[History] 13 พ.ย. ครบรอบ 12 ปี การวางจำหน่าย Assassin's Creed ภาคแรก จากภาคต่อของ Prince of Persia สู่แฟรนไชส์ขายดีตลอดกาลของ Ubisoft
.
วันนี้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่าย ภาคแรกของเกมแอคชั่นลอบเร้นโลกเปิดอิงประวัติศาสตร์เกมหนึ่ง ที่มันได้วางรากฐานตัวมันเองและพัฒนาจนกลายเป็นแฟรนไชส์ขายดีที่สุดของ Ubisoft และมีแฟนๆทั่วโลกจวบจนทุกวันนี้
.
นั่นคือ Assassin's Creed ที่วางจำหน่ายบน PlayStation 3 และ Xbox 360 เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2007 โดยนักพัฒนาหลัก 3 คน คือ Patrice Désilets, Jade Raymond และ Corey May โดยได้แรงบันดาลใจจากนิยาย Alamut ของนักเขียนชาวสโลเวเนียน นาม Vladimir Bartol
.
เดิมทีแล้ว เกมนี้ ไม่ได้ชื่อว่า Assassin's Creed แต่แรก หากแต่มันเป็นภาคต่อของเกมซีรีส์ Prince of Persia ที่มีชื่อว่า Prince of Persia: Assassin และมีแผนที่จะวางจำหน่ายบน PlayStation 2 โดยอิงรูปแบบเกมเพลย์เส้นตรงเหมือนอย่าง The Sands of Time ที่วางจำหน่ายก่อนหน้า แต่หลังจากที่มีการเปิดตัวคอนโซลยุคใหม่ในตอนนั้น ทำให้ Patrice Désilets ผู้สร้างได้ตัดสินใจขยายตัวเกมออกเป็นแนว Open World เพื่อรองรับกับฮาร์ดแวร์ใหม่ในตอนนั้น
.
ซึ่ง Désilets อยากจะเปลี่ยนตัวเอกจาก เจ้าชายที่รอคอยการได้ขึ้นบัลลังก์เหมือนอย่างใน Prince of Persia ให้เป็นตัวละครที่มุ่งมั่นดิ้นรนเพื่อจะขึ้นเป็นราชา จนเขาได้พบวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับนักฆ่า (Assassins) ในหนังสือสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่ในตอนนั้นเขาก็ได้ปิ๊งไอเดียให้ตัวละครนี้เป็นนักฆ่าที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำกลุ่ม รวมถึงได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของ Hassan-i Sabbah หมอศาสนาในนิกาย Nizari Ismaili ที่เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มนักฆ่าในยุคแรกๆ และนิยาย Alamut ของ Bartol ทำให้เขาได้สร้างตัวละครแรกของเขาในชื่อ Altaïr (ซึ่งในภาษาอาราบิก แปลว่า นกอินทรี) และเริ่มพัฒนา Prince of Persia: Assassin นับจากนั้น
.
อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวเกมพัฒนามาเกือบ 2 ปี จนเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ทาง Montreal ผู้พัฒนาก็เกิดข้อขัดแย้งกับทางฝ่ายจัดการของ Ubisoft ในเรื่องของทิศทางของเกม
.
เพราะในตอนนั้น มีการออกแบบให้ Prince of Persia: Assassin ใช้ AI ควบคุมตัวละครเจ้าชายในเกม และให้ผู้เล่นควบคุม Assassin ในฐานะบอดี้การ์ดของเจ้าชาย และช่วยเหลือคุ้มกันเขาในสถานการณ์ต่างๆ ที่ฝ่ายจัดการของทาง Ubisoft ชี้ว่า พวกเขาอยากจะได้เกมในแฟรนไชส์ Prince of Persia ภาคใหม่ก็จริง แต่มันแปลกมากที่เกมนี้มีชื่อว่า Prince แต่ผู้เล่นเป็นตัวละครอื่นที่ไม่ใช่เจ้าชาย
.
นั่นทำให้ทีมพัฒนาโต้กลับว่า ด้วยคอนโซลยุคใหม่ที่กำลังจะมาถึง เขาสามารถทำให้เกมนี้เป็นแฟรนไชส์ใหม่ได้ ซึ่งฝ่ายการตลาดได้ปิ๊งไอเดียที่จะตั้งชื่อเกมนี้ว่า Assassin's Creed ในช่วงก่อนงาน Game Developers Conference จะเริ่มในปี 2006 ที่ Désilets เองก็ยอมรับว่ามันเหมาะสมลงตัวกับธีมเกมที่พวกเขาได้ทำขึ้น รวมถึงมันเข้ากับประโยคว่า "nothing is true; everything is permitted" ของนักฆ่าได้เป็นอย่างดี นั่นทำให้ทีมงานล้มเลิกแนวคิดเกี่ยวกับตัวละครเจ้าชาย และไปมุ่งเน้นที่ตัวละครนักฆ่าเพียงอย่างเดียว นับแต่นั้นเป็นต้นมา
.
