécrétions Magnifiques is as real as an olfactory coitus that sends one into raptures, to the pinnacle of sensual pleasure, that extraordinary and unique moment when desire triumphs over reason. Masculine tenseness frees a rush of adrenalin in a cascade of high-pitched aldehydic notes. The sensation of freshness is gripping. Then the fragrance reveals a metallic side, precise and as sharp as unappeased desire. We are on a razor-edge... skin and sweat mingle, and tastes of musk and sandalwood. The slightly salty marine effect stirs, arouses, and sets your mouth watering. Tongues and sexes find one another, pleasure explodes and all goes wild. Confusion reigns supreme. A subversive, disturbing perfume. It’s love or hate at first sight. Sensuous jousting is rarely satisfied with half- measures... In between Don Juan and the woman who offers herself, arms are laid down... Who will be the first to surrender?
With almost a cult of love or hate, Sécrétions Magnifiques shook up the perfume world when it was launched, and it still does. A work of conceptual perfumery designed to speak to all the senses at once. One rule: attraction and repulsion.
หากคุณกล้าพอสั่งได้ที่ร้าน Faceco ครับ
cascade effect 在 堅離地城:沈旭暉國際生活台 Simon's Glos World Facebook 的最佳貼文
【#TheDiplomat: 沈旭暉隨緣家書英文版🇭🇰】很久沒有向國際關係評論網 The Diplomat 供稿,但國際線十分重要,不應放棄。這次他們希望分享23條、國安法、反恐法風雨欲來的「新香港」前瞻,願國際社會能多了解快將出現的危機:
While the world is preoccupied with a fight against the COVID-19 pandemic, Beijing has been tightening its political grip on all aspects of Hong Kong’s civil society. Rumor has it that Beijing will push through legislating national security laws under Article 23 of Hong Kong’s Basic Law by unconventional means, such as massively disqualifying pro-democratic legislators or even directly applying a national law, widely argued as a major step to destroy the rights and freedom of Hong Kongers, and bring Chinese authoritarianism to Hong Kong.
After the 2019 protests, the administration of Carrie Lam, who theoretically is still leading the special administrative region of China, has little political capital at stake, with its legitimacy reaching rock bottom. The pro-government camp has dwindling prospects for the city’s upcoming Legislative Council election. The government‘s ”nothing to lose“ mentality is apparent from its recent blatant reinterpretation of the Basic Law’s Article 22 (another article that limits the influence of China’s offices in Hong Kong’s internal affairs). The debate is nothing new, but the pressure this time is quite different.
This article highlights the different strategies Beijing could adopt to enact Article 23 insidiously or under disguise to avoid backlash from the international community, while continuing to reap benefits from the city’s globally recognized special status. This seems to be part of Beijing’s brinkmanship to bring Hong Kong protesters and their supporters to their knees and move the city closer to authoritarianism. To counter these moves, Hong Kongers must define the boundaries beyond which Hong Kong falls into authoritarian rule and make a case as to why the city’s downfall is detrimental to the international community‘s interest.
The Long-Term Controversy Over National Security Laws
Back in 2003, the implementation of Article 23 was thwarted by the moderate pro-establishment politician James Tien. In face of overwhelming public disapproval of the law, he withdrew support and votes from his Liberal Party. However, 17 years later, it is hard to imagine Beijing following the old legislative playbook: start with a public consultation, followed by public discourse and political debate, and end with the majority rule. This playbook only works in peaceful societies ruled by a trustworthy government with integrity.
The aftermath of 2003, as well as the 2019 protests, should have taught Beijing and the Hong Kong government a lesson: pushing through national security legislation in a flawed parliament controlled by the minority pro-government camp would inevitably set off another full city-scale protest — and undoubtedly more fierce and focused this time. Given the current government’s numerous displays of dishonesty, it is conceivable that they will embark on a less-traveled path to implement Article 23.
Strategy One: “Anti-Terrorism”
In principle, one possible strategy could be to directly enact Chinese national law across Hong Kong, which can be achieved by declaring a state of emergency in the city. However, this is risky business as it would tarnish the integrity of “one country two systems” and subsequently Hong Kong’s international standing. Beijing, a risk-averse regime, is also unwilling to see Hong Kong’s status as a middleman for laundering money disappear into thin air.
Instead, Beijing could be concocting a narrative that would see Chinese national law applied to Hong Kong while not damaging Hong Kong’s international standing and Beijing’s own interests. The key word in this script is “anti-terrorism.” As early as 2014, pro-Beijing scholars have been claiming the emergence of “local terrorist ideology” on Hong Kong soil. Since the anti-extradition bill protests last year, government rhetoric frequently described the protests, which caused no deaths at all in the entire year, with phrases like “inclination to terrorist ideology.” That was a signal to the world that Hong Kong’s internal conflicts had ballooned into a national security issue. This gives the government the legitimacy to justify the implementation of Chinese national laws across the highly autonomous region to counter terrorism. The Chinese government knows that if it can persuade the world that terrorism exists in Hong Kong, and that it is as severe as the terror threat facing many other nations today, the international community will be less critical of Beijing’s actions in Hong Kong. Enacting Chinese laws directly is a convenient path that will save Beijing from having to tackle Hong Kong’s internal conflicts, basically turning the Hong Kong issue into a nonissue.
Strategy Two: Stacking the Legislature by Disqualifying Candidates
An even bolder strategy was probably foretold by a recent incident where the Hong Kong government and Beijing’s agencies for Hong Kong affairs (HKMAO and the Liaison Office) jointly criticized lawmaker Dennis Kwok for filibustering, framing it as “misconduct in public office” and “violating his oath.” It is incomprehensible to claim that filibustering goes against a lawmaker’s main duty; rather, it is common understanding that legislative work includes debating the law and representing public opinion against unreasonable laws. In a parliament controlled by the minority, pro-democratic members representing the majority of Hong Kongers are forced to express their objections using means like filibustering. Wouldn’t a lack of different political opinions turn the legislative branch into a rubber-stamp institution?
The above allegation has set a dangerous precedent for twisting the logic behind a certain provision in the Basic Law to target opposing lawmakers. In other words, to fulfill Beijing’s interpretation of the principal requirement for holding public office in Hong Kong, one could be required to take a meticulously legalistic approach to uphold the Basic Law down to its every single wording. A public official, by this new definition, not only needs to support “one country, two systems” or object Hong Kong independence, but also must abide by every single provision in the Basic Law. Worst of all, based on the previous cases, whether an official’s words or actions oversteps a provision is up to Beijing’s interpretation of his/her “intent.”
If this approach is applied, in the next election, there might be additional official questions for screening candidates like the following: “The Basic Law states that the enactment of Article 23 is a constitutional duty. Failing to support Article 23 legislation violates the Basic Law. Do you support it?” This question would suffice to disqualify even moderate or even pro-establishment candidates like James Tien. Even if any pro-democratic candidates were elected, once Article 23 re-enters the legislative process, they could risk ouster by raising objections.
Despite the absurdity of this tactic, the Chinese regime may just be tempted enough if such a strategy could resolve two of China’s current nuisances — voices of dissent in the Legislative Council and the previous failure to implement Article 23.
Strategy Three: The “Boiling Frog Effect”
Article 23 is not yet implemented, but the dystopian world that the protesters pictured in 2003 is already becoming reality. Regular citizens have been persecuted for “sedition” for sharing their views on social media or participating in legal protests; workers face retaliation for taking part in strikes; corporations are pressured to publicly side with the government’s stance; employees who have the “wrong” political views are fired; schools have been closely monitored for teaching material; protest-supporting fundraisers were framed for money laundering; a retweet or like may lead to persecution, under a colonial-era law. Only now have Hong Kongers woken up to their new reality — although the Basic Law technically protects citizens’ rights to speak, rally, march, demonstrate, and go on strike, the government could enfeeble civil rights by bending antiquated laws and legal provisions. The frequent abuse of law enforcement power on a small scale, such as improper arrests and police violence, is desensitizing the public and the international community. In a few years, Hong Kong will become unrecognizable. This is indeed a clever play on Beijing’s part to slowly strip away Hong Kong’s autonomy and freedom, without causing much international attention.
Counter-Strategies Against Beijing’s Brinkmanship
Beijing’s overarching goal is to hollow out Hong Kong but, at the same time, avoid major backlash from the international community, which could spell the end of the privileged global status of Hong Kong not granted to other Chinese cities. Beijing also aims at preventing single incidents that could cascade down into mass protests as seen in 2003, 2014, and 2019; and eliminating any resistance forces from within Hong Kong’s legislature. The tactics outlined above are typical in a game of brinkmanship.
In response, Hong Kongers in Hong Kong and on the so-called “international frontline” must know their strengths and bargaining chips on this negotiating table with Beijing.