หลังจากที่ประกาศเปิดตัวในฐานะ Assassin's Creed เกมในแฟรนไชส์ใหม่ ในงาน E3 2006 ที่มันประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม และทาง Ubisoft Montreal ก็ได้รับการสนับสนุนด้วยทีมงานกว่า 150 คน ในปีสุดท้ายของการพัฒนา จนได้วางจำหน่ายบนคอนโซลยุคใหม่ในตอนนั้น อย่าง PlayStation 3 และ Xbox 360 ในวันที่ 13 พ.ย. 2007
.
ซึ่งตัวเกมได้รับเสียงตอบรับไปในทางที่ดีมาก แม้ว่าสื่อในตอนนั้นจะยอมรับว่า Assassin's Creed คือประสบการณ์การเล่นที่ทำลายมาตรฐานเดิมของเกมแนวลอบเร้น แม้ว่าจะมีรูปแบบการเล่นที่มีจังหวะค่อนข้างช้า เกมเพลย์ที่ซ้ำซาก และ AI ที่ค่อนข้างแย่ ก็ตาม แต่ตัวเกมก็ได้รับรางวัลมากมาย และแน่นอนว่า ตัวเกมทำยอดขายได้เกินกว่าที่ทางผู้จัดจำหน่ายคาดเอาไว้ โดยในปี 2009 หรือหลังจากที่ตัวเกมวางจำหน่ายแล้ว 2 ปี ทาง Ubisoft ได้เปิดเผยว่า มันสามารถทำยอดขายได้มากถึง 8 ล้านชุดเลยทีเดียว ที่นั่นก็มากเพียงพอแล้วที่ Assassin's Creed ได้กลายเป็นแฟรนไชส์หน้าใหม่ ที่เป็นรากฐานของภาคต่อนับจากนั้นเป็นต้นมา
.
Source : https://en.wikipedia.org/wiki/Assassin%27s_Creed
https://en.wikipedia.org/wi…/Assassin%27s_Creed_(video_game)
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-
Steam Wallet, Battle.net Code, PSN ซื้อง่าย ได้โค๊ดทันที >> GGKeyStore.com
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-
Humble Monthly ประจำเดือน ธ.ค. จ่าย $12 ประมาณ 370 บาท รับ สตีมคีย์ Yakuza Kiwami, My Time at Portia, SOULCALIBUR 6 ไปเล่นทันที และได้รับอีก 4 - 5 เกม ในวันที่ 7 ธ.ค. ดูที่นี่ - http://bit.ly/2KA2c0c
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
alamut 在 Emily lim 林佩琦 Facebook 的最佳解答
Ended my adventurous Persia trip with snow mountain and Oven Lake view in Alamut Valley.
假期结束了,能量满满的回归工作,继续冲刺。
#emilylimgoestravel
#emilylimgoestoiran
#有机会再组团一起去伊朗
alamut 在 劈柴喂馬走天下 Facebook 的精選貼文
來伊朗旅行最好還是帶歐元過來換
之前爬文時看到大家都帶美金,而我自己的銀行帳戶裡也有剩一些美金,也就直接帶美金過來了,不過在伊朗旅行的過程中我發現不少住宿跟導遊收的是歐元,且在路上跟歐洲的遊客聊天後他們都一致認為歐元在伊朗的匯率比美金好不少。
如其中我報的 Alamut 一日遊,領隊說 30 歐元一人,但他發給我的里亞爾總價兌換回歐元是 35 歐元,奇怪的是無論是酒店還是一日團他們都會自動地將匯率提高,以拿到一個更好的收入,可是在機場或找換店你根本換不到他們的價格,因此若手頭沒有零散的歐元,那你也只能吃這個差價的虧。
臨時加插了 Alamut 的行程,一給兩晚的房費後,就發現旅費所剩無幾了,在 Qazvin 小城裡走了好久總算找到一家找換店,可惜吃了個白果,給完明天 Alamut 的團費,那我應該立刻變得很窮,不知道還夠不夠支付剩下幾天的費用。
在伊朗旅行時,被不少伊朗人推薦伊朗北部,如果你也喜歡自然風光的話,那麼你也可以避開大眾路線選擇一下伊朗的北部,下次若再來就得去北部玩了。