Unlike Xinjiang and Tibet, Hong Kong is a city with transparency and free flow of information. Hong Kongers need to make a case to the world that the protests are not acts of terrorism. Some suggestions include comparing the Hong Kong protests to similar struggles in 20 or so other counties in the world at the present time, none of which were classified as terrorism; collecting a large amount of concrete evidence of the disproportionate use of force by the Hong Kong police; and showing how enacting Chinese national laws in Hong Kong will end the city’s autonomy and spell disaster for international community‘s interests.
The Legislative Council is the institution that can counteract Beijing’s “boiling frog” strategy and to keep Hong Kongers’ hope alive in the system. Those who plan to run for legislative office must be prepared to be disqualified from running. If only individuals are banned, there need to be alternative candidates as back-up plans. However, if and when the disqualification process is applied broadly to entire camps of candidates (for example, all who object to Article 23), the pro-democracy camp must make a strong case to the Hong Kong and global public that this is the endgame for Hong Kong democracy. Then the incumbent popularly elected legislators will hold the internationally recognized mandate from the public and serve as the last resistance.
These recommendations delineates how the slogan “if we burn, you burn with us,” often seen in the protests, may play out in the game of international relations. If the national security laws are “passed” by a legislature that is jury-rigged in this manner, or if related national laws are directly implemented in Hong Kong, Hong Kongers should signal clearly to the world that it goes way beyond the promised “one country, two systems.” Crossing this red line by Beijing should be seen by the world as a blunt violation of its promised autonomy to Hong Kongers. At that time, if the international community led by the United States and the United Kingdom decided to revoke the “non-sovereignty entity” status of Hong Kong and regard the SAR as an ordinary Chinese city, it shouldn’t come as a surprise.
Dr. Simon Shen is the Founding Chairman of GLOs (Glocal Learning Offices), an international relations start-up company. He also serves as an adjunct associate professor in the University of Hong Kong, Chinese University of Hong Kong and the Hong Kong University of Science and Technology, and associate director of the Master of Global Political Economy Programme of the CUHK. The author acknowledges Jean Lin, Coco Ho, Chris Wong, Michelle King, and Alex Yap for their assistance in this piece.
▶️ 高度自治 vs 全面管治
https://www.youtube.com/watch?v=pwt8wZl8jHQ
cascade effect 在 translation Youtube 的精選貼文
#'96年レア社が開発、任天堂が発売したSFC版ドンキーコング3作目。
クレミス島へ探検に行ったきり消息不明になったドンキーとディディーを探しにディクシーとディンキーが出発した。アニマルフレンドのうちランビ・ラトリー・クラッパー・グリマーが降板、エリーとパリー(+α)が追加。DKコインに加え、バナナバードの収集は真のEDを迎えるアイテム。
効果音:イーブリン・フィッシャー氏、 作曲:イーブリン・フィッシャー氏、デビッド・ワイズ氏。
Manufacture: 1996.11.23 nintendo / Rare
Hardware: spc700
computer: super famicom
Sound effect: Eveline Fischer
composer: Eveline Fischer, David Wise
-----------------------------------------------------------------------------------------
00:00:00 01.Fanfare (オープニング)
00:00:14 02.Dixie Beat (タイトル~デモ画面 *前々作のボーナスステージのアレンジ)
00:00:59 03.Crazy Calypso (ァイルセレクト)
00:03:22 04.Northern Kremisphere (クレミス島マップ)
00:05:58 05.Hangin' at Funky's (ファンキーのボート小屋)
00:09:23 06.Wrinkly's Save Cave (リンクリーのほら穴 *前々作のジャングルステージのアレンジ)
00:12:09 07.Get Fit A-Go-Go (リンクリーのほら穴/エアロビ中)
00:14:15 08.Wrinkly 64 (リンクリーのほら穴/ゲーム中 *スーパーマリオ64のピーチ城のアレンジ)
00:17:02 09.Brothers Bear (クマの小屋)
00:19:45 10.Submap Shuffle (ステージマップ)
00:23:00 11.Swanky's Sideshow (スワンキーのテント)
00:25:26 12.Cranky's Showdown (クランキーと対戦中)
00:26:28 13.Showdown Win! (クランキーに勝利「あんたのかち」)
00:26:34 14.Showdown Lose... (クランキーに敗北「あんたのまけ」)
00:26:43 15.Bonus Time! (ボーナスステージ)
00:30:18 16.Bonus Win! (ボーナスクリア)
00:30:22 17.Bonus Lose... (ボーナスミス)
00:30:27 18.Stilt Village (1-1「湖のほとり」,1-3「ながれにさからえ」,3-3「クラスプ ロープ」)
00:33:18 19.Mill Fever (1-2「シャッターをかけぬけろ」,1-5「こわがりエリー」,2-3「スクイール ホイール」)
00:36:28 20.Jangle Bells (クリスマスモードでのボーナスステージ)
00:38:55 21.Frosty Frolics (1-4「スリップ スリップ」,5-5「レンギンのにわ」)
00:43:00 22.Treetop Tumble (2-1「タルのシールド」,2-4「ジャンピング スパイダー」,4-3「ハラハラのこぎり」,8-4「スイーピーのもり」)
00:45:51 23.Enchanted Riverbank (2-5「おりこうエリー」,7-3「カミナリに気をつけろ」)
00:49:32 24.Hot Pursuit (2-2「リバーサイドレース」,4-2「ダクト コースター」,5-2「とまらない とめられない」,8-1「ぼうそうエリー」)
00:52:58 25.Water World (3-1「バッザーの湖」,3-5「はらペコ ニブラ」,6-3「暗やみ すい中めいろ」)
00:57:11 26.Cascade Capers (3-2「タルでたきのぼり」,3-4「たきのぼり ふたたび」,5-3「ながれゆくタル」)
01:00:16 27.Nuts and Bolts (4-1「ファイヤーボール カービン」,4-4「タルタルパニック」,5-4「ねらわれたスクイッター」)
01:03:06 28.Pokey Pipes (4-5「ふわふわダクト」,7-5「さかさまパイプライン」)
01:05:42 29.Rockface Rumble (5-1「クレバスをのぼれ」,6-2「ファイヤーロープ パニック」,6-5「ロープで大さわぎ」,8-2「タル100れんぱつ」)
01:08:58 30.Jungle Jitter (7-1「コンベア ロープ」,7-4「コインドーザーのもり」)
01:11:43 31.Cavern Caprice (6-1「とつげきコークス」,6-4「ともだちがいっぱい」,7-2「おばけタルのどうくつ」,8-3「さいきょうのふたご」)
01:14:42 32.Rocket Run (8-5「ポンコツロケットでゴー」)
01:18:22 33.Boss Boogie (ボス戦)
01:21:42 34.Crystal Chasm (バナナバードの洞窟)
01:23:28 35.Krematoa Koncerto (クレマトアとう)
01:26:34 36.Big Boss Blues (バロンクルール戦)
01:29:06 37.Mama Bird (バナナクイーン)
01:32:00 38.Chase (ラスボス逃走/クイーン襲撃)
01:33:20 39.Baddies on Parade (エンディング)
01:36:07 40.Game Over (ゲームオーバー)
01:36:51 41.Brothers Bear Blues
01:39:33 42.Banana Bird!
01:39:38 43.Invincible Stars
01:40:40 44.Lose Life (Big Boss)
01:40:46 45.Lose Life (Boss Battle)
01:40:52 46.Lose Life (Caves)
01:40:59 47.Lose Life (Chase)
01:41:05 48.Lose Life (Christmas)
01:41:11 49.Lose Life (Factory)
01:41:17 50.Lose Life (Jungle)
01:41:22 51.Lose Life (Mill)
01:41:28 52.Lose Life (Mountain)
01:41:33 53.Lose Life (Pipes)
01:41:39 54.Lose Life (River)
01:41:45 55.Lose Life (Rocket)
01:41:51 56.Lose Life (Snow)
01:41:57 57.Lose Life (Trees)
01:42:03 58.Lose Life (Underwater)
01:42:08 59.Lose Life (Village)
01:42:14 60.Lose Life (Waterfall)
01:42:20 61.Stage Clear (Big Boss)
01:42:25 62.Stage Clear (Boss Battle)
01:42:30 63.Stage Clear (Caves)
01:42:34 64.Stage Clear (Chase)
01:42:39 65.Stage Clear (Christmas)
01:42:43 66.Stage Clear (Factory)
01:42:48 67.Stage Clear (Jungle)
01:42:52 68.Stage Clear (Mill)
01:42:57 69.Stage Clear (Mountain)
01:43:02 70.Stage Clear (Pipes)
01:43:06 71.Stage Clear (River)
01:43:11 72.Stage Clear (Rocket)
01:43:16 73.Stage Clear (Snow)
01:43:21 74.Stage Clear (Trees)
01:43:26 75.Stage Clear (Underwater)
01:43:30 76.Stage Clear (Village)
01:43:34 77.Stage Clear (Waterfall)
-----------------------------------------------------------------------------------